อาหารแช่แข็งคึกคัก หวังผลช่วงบอลโลกดันยอดพุ่งไม่ต่ำกว่า 20% คนซื้อไปทานหน้าจอลุ้นดูบอล พรานทะเลเปิดตัวกลยุทธ์เด็ดไส้กรอกซีฟู้ดทำจากปลา หวังกระตุ้นยอดไตรมาสสองโตมากกว่า 100% เล็งขยายช่องทางขายแบบสแตนด์ อโลนร่วมกับแฟรนไชส์ คาดปีนี้ได้เห็น 2 สาขา ตั้งเป้าสิ้นปียอดขาย 950 ล้านบาท ด้านพีเอฟพีเดินหน้ารุกตลาดในไทยหนักขึ้นภายใต้งบตลาด 50 ล้านบาท หลังตลาดส่งออกคู่แข่งแข่งขันมาก ล่าสุดเปิดตัวข้าวกล่องทัพพี 2 เมนูใหม่ เจาะกลุ่มคนรักสุขภาพ พร้อมส่งทัพพีทั้ง 6 เมนูรับช่วงบอลโลก เล็งเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ในรอบ 3 ปีในเดือนส.ค.นี้ คาดยอดรายได้สิ้นปีนี้ 2,000 ล้านบาท
นายอนุรัตน์ โค้วคาสัย เจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการตลาดและปฎิบัติการ บริษัทพรานทะเล มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลฟุตบอลโลก 2006 ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้บริษัทฯมองว่าจะส่งผลดีต่อภาพรวมอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งพร้อมทาน จากการที่ผู้บริโภคจะซื้อสินค้าไปรับประทานขณะชมการแข่งขันฟุตบอลในตอนกลางคืน โดยคาดว่าช่วงนี้จะมีอัตราการบริโภคเติบโตสูงขึ้น 20%
พรานทะเลรุกแฟรนไชส์ตู้แช่
ส่วนแผนการตลาดในช่วงไตรมาสสองบริษัทฯชูกลยุทธ์ทำตลาดอย่างครบวงจรในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ ภายใต้งบการตลาดทั้งปี 40 ล้านบาท โดยจะมีการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ที่ต้องการสื่อไปยังผู้บริโภคที่ไม่เคยบริโภคอาหารแช่แข็งให้สนใจอยากทดลองมากขึ้น ในวันที่ 1 มิ.ย. 49นี้
รวมถึงจะเน้นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ อาทิ ไส้กรอกซีฟู้ดที่มีส่วนผสมจากปลา 4 รส ได้แก่ ปลาดุก,ปลาแซลมอน เป็นต้น ที่จะเปิดตัวในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งถือว่าเป็นสินค้าไฮไลท์ในปีนี้ที่บริษัทฯจะเน้นทำตลาดเป็นพิเศษ เนื่องจากในตลาดยังไม่มีใครทำไส้กรอกที่มีส่วนผสมจากปลามีแต่ไก่และหมูเท่านั้น โดยบริษัทฯคาดว่ายอดขายไส้กรอกในแต่ละปีจะมีประมาณ 100 ล้านบาท
ในส่วนของพรานทะเลจะมีการทำตลาด 2 รูปแบบ ได้แก่ การเปิดตัวสินค้าใหม่ อาทิ ไส้กรอกที่ทำจากปลา และการทำโปรโมชั่นหรือกิจกรรมต่างๆ เช่น ซื้อข้าวต้ม 3 กล่องรับซีฟู้ดแพนเค้กฟรี 1 กล่อง เป็นต้น ซึ่งยอดรายได้ในช่วงไตรมาสสองนี้คาดว่าจะทะลุ 250 ล้านบาทหรือเติบโตมากกว่า 100% หากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนี้บริษัทฯยังเน้นขยายช่องทางการขายใหม่ๆ เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น ล่าสุดบริษัทฯสนใจที่จะเปิดร้านพรานทะเลในรูปแบบสแตนด์ อโลนที่จำหน่ายสินค้าพรานทะเลขึ้น ภายใต้การลงทุนร่วมกับแฟรนไชส์ โดยที่ผู้ร่วมทุนจะไม่เสียค่ารอยัลตี้ฟี แต่ต้องรับและจำหน่ายสินค้าของพรานทะเล หรือมีพื้นที่ของตัวเองบริษัทฯก็จะรับไว้พิจารณา ซึ่งโครงการนี้จะเปิดตัวในงานแฟรนไชส์ที่จะจัดขึ้นในเดือนมิ.ย. นี้ โดยบริษัทฯคาดว่าจะได้เห็นร้านรูปแบบนี้ 1-2 แห่งภายในสิ้นปีนี้
ขณะที่ช่องทางการขายในปัจจุบันบริษัทฯมีจุดขายกว่า 1,300 จุด ทั้งในซูเปอร์มาร์เก็ต โมเดิร์นเทรดและสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสและใต้ดิน ฯลฯ ทั้งนี้คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะเปิดได้ครบ 2,000 จุด
ล่าสุดบริษัทฯได้เข้าร่วมงานแสดงสินค้า "ไทยเฟ็กซ์-เวิลด์ ออฟ ฟู้ด เอเชีย 2006" ที่เมืองทองธานี ภายใต้คอนเซ็ปต์ "พรานทะเล ซูเปอร์มาร์เก็ต" โดยวัตถุประสงค์ของการเข้าร่วมงานเพื่อนำเสนอสินค้าของพรานทะเลที่มีครบวงจร อาทิ อาหารทะเลแช่แข็งพร้อมปรุง, ซูชิ ฯลฯ รวมถึงการเปิดตัวสินค้าใหม่ในงาน เช่น ไส้กรอกซีฟู้ดและขนมหวานในแบรนด์พรานไพร เป็นต้น โดยไฮไลท์เด่นของงานได้มีการเนรมิตอาหารกล่องข้าวผัดปูพรานทะเลขนาดใหญ่ ขนาด 2 คูณ 1.2 เมตร
สำหรับยอดรายได้ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาพบว่ามียอดรายได้ตามเป้าหรือประมาณ 225 ล้านบาท เนื่องจากการทำตลาดสินค้าอย่างต่อเนื่อง และการขยายช่องทางขายไปยังตลาดรากหญ้ากว่า 100 แห่ง รวมถึงเปิดตัวสินค้าใหม่ เช่น ข้าวหน้าปลาไหล ราคา 180 บาทและแกงกระหรี่ไก่ เป็นต้น สำหรับยอดรายได้ของบริษัทฯทั้งปีคาดว่าจะได้ประมาณ 950 ล้านบาทหรือมีอัตราการเติบโต 50% จากปีที่แล้วที่มียอดรายได้ 600 ล้านบาท
พีเอฟพีเบนหัวรบมุ่งไทย
นายพริษฐ์ อนุกูลธนาการ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แปซิฟิก แปรรูปสัตว์น้ำ จำกัด หรือพีเอฟพี เปิดเผยว่า แผนการตลาดในปีนี้ของพีเอฟพีจะเน้นทำตลาดในประเทศไทยมากขึ้น เพราะเห็นศักยภาพในตลาดยังมีช่องว่างอยู่ ขณะที่ตลาดส่งออกเริ่มมีการแข่งขันที่สูงขึ้นจากผู้ประกอบการไทยเองหรือการแข่งขันเรื่องราคา เป็นต้น โดยสัดส่วนยอดรายได้ในปัจจุบันในปัจจุบันของพีเอฟพีจะเน้นส่งออก คิดเป็น 60% และตลาดในประเทศ 40% ในปีนี้คาดว่าสัดส่วนจะเปลี่ยนไปเป็น 50 : 50
ล่าสุดบริษัทฯได้เปิดตัวข้าวกล่องสำเร็จรูป ภายใต้แบรนด์ทัพพี 2 เมนูใหม่ ได้แก่ ปลาหิมะญี่ปุ่นราดซอสกระเทียมและปลาซาบะย่าง ราคากล่องละ 40-45 บาท โดยกลุ่มเป้าหมายของสินค้าใหม่ คือ กลุ่มผู้บริโภคที่รักสุขภาพและชอบทานปลา ส่วนช่องทางการขายขณะนี้ได้เริ่มวางขายในตู้แช่พีเอฟพี 650 จุดแล้ว และจะวางขายในซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อในเดือนมิถุนายนนี้ ปัจจุบันเมนูทัพพีมีทั้งหมด 6 เมนู ราคาประมาณ 40 บาท
นายพริษฐ์ กล่าวด้วยว่า ช่วงเทศกาลฟุตบอลโลกที่กำลังจะเกิดขึ้นมองว่าเป็นโอกาสของธุรกิจอาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง ซึ่งคนจะนิยมซื้อสินค้าไปเก็บในตู้เย็นและนำมาทานในช่วงการแข่งขันหรือหลังการแข่งขัน ตรงนี้เชื่อว่าตลาดรวมอาหารกล่องแช่แข็งจะเติบโต 20%
สำหรับงบการตลาดในปีนี้บริษัทฯเตรียมใช้ประมาณ 50 ล้านบาทในการทำสื่อโฆษณาและกิจกรรมต่างๆ โดยบริษัทฯเตรียมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์แบรนด์หรือรีเฟรชแบรนด์ หลังจากที่เคยใช้ภาพยนตร์โฆษณาเมื่อ 3 ปีที่แล้ว
นอกจากนี้บริษัทฯยังได้มีการปรับตัวรับภาวะน้ำมันแพงด้วยการลดต้นทุนภายในองค์กร เช่น ลดของเสียจากการผลิตให้น้อยลง หรือการใช้ระบบลอจิสติกส์ให้เกิดความคุ้มค่า อาทิ การหาสินค้าอื่นๆ เช่น เฟรนชส์ฟรายและปลาซาบะมาจำหน่ายและขนส่งผ่านรถของบริษัทฯ
ทั้งนี้ยอดรายได้ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาของบริษัทฯพบว่าเป็นไปตามเป้าหรือคิดเป็นยอดการผลิตเดือนละ 700 ตัน สำหรับยอดรายได้สิ้นปีนี้คาดว่าจะมีประมาณ 2,000 ล้านบาท
ตลาดรวมอาหารแช่แข็งพร้อมทานมีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 600 ล้านบาท ปัจจุบันอีซี่ส์โกของเซเว่นอีเลฟเว่นฯ ครองตลาดมากกว่า 60-70% ที่เหลือเป็น เอส แอนด์ พี สุรพลฟู้ด พรานทะเล และข้าวกล่องทัพพี เป็นต้น