บางจากมั่นใจเซ็นสัญญาตั้งพันธมิตรเข้ามาบริหารจัดการมินิมาร์ทในปั๊มมิ.ย.นี้ ตั้งเป้าปีแรกเปลี่ยนชื่อมินิมาร์ทใหม่ 20-30 แห่ง วงในชี้"แฟมิลี่มาร์ท"มีภาษีได้รับเลือกค่อนข้างสูง
นายมนูญ ศิริวรรณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ด้านการตลาด บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าขณะนี้บางจากใกล้บรรลุข้อตกลงร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจที่จะให้เข้ามาดูแลบริหารงานในมินิมาร์ทของปั๊มน้ำมันบางจาก คาดว่าจะลงนามสัญญาดังกล่าวได้ภายในปลายเดือนมิ.ย.นี้
สาเหตุที่ต้องดึงพันธมิตรเข้ามาบริหารมินิมาร์ทในปั๊มน้ำมันบางจากนั้น เนื่องจากต้องการมืออาชีพที่มีความรู้ประสบการณ์ และโนฮาวเข้ามาดูแลบริหารงานมินิมาร์ท ภายใต้ภาวะการแข่งขันที่นับวันจะทวีความรุนแรง จากเดิมที่ให้บริษัทย่อย คือ เลมอนกรีน เป็นผู้บริหารจัดการทั้งหมด ทำให้บางจากไม่ต้องลงทุนในมินิมาร์ทเพิ่ม เนื่องจากพาร์ทเนอร์จะเป็นผู้ลงทุนเองทั้งหมด และมีการแบ่งรายได้และกำไรจากตามสัดส่วนจากยอดขายตามเงื่อนไขที่กำหนด (Profit Sharing)
ดังนั้น รูปแบบมินิมาร์ทของปั๊มน้ำมันบางจากจะเปลี่ยนเป็นแบรนด์ของพาร์ทเนอร์จากเดิมที่ใช้ชื่อว่าเลมอนกรีน และร้านใบจากที่มีอยู่ประมาณ 100 แห่งทั่วประเทศ โดยเบื้องต้นจะมีการทยอยเปลี่ยนชื่อเป็นร้านเป็นของพาร์ทเนอร์ในปีนี้ประมาณ 20-30 แห่ง และคาดว่าจะเปลี่ยนชื่อมินิมาร์ทได้หมดภายใน 4-5 ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม ทั้งปีคาดว่าบางจากมีรายได้จากธุรกิจNON OIL ประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้จากธุรกิจมินิมาร์ทประมาณ 40 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณที่บางจากเคยใช้ในการลงทุนมินิมาร์ทปีละ7-8 ล้านบาทจะนำไปใช้ลงทุนในธุรกิจNON OIL อื่นๆ อาทิ ร้านกาแฟอินทนิน เป็นต้น
นายนนูญ กล่าวถึงนโยบายที่จะขยายปั๊มน้ำมันบางจากที่จำหน่ายก๊าซNGVว่า บริษัทฯให้ความร่วมมือกับกระทรวงพลังงานและปตท.ในการเพิ่มจุดจำหน่ายก๊าซNGV เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันก็จะเป็นการเพิ่มรายได้ของบางจากด้วย โดยล่าสุดได้ส่งรายชื่อปั๊มที่สามารถขายก๊าซNGVได้ให้ปตท.ไปพิจารณาคัดเลือก โดยตั้งเป้าหมายว่าจะมีปั๊มบางจากที่จำหน่ายก๊าซNGVได้ในปีนี้มากกว่า 10 แห่งทั้งในเขตกรุงเทพและภาคกลาง โดยเดือนมิ.ย.นี้จะมีปั๊มที่ให้บริการเติมก๊าซNGV 3 แห่ง คือ ที่ราษฏร์บูรณะ , ย่านนวลจันทร์ และถนนกิ่งแก้ว เป็นต้น ตั้งเป้าหมายยอดขายเดือนละ 2-3 แสนก.ก.
แหล่งข่าววงในกล่าวว่า มีแนวโน้มที่บางจากตัดสินใจเลือกแฟมิลี่มาร์ท เข้าเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ เข้ามาบริหารจัดการมินิมาร์ทในปั๊มบางจาก
ส่วนแนวโน้มราคาขายปลีกน้ำมันในช่วงนี้ว่า แม้ราคาน้ำมันในตลาดโลกเริ่มอ่อนตัวลง แต่คงไม่สามารถปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันลงได้ เนื่องจากค่าการตลาดเบนซินยังติดลบเกือบ 1 บาท และดีเซลบวก 40 สตางค์ต่อลิตร ขณะที่ค่าการตลาดที่ผู้ค้าน้ำมันอยู่ได้ต้องบวก 1 บาท/ลิตร อย่างไรก็ตามคงต้องมาพิจารณาราคาขายปลีกน้ำมันอีกครั้งในสัปดาห์หน้า
นายมนูญ ศิริวรรณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ด้านการตลาด บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าขณะนี้บางจากใกล้บรรลุข้อตกลงร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจที่จะให้เข้ามาดูแลบริหารงานในมินิมาร์ทของปั๊มน้ำมันบางจาก คาดว่าจะลงนามสัญญาดังกล่าวได้ภายในปลายเดือนมิ.ย.นี้
สาเหตุที่ต้องดึงพันธมิตรเข้ามาบริหารมินิมาร์ทในปั๊มน้ำมันบางจากนั้น เนื่องจากต้องการมืออาชีพที่มีความรู้ประสบการณ์ และโนฮาวเข้ามาดูแลบริหารงานมินิมาร์ท ภายใต้ภาวะการแข่งขันที่นับวันจะทวีความรุนแรง จากเดิมที่ให้บริษัทย่อย คือ เลมอนกรีน เป็นผู้บริหารจัดการทั้งหมด ทำให้บางจากไม่ต้องลงทุนในมินิมาร์ทเพิ่ม เนื่องจากพาร์ทเนอร์จะเป็นผู้ลงทุนเองทั้งหมด และมีการแบ่งรายได้และกำไรจากตามสัดส่วนจากยอดขายตามเงื่อนไขที่กำหนด (Profit Sharing)
ดังนั้น รูปแบบมินิมาร์ทของปั๊มน้ำมันบางจากจะเปลี่ยนเป็นแบรนด์ของพาร์ทเนอร์จากเดิมที่ใช้ชื่อว่าเลมอนกรีน และร้านใบจากที่มีอยู่ประมาณ 100 แห่งทั่วประเทศ โดยเบื้องต้นจะมีการทยอยเปลี่ยนชื่อเป็นร้านเป็นของพาร์ทเนอร์ในปีนี้ประมาณ 20-30 แห่ง และคาดว่าจะเปลี่ยนชื่อมินิมาร์ทได้หมดภายใน 4-5 ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม ทั้งปีคาดว่าบางจากมีรายได้จากธุรกิจNON OIL ประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้จากธุรกิจมินิมาร์ทประมาณ 40 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณที่บางจากเคยใช้ในการลงทุนมินิมาร์ทปีละ7-8 ล้านบาทจะนำไปใช้ลงทุนในธุรกิจNON OIL อื่นๆ อาทิ ร้านกาแฟอินทนิน เป็นต้น
นายนนูญ กล่าวถึงนโยบายที่จะขยายปั๊มน้ำมันบางจากที่จำหน่ายก๊าซNGVว่า บริษัทฯให้ความร่วมมือกับกระทรวงพลังงานและปตท.ในการเพิ่มจุดจำหน่ายก๊าซNGV เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันก็จะเป็นการเพิ่มรายได้ของบางจากด้วย โดยล่าสุดได้ส่งรายชื่อปั๊มที่สามารถขายก๊าซNGVได้ให้ปตท.ไปพิจารณาคัดเลือก โดยตั้งเป้าหมายว่าจะมีปั๊มบางจากที่จำหน่ายก๊าซNGVได้ในปีนี้มากกว่า 10 แห่งทั้งในเขตกรุงเทพและภาคกลาง โดยเดือนมิ.ย.นี้จะมีปั๊มที่ให้บริการเติมก๊าซNGV 3 แห่ง คือ ที่ราษฏร์บูรณะ , ย่านนวลจันทร์ และถนนกิ่งแก้ว เป็นต้น ตั้งเป้าหมายยอดขายเดือนละ 2-3 แสนก.ก.
แหล่งข่าววงในกล่าวว่า มีแนวโน้มที่บางจากตัดสินใจเลือกแฟมิลี่มาร์ท เข้าเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ เข้ามาบริหารจัดการมินิมาร์ทในปั๊มบางจาก
ส่วนแนวโน้มราคาขายปลีกน้ำมันในช่วงนี้ว่า แม้ราคาน้ำมันในตลาดโลกเริ่มอ่อนตัวลง แต่คงไม่สามารถปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันลงได้ เนื่องจากค่าการตลาดเบนซินยังติดลบเกือบ 1 บาท และดีเซลบวก 40 สตางค์ต่อลิตร ขณะที่ค่าการตลาดที่ผู้ค้าน้ำมันอยู่ได้ต้องบวก 1 บาท/ลิตร อย่างไรก็ตามคงต้องมาพิจารณาราคาขายปลีกน้ำมันอีกครั้งในสัปดาห์หน้า