การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ยืนยันว่าเขื่อนสิริกิติ์ยังมั่นคงสามารถรับปริมาณน้ำฝนได้อีกกว่าร้อยละ 50 ของปริมาณเก็บกักน้ำ ส่วนการสั่งตัดไฟจากสถานีต้นทางอุตรดิตถ์ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน แต่จะรีบสำรวจอุปกรณ์และความเป็นไปได้ในการปล่อยกระแสไฟฟ้าให้ประชาชน
นายจำนงค์ วงศ์สว่าง รองผู้ว่าการระบบส่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก เนื่องจากในพื้นที่ภาคเหนือมีฝนตกหนักติดต่อกันในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาว่า สามารถวัดปริมาณน้ำฝนได้กว่า 263 มิลลิเมตร มากที่สุดในรอบ 38 ปี ส่งผลให้น้ำท่วมสูงจากพื้นดินในบริเวณสถานีไฟฟ้าแรงสูงอุตรดิตถ์ถึง 160 เซนติเมตร และไหลท่วมห้องควบคุมการจ่ายไฟอุตรดิตถ์ 60 เซนติเมตร ซึ่งหากน้ำมีปริมาณสูงมากกว่านี้อาจก่อให้เกิดอันตรายต่ออุปกรณ์การจ่ายกระแสไฟฟ้าและประชาชน ดังนั้น กฟผ.และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้พิจารณางดการจ่ายไฟฟ้าชั่วคราวจากสถานีไฟฟ้าแรงสูงอุตรดิตถ์ ในวันที่ 23 พฤษภาคม 2549 ตั้งแต่เวลา 07.45 น. ทำให้พื้นที่อำเภอลับแลและในเมืองอุตรดิตถ์เกิดไฟฟ้าดับ รวม 3,000 กิโลวัตต์
อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเย็นของวันนี้ปริมาณน้ำจะลดลง และหากเป็นไปตามคาดการณ์ กฟผ. จะรีบส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น อุปกรณ์ป้องกันภัย มิเตอร์วัดไฟ และหม้อแปลงไฟฟ้าทันที รวมทั้งจะประสานงานกับ กฟภ. ถึงความพร้อมที่จะจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับประชาชนตามปกติ ซึ่งในส่วนของ กฟผ.ได้เตรียมหม้อแปลงไฟฟ้าจำนวน 2 เครื่องไว้เรียบร้อย และพร้อมจ่ายให้กับ กฟภ.ต่อไป โดย กฟภ. จะเป็นผู้พิจารณาว่าสถานการณ์ในพื้นที่ที่เกิดเหตุมีความปลอดภัยมากน้อยเพียงใดและสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าไปตามบ้านเรือนได้หรือไม่
นายจำนงค์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา เคยเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมในสถานีไฟฟ้าแรงสูงของ กฟผ. ในหลายพื้นที่ แต่ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ยังไม่เคยเกิดและปริมาณน้ำมีค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม กฟผ.ได้หาแนวทางป้องกันในปัญหาดังกล่าวมาโดยตลอดด้วยการติดตั้งระบบปั๊มน้ำ สร้างกำแพง และยกระดับห้องควบคุมศูนย์ให้สูงขึ้น
สำหรับในส่วนของการรองรับน้ำในเขื่อนสิริกิติ์ซึ่งตั้งอยู่เหนือบริเวณตัวเมืองยังสามารถรับปริมาณน้ำฝนได้อย่างพอเพียง เนื่องจากปัจจุบันมีปริมาตรน้ำอยู่ประมาณ 4,000 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความสามารถรองรับน้ำได้ทั้งหมดที่ประมาณ 9,000 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือยังคงรับน้ำได้กว่าร้อยละ 50 และขณะนี้ได้ระงับเครื่องปล่อยน้ำไว้เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น ขอให้ประชาชนมั่นใจในความมั่นคงของเขื่อนสิริกิติ์ และ กฟผ.จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งแก้ไขเหตุการณ์ให้คลี่คลายโดยเร็ว
นายจำนงค์ วงศ์สว่าง รองผู้ว่าการระบบส่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก เนื่องจากในพื้นที่ภาคเหนือมีฝนตกหนักติดต่อกันในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาว่า สามารถวัดปริมาณน้ำฝนได้กว่า 263 มิลลิเมตร มากที่สุดในรอบ 38 ปี ส่งผลให้น้ำท่วมสูงจากพื้นดินในบริเวณสถานีไฟฟ้าแรงสูงอุตรดิตถ์ถึง 160 เซนติเมตร และไหลท่วมห้องควบคุมการจ่ายไฟอุตรดิตถ์ 60 เซนติเมตร ซึ่งหากน้ำมีปริมาณสูงมากกว่านี้อาจก่อให้เกิดอันตรายต่ออุปกรณ์การจ่ายกระแสไฟฟ้าและประชาชน ดังนั้น กฟผ.และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้พิจารณางดการจ่ายไฟฟ้าชั่วคราวจากสถานีไฟฟ้าแรงสูงอุตรดิตถ์ ในวันที่ 23 พฤษภาคม 2549 ตั้งแต่เวลา 07.45 น. ทำให้พื้นที่อำเภอลับแลและในเมืองอุตรดิตถ์เกิดไฟฟ้าดับ รวม 3,000 กิโลวัตต์
อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเย็นของวันนี้ปริมาณน้ำจะลดลง และหากเป็นไปตามคาดการณ์ กฟผ. จะรีบส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น อุปกรณ์ป้องกันภัย มิเตอร์วัดไฟ และหม้อแปลงไฟฟ้าทันที รวมทั้งจะประสานงานกับ กฟภ. ถึงความพร้อมที่จะจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับประชาชนตามปกติ ซึ่งในส่วนของ กฟผ.ได้เตรียมหม้อแปลงไฟฟ้าจำนวน 2 เครื่องไว้เรียบร้อย และพร้อมจ่ายให้กับ กฟภ.ต่อไป โดย กฟภ. จะเป็นผู้พิจารณาว่าสถานการณ์ในพื้นที่ที่เกิดเหตุมีความปลอดภัยมากน้อยเพียงใดและสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าไปตามบ้านเรือนได้หรือไม่
นายจำนงค์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา เคยเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมในสถานีไฟฟ้าแรงสูงของ กฟผ. ในหลายพื้นที่ แต่ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ยังไม่เคยเกิดและปริมาณน้ำมีค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม กฟผ.ได้หาแนวทางป้องกันในปัญหาดังกล่าวมาโดยตลอดด้วยการติดตั้งระบบปั๊มน้ำ สร้างกำแพง และยกระดับห้องควบคุมศูนย์ให้สูงขึ้น
สำหรับในส่วนของการรองรับน้ำในเขื่อนสิริกิติ์ซึ่งตั้งอยู่เหนือบริเวณตัวเมืองยังสามารถรับปริมาณน้ำฝนได้อย่างพอเพียง เนื่องจากปัจจุบันมีปริมาตรน้ำอยู่ประมาณ 4,000 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความสามารถรองรับน้ำได้ทั้งหมดที่ประมาณ 9,000 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือยังคงรับน้ำได้กว่าร้อยละ 50 และขณะนี้ได้ระงับเครื่องปล่อยน้ำไว้เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น ขอให้ประชาชนมั่นใจในความมั่นคงของเขื่อนสิริกิติ์ และ กฟผ.จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งแก้ไขเหตุการณ์ให้คลี่คลายโดยเร็ว