xs
xsm
sm
md
lg

หอการค้าไทยคาดเศรษฐกิจปีนี้ขยายตัวร้อยละ 4-4.5

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หอการค้าไทยระบุผลกระทบน้ำมันส่งผลให้เศรษฐกิจปีนี้ขยายตัวที่ร้อยละ 4-4.5 ส่วนอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ร้อยละ 4.5-5 เหตุกำลังซื้อหด ขณะที่ภาคเอกชนเสนอรัฐเร่งพัฒนาระบบราง และควรกำหนดราคากลาง สินค้าป้องกันการฉวยโอกาศปรับราคากันเอง

นายธนวรรธน์ พลวิชัย
ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ร่วมแถลงข่าวกับผู้บริหารหอการค้าไทย เพื่อประเมินสถานการณ์ผลกระทบจากราคาน้ำมันที่มีการปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยทางหอการค้าไทย เชื่อว่าจากปัญหาราคาน้ำมันที่มีการปรับตัวสูงขึ้น และยังจะปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ปลายไตรมาส 2 จนถึงต้นไตรมาส 4 โดยคาดว่าราคาน้ำมันจะเฉลี่ยอยู่ที่ 68-75 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นอัตราที่ค่อนข้างสูง

อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นเช่นนี้ ย่อมส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ เช่น ภาคธุรกิจประมงที่ใช้น้ำมันสูงถึงร้อยละ 60-70 โดยกลุ่มภาคประมงที่จะสามารถทำธุรกิจได้ราคาน้ำมันเฉลี่ยจะต้องอยู่ที่ 15 บาทต่อลิตร แต่ขณะนี้ราคาน้ำมันอยู่ที่ 28 บาทต่อลิตร ทำให้ผู้ที่ทำธุรกิจประมงหยุดจับปลาแล้วกว่าร้อยละ 60 และหากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นเช่นนี้ เชื่อว่ากลุ่มประมงจะหยุดจับปลาเพิ่มขึ้น ส่วนภาคการขนส่งที่ใช้ดีเซลเป็นส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 50 หากราคาน้ำมันขึ้น 1 บาท ต้นทุนจะเพิ่มถึงร้อยละ 5 และต้นทุนที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว ผู้ประกอบการจะต้องเป็นผู้แบกรับภาระ ดังนั้น หากต้นทุนขึ้นถึงร้อยละ 30 กำไรจะลดลงถึงร้อยละ 20 ขณะที่การขนส่งทางน้ำก็มีต้นทุนสูงขึ้นเช่นกัน ดังนั้น ขอเสนอแนะในส่วนภาคการขนส่งอยากให้ภาครัฐจัดระบบการจัดสรรเส้นทางไม่ให้เกิดการซ้ำซ้อน และควรมีการกำหนดราคากลาง เพราะไม่เช่นนั้น จะเกิดการปรับราคากันเอง ซึ่งจะเป็นผลเสียอย่างมาก พร้อมกันนี้ ทางภาคเอกชนเห็นด้วยที่จะต้องมีการเร่งพัฒนาระบบราง ได้แก่ รถไฟฟ้า เพราะที่ผ่านมา การทำระบบรางค่อนข้างล่าช้า รัฐควรหันมาพัฒนาระบบขนส่งทางราง แม้ว่าที่ผ่านมา จะมีการก่อสร้างระบบราง แต่มีความล่าช้า โดยปัจจุบันระบบขนส่งทางมีเพียงร้อยละ 5 เท่านั้น จึงอยากให้ภาครัฐกำหนดทิศทางการพัฒนาระบบรางให้มีความชัดเจน

นายธนวรรธน์ กล่าวว่า รัฐบาลพยายามสนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้ก๊าซเอ็นจีวี แต่ขณะนี้สถานีบริการยังมีไม่เพียงพอ ซึ่งเรื่องนี้ภาครัฐต้องกลับไปพิจารณา รวมถึงกำหนดราคาน้ำมันขนส่งที่จะให้กับภาคธุรกิจสามารถแข่งขันได้ และสามารถตั้งราคาที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากที่ราคาน้ำมัน โดยเฉพาะราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำมันดีเซลที่ใช้น้ำมันประมาณวันละ 55 ล้านลิตร ทำให้ผู้ใช้น้ำมันดีเซลมีภาระต้นทุนการใช้จ่ายสูงขึ้นประมาณวันละ 55 ล้านบาท หรือ 1,650 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งการที่ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศสูงขึ้น 1 บาทต่อลิตร อำนาจซื้อของประชาชนลดลงประมาณ 2,000 ล้านบาทต่อเดือน หากปรับขึ้น 1-2 บาทต่อลิตร ตั้งแต่ปัจจุบันจนถึงสิ้นปี จะทำให้อำนาจซื้อของประชาชนลดลงประมาณ 16,000-32,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวน้อยกว่าถึงร้อยละ 0.2-0.4 และจะทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นร้อยละ 0.2-0.4 เช่นกัน

ศูนย์พยากรณ์ฯ ประเมินว่า ผลกระทบจากราคาน้ำมันจะทำให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้ขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 4-4.5 ซึ่งเป็นไปตามที่ศูนย์พยากรณ์ฯ ตั้งไว้ โดยปัจจัยหนุนมาจากเศรษฐกิจโลกยังมีการขยายตัวอยู่ รวมถึงการส่งออกที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมายไว้ว่า ปีนี้จะขยายตัวร้อยละ 15-17.5 เป็นไปได้สูง แต่ในส่วนของอัตราเงินเฟ้อ คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นจากเป้าหมายเดิมที่ทางศูนย์ฯ มองว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ร้อยละ 4-4.5 เป็นร้อยละ 4.5-5 เนื่องจากกำลังซื้อของประชาชนลดลงอย่างต่อเนื่อง

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานคณะกรรมการพลังงาน หอการค้าไทย กล่าว่า ทางหอการค้าไทยร่วมกับกระทรวงพลังงาน จัดตั้งศูนย์ศึกษาการประหยัดพลังงาน เพื่อเป็นศูนย์กลางให้คำปรึกษาแนะนำและประสานงาน ตลอดจนอำนวยความสะดวกให้กับสถานประกอบการเอสเอ็มอีทั่วไปที่ต้องการแนวทางประหยัดพลังงาน และในช่วงระหว่างวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ทางหอการค้าไทยจะมีการจัดสัมมนาใหญ่เรื่อง “โอกาสและทางรอดของธุรกิจภายใต้วิกฤติพลังงาน” ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
กำลังโหลดความคิดเห็น