ขสมก.ใช้วิธีจูงใจขยายอายุใบอนุญาตเดินรถอีก 5 ปี จากเดิมทุก 2 ปีเป็น 7 ปี หวังจูงใจผู้ประกอบการรถมินิบัสหันมาปรับสภาพรถให้มีมาตรฐาน เปลี่ยนสภาพเป็นรถปรับอากาศและใช้ก๊าซเอ็นจีวี โดยล่าสุดมีรถ 100 คันเข้าร่วมโครงการ ขณะที่การตรวจสภาพรถช่วงที่ผ่านมาได้ผลเกินคาด โดยข่าวอุบัติเหตุและบริการไม่ดีลดลง
นายโอภาส เพชรมุณี รักษาการผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า การจัดระเบียบรถร่วมบริการมินิบัส ซึ่งกระทรวงคมนาคมใช้วิธีการตรวจสภาพอย่างเข้มงวด ซึ่งผู้ประกอบการรายใดสภาพรถไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย ได้สั่งพักรถให้ทำการปรับปรุงจนถึงการระงับใบอนุญาต ซึ่งที่ผ่านมามาได้รับความร่วมมืออย่างดีมีผู้ประกอบการนำรถมาตรวจกว่า 800 คัน จากรถมินิบัสทั้งระบบประมาณ 1,000 คัน ขณะที่ใบอนุญาตให้เดินรถของมินิบัสเกือบทั้งหมด จะหมดอายุลงภายในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งหากถึงกำหนดดังกล่าว รถคันใดยังไม่เข้าตรวจสภาพ หรือไม่ผ่านการตรวจก็จะต้องหยุดเดินรถ
“ที่ผ่านมาการตรวจสภาพ ได้ส่งผลดีอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งปัจจุบันปริมาณอุบัติเหตุและข่าวเกี่ยวกับบริการที่ไม่ดีของมินิบัสได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง” นายโอภาสกล่าว
สำหรับรถมินิบัสที่ผ่านการตรวจสภาพ นายโอภาส กล่าวว่า พล.อ.ชัยนันท์ เจริญศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ที่กำกับดูแล ขสมก.ได้ให้นโยบายว่า การต่อใบอนุญาตเดินรถจะให้ระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี และระหว่างอายุของใบอนุญาต ต้องนำรถเข้ามาตรวจสภาพตามโปรแกรมคุมเข้มทุก 3-6 เดือนด้วย ซึ่งแนวทางดังกล่าวจะเป็นการควบคุมมาตรฐานการเดินรถความปลอดภัยของรถมินิบัสในระยะยาว นอกจากนี้ ขสมก.ยังได้นำมาตรการพิเศษ เพื่อจูงใจผู้ประกอบการรถมินิบัสปรับปรุงสภาพรถให้ได้มาตรฐานตามที่ภาครัฐกำหนดเป้าหมาย คือให้รถมินิบัสทุกคันต้องเป็นรถปรับอากาศและใช้ก๊าซเอ็นจีวี โดยผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว ขสมก.จะต่อใบอนุญาตเดินรถให้ครั้งละ 7 ปี ซึ่งมาตรการดังกล่าวได้รับการตอบรับที่ดี โดยปัจจุบันมีรถมินิบัสได้เข้าโครงการปรับปรุงสภาพ ความยาวตัวรถอีก 1 เมตร และดัดแปลงเครื่องยนต์ใช้ก๊าซเอ็นจีวีแล้วประมาณ 100 คัน จากจำนวนรถ 1,000 คัน และในจำนวนดังกล่าว มีรถประมาณ 30-40 คัน ดัดแปลงสภาพเป็นรถปรับอากาศ
นายโอภาส เพชรมุณี รักษาการผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า การจัดระเบียบรถร่วมบริการมินิบัส ซึ่งกระทรวงคมนาคมใช้วิธีการตรวจสภาพอย่างเข้มงวด ซึ่งผู้ประกอบการรายใดสภาพรถไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย ได้สั่งพักรถให้ทำการปรับปรุงจนถึงการระงับใบอนุญาต ซึ่งที่ผ่านมามาได้รับความร่วมมืออย่างดีมีผู้ประกอบการนำรถมาตรวจกว่า 800 คัน จากรถมินิบัสทั้งระบบประมาณ 1,000 คัน ขณะที่ใบอนุญาตให้เดินรถของมินิบัสเกือบทั้งหมด จะหมดอายุลงภายในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งหากถึงกำหนดดังกล่าว รถคันใดยังไม่เข้าตรวจสภาพ หรือไม่ผ่านการตรวจก็จะต้องหยุดเดินรถ
“ที่ผ่านมาการตรวจสภาพ ได้ส่งผลดีอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งปัจจุบันปริมาณอุบัติเหตุและข่าวเกี่ยวกับบริการที่ไม่ดีของมินิบัสได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง” นายโอภาสกล่าว
สำหรับรถมินิบัสที่ผ่านการตรวจสภาพ นายโอภาส กล่าวว่า พล.อ.ชัยนันท์ เจริญศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ที่กำกับดูแล ขสมก.ได้ให้นโยบายว่า การต่อใบอนุญาตเดินรถจะให้ระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี และระหว่างอายุของใบอนุญาต ต้องนำรถเข้ามาตรวจสภาพตามโปรแกรมคุมเข้มทุก 3-6 เดือนด้วย ซึ่งแนวทางดังกล่าวจะเป็นการควบคุมมาตรฐานการเดินรถความปลอดภัยของรถมินิบัสในระยะยาว นอกจากนี้ ขสมก.ยังได้นำมาตรการพิเศษ เพื่อจูงใจผู้ประกอบการรถมินิบัสปรับปรุงสภาพรถให้ได้มาตรฐานตามที่ภาครัฐกำหนดเป้าหมาย คือให้รถมินิบัสทุกคันต้องเป็นรถปรับอากาศและใช้ก๊าซเอ็นจีวี โดยผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว ขสมก.จะต่อใบอนุญาตเดินรถให้ครั้งละ 7 ปี ซึ่งมาตรการดังกล่าวได้รับการตอบรับที่ดี โดยปัจจุบันมีรถมินิบัสได้เข้าโครงการปรับปรุงสภาพ ความยาวตัวรถอีก 1 เมตร และดัดแปลงเครื่องยนต์ใช้ก๊าซเอ็นจีวีแล้วประมาณ 100 คัน จากจำนวนรถ 1,000 คัน และในจำนวนดังกล่าว มีรถประมาณ 30-40 คัน ดัดแปลงสภาพเป็นรถปรับอากาศ