คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) มีมติแต่งตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหากรณีกลุ่มโรงงานวังขนายติดหนี้ค่าอ้อยชาวไร่อ้อยกว่า 200 - 300 ล้านบาท โดยจะต้องแก้ไขปัญหาให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน ระบุหากแก้ไขไม่ได้จะลงโทษวังขนายตาม พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย
นายดำริ สุโขธนัง รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) เปิดเผยว่าที่ประชุม กอน. ได้แต่งตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหากรณีกลุ่มโรงงานวังขนายติดหนี้ค่าอ้อยชาวไร่อ้อยกว่า 200 - 300 ล้านบาท เนื่องจากเกิดปัญหาสภาพคล่อง โดยมีนายอำนวย ปะติเส เป็นประธาน และมีตัวแทนชาวไร่อ้อยรวมทั้งกลุ่มวังขนาย ร่วมเป็นคณะทำงานด้วย พร้อมกำหนดกรอบทำงานว่าจะต้องแก้ไขปัญหาให้เสร็จสิ้นภายใน 15 วัน หากแก้ไขปัญหาไม่ได้ กอน.ก็คงจะต้องลงโทษวังขนายตาม พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย ที่มีโทษทั้งทางอาญาและค่าปรับ ซึ่งเบื้องต้นคณะทำงานระบุว่ามีแนวทางแก้ปัญหา คือ ให้มีการชะลอการจำหน่ายน้ำตาลโควตา ก. หรือน้ำตาลที่จำหน่ายในประเทศของวังขนายออกไปก่อนจนกว่าจะมีข้อตกลงกับชาวไร่อ้อย ว่า จะนำน้ำตาลโควตา ก. แบ่งชำระหนี้อย่างไร ซึ่งวังขนายเหลือการขึ้นงวดการจำหน่ายอีก 30 งวด ซึ่งจากการดูเม็ดเงินโควตา ก.ที่เหลือแล้ว เพียงพอต่อการจ่ายหนี้ แต่ทางกลุ่มวังขนายจะต้องเจรจากับธนาคารเจ้าหนี้ เช่น ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารนครหลวงไทย เพื่อขอผ่อนปรนนำเงินที่จำเป็นต้องชำระหนี้ส่วนหนึ่งมาจ่ายหนี้แก่ชาวไร่อ้อย และคาดว่า ธนาคารน่าจะเห็นด้วยกับมาตรการนี้ เพราะแนวโน้มราคาน้ำตาลทรายในปีหน้ายังคงดีต่อเนื่องจากปีนี้ที่ล่าสุดมีราคา 17-18 เซนต์/ปอนด์ ดังนั้น การชำระหนี้ในอนาคตไม่น่าจะมีปัญหา
นายดำริ สุโขธนัง รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) เปิดเผยว่าที่ประชุม กอน. ได้แต่งตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหากรณีกลุ่มโรงงานวังขนายติดหนี้ค่าอ้อยชาวไร่อ้อยกว่า 200 - 300 ล้านบาท เนื่องจากเกิดปัญหาสภาพคล่อง โดยมีนายอำนวย ปะติเส เป็นประธาน และมีตัวแทนชาวไร่อ้อยรวมทั้งกลุ่มวังขนาย ร่วมเป็นคณะทำงานด้วย พร้อมกำหนดกรอบทำงานว่าจะต้องแก้ไขปัญหาให้เสร็จสิ้นภายใน 15 วัน หากแก้ไขปัญหาไม่ได้ กอน.ก็คงจะต้องลงโทษวังขนายตาม พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย ที่มีโทษทั้งทางอาญาและค่าปรับ ซึ่งเบื้องต้นคณะทำงานระบุว่ามีแนวทางแก้ปัญหา คือ ให้มีการชะลอการจำหน่ายน้ำตาลโควตา ก. หรือน้ำตาลที่จำหน่ายในประเทศของวังขนายออกไปก่อนจนกว่าจะมีข้อตกลงกับชาวไร่อ้อย ว่า จะนำน้ำตาลโควตา ก. แบ่งชำระหนี้อย่างไร ซึ่งวังขนายเหลือการขึ้นงวดการจำหน่ายอีก 30 งวด ซึ่งจากการดูเม็ดเงินโควตา ก.ที่เหลือแล้ว เพียงพอต่อการจ่ายหนี้ แต่ทางกลุ่มวังขนายจะต้องเจรจากับธนาคารเจ้าหนี้ เช่น ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารนครหลวงไทย เพื่อขอผ่อนปรนนำเงินที่จำเป็นต้องชำระหนี้ส่วนหนึ่งมาจ่ายหนี้แก่ชาวไร่อ้อย และคาดว่า ธนาคารน่าจะเห็นด้วยกับมาตรการนี้ เพราะแนวโน้มราคาน้ำตาลทรายในปีหน้ายังคงดีต่อเนื่องจากปีนี้ที่ล่าสุดมีราคา 17-18 เซนต์/ปอนด์ ดังนั้น การชำระหนี้ในอนาคตไม่น่าจะมีปัญหา