กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี เตรียมเร่งรัดแผนปรับปรุงท่าเรือเกาะพีพี จังหวัดกระบี่ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น โดยจะรื้อท่าเทียบเรือเดิม ซึ่งปัจจุบันอยู่ในสภาพไม่มั่นคงปลอดภัยและก่อสร้างใหม่ สามารถรองรับเรือโดยสารท่องเที่ยวขนาดใหญ่ได้ครั้งละ 8 ลำ โดยจะใช้งบประมาณ 80 ล้านบาท และระยะเวลาก่อสร้าง 1 ปีครึ่ง
นายถวัลย์รัฐ อ่อนศิริ อธิบดีกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี เปิดเผยว่า ปัจจุบันสภาพของท่าเรือเพื่อการท่องเที่ยวที่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ มีสภาพทรุดโทรม ผิวปูนแตกร่อนบริเวณสะพานท่าเทียบเรือ ซึ่งทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว โดยปัจจุบันกรมการขนส่งทางน้ำฯ ได้แก้ไขด้วยการนำเสาไม้ไปปักห่างจากสะพานดังกล่าวในระยะ 2 เมตร เพื่อไม่ให้เรือขนาดใหญ่ที่มาเทียบท่าไปกระแทกกับท่าเทียบเรือ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม กรมฯ ได้เร่งรัดแผนการปรับปรุงท่าเรือที่เกาะพีพีมาตลอด แม้ว่าจะมีอุปสรรค เนื่องจากแผนก่อสร้างไม่ผ่านการจัดทำรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เสนอให้สำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม (สผ.) พิจารณา ซึ่งแบบก่อสร้างเดิมจะเป็นท่าเทียบเรือที่มีขนาด 4 ขา สามารถรองรับเรือโดยสารขนาดใหญ่ได้พร้อมกัน 16 ลำ แต่ล่าสุด กรมฯ ได้ปรับแผนเพื่อลดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมตามที่ สผ.ต้องการ โดยจะเป็นการก่อสร้างท่าเรือในขนาด 2 ขา ที่สามารถรองรับเรือโดยสารท่องเที่ยวขนาดใหญ่ได้ครั้งละ 8 ลำ ซึ่งกรมฯ จะเสนอแผนการก่อสร้างใหม่ให้ สผ. พิจารณาอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า เชื่อว่าจะผ่านความเห็นชอบและก่อสร้างได้ โดยการก่อสร้างจะใช้วงเงินงบประมาณ 80 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้างไม่เกิน 1 ปี 6 เดือน จะทำให้ท่าเทียบเรือที่เกาะพีพีมีความแข็งแรงปลอดภัย และทำให้นักท่องเที่ยวได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น
ปัจจุบัน เกาะพีพี มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเดินทางมาใช้บริการเฉลี่ย 1.4 ล้านคนต่อปี ส่วนใหญ่เดินทางมาจากจังหวัดใกล้เคียง ทั้งจังหวัดภูเก็ต และพังงา โดยเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางทั้งในลักษณะไป-กลับ และอยู่พักค้างคืน
นายถวัลย์รัฐ อ่อนศิริ อธิบดีกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี เปิดเผยว่า ปัจจุบันสภาพของท่าเรือเพื่อการท่องเที่ยวที่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ มีสภาพทรุดโทรม ผิวปูนแตกร่อนบริเวณสะพานท่าเทียบเรือ ซึ่งทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว โดยปัจจุบันกรมการขนส่งทางน้ำฯ ได้แก้ไขด้วยการนำเสาไม้ไปปักห่างจากสะพานดังกล่าวในระยะ 2 เมตร เพื่อไม่ให้เรือขนาดใหญ่ที่มาเทียบท่าไปกระแทกกับท่าเทียบเรือ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม กรมฯ ได้เร่งรัดแผนการปรับปรุงท่าเรือที่เกาะพีพีมาตลอด แม้ว่าจะมีอุปสรรค เนื่องจากแผนก่อสร้างไม่ผ่านการจัดทำรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เสนอให้สำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม (สผ.) พิจารณา ซึ่งแบบก่อสร้างเดิมจะเป็นท่าเทียบเรือที่มีขนาด 4 ขา สามารถรองรับเรือโดยสารขนาดใหญ่ได้พร้อมกัน 16 ลำ แต่ล่าสุด กรมฯ ได้ปรับแผนเพื่อลดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมตามที่ สผ.ต้องการ โดยจะเป็นการก่อสร้างท่าเรือในขนาด 2 ขา ที่สามารถรองรับเรือโดยสารท่องเที่ยวขนาดใหญ่ได้ครั้งละ 8 ลำ ซึ่งกรมฯ จะเสนอแผนการก่อสร้างใหม่ให้ สผ. พิจารณาอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า เชื่อว่าจะผ่านความเห็นชอบและก่อสร้างได้ โดยการก่อสร้างจะใช้วงเงินงบประมาณ 80 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้างไม่เกิน 1 ปี 6 เดือน จะทำให้ท่าเทียบเรือที่เกาะพีพีมีความแข็งแรงปลอดภัย และทำให้นักท่องเที่ยวได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น
ปัจจุบัน เกาะพีพี มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเดินทางมาใช้บริการเฉลี่ย 1.4 ล้านคนต่อปี ส่วนใหญ่เดินทางมาจากจังหวัดใกล้เคียง ทั้งจังหวัดภูเก็ต และพังงา โดยเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางทั้งในลักษณะไป-กลับ และอยู่พักค้างคืน