xs
xsm
sm
md
lg

สพท.ชงเรื่องของบด่วน200ล. ผุดส้วมสาธารณะเวอร์ทั่วไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สพท. อ้อน ชงเรื่องของบ “สุวัจน์” 200 ล้านบาท สร้างส้วมไฮโซ ที่บางแห่งมีมูลค่าถึง 7 ล้านบาท  หลังงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1,000 ล้านบาท ทำผิดหวัง ไม่สามารถเบิกจ่ายเงินได้  อ้างต้องทำเช่นนี้เพราะเกิดสุญญากาศทางการเมือง  แต่เป็นเรื่องเร่งด่วนจึงต้องเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ  พร้อมเร่งติดไฟริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ผลานงบอีกดวงละ 2.2 แสนบาท

นางธนิฏฐา มณีโชติ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว(สพท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า  ได้ทำเรื่องของบประมาณจำนวน 200 ล้านบาท ต่อคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ  ซึ่งมีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รักษาการรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อนำไปสร้างห้องน้ำสาธารณะใน 74 แห่งทั่วประเทศ  โดยให้เหตุผลว่าเป็นโครงการเร่งด่วนที่ต้องรีบดำเนินการ เพราะถือเป็นบริการพื้นฐานที่ทุกแหล่งท่องเที่ยวต้องมีห้องสุขาที่สะอาดและได้มาตรฐานไว้คอยต้อนรับนักท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าว ก่อนหน้านี้จะใช้เงินจากงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจกลางปีหรืองบฉุกเฉินที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติเห็นชอบในหลักการอนุมัติวงเงิน 2.5 พันล้านบาท เพื่อมาดำเนินการทั้งในส่วนของ สพท. และ ททท. โดย สพท. ได้จัดสรรมาทั้งสิ้น 1 พันล้านบาท แต่ถึงบัดนี้วงเงินดังกล่าวยังไม่สามารถเบิกจ่ายได้ จึงต้องย้ายโครงการมาบรรจุไว้เป็นโครงการเร่งด่วน เสนอต่อคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติดังกล่าวข้างต้น

ทั้งนี้ สพท. มีการศึกษาถึงรูปแบบการสร้างห้องสุขามาตั้งแต่กลางปี 2548 และได้ข้อสรุปในเดือนมีนาคม 2549  โดยจะแบ่งแผนการสร้างห้องน้ำสาธารณะแบ่งเป็น 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.แบบมาตรฐานพิเศษ ขนาด 2 ไร่ งบลงทุนแห่งละ 7 ล้านบาท จำนวน 12 แห่ง เช่น จังหวัดชุมพร ภูเก็ต กระบี่ พังงา เป็นต้น 2.แบบมาตรฐานกลาง ขนาด 1 ไร่ งบลงทุนแห่งละ 3 ล้านบาท จำนวน 12 แห่ง เช่น แม่ฮ่องสอน จันทบุรี ฯลฯ 3.แบบมาตรฐาน เอ งบลงทุนแห่งละ 1.5 ล้านบาท จำนวน 31 แห่ง เช่น ประจวบคีรีขันธ์ เชียงใหม่ เชียงราย และ 4.แบบมาตรฐาน บี งบลงทุนแห่งละ 1 ล้านบาท จำนวน 19 แห่ง เช่น อุดรธานี อุตรดิตถ์ พิษณุโลก

“จะเห็นว่าแต่ละแห่งใช้งบประมาณและจำนวนห้องสุขาต่างกัน เพราะเราใช้หลักการคำนวนตัวเลขรายได้ และจำนวนนักท่องเที่ยว ซึ่งขั้นตอนต่อไปจะทำการเปิดซองประมูลหาผู้รับเหมาก่อสร้าง โดยก่อนหน้านี้ได้เสนอของบก่อสร้างจากผู้ว่าซีอีโอในแต่ละจังหวัด แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ ประกอบกับการยุบสภาทำให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง ไม่สามารถดำเนินโครงการใดๆที่ต้องขออนุมัติจากผู้ใหญ่ในกระทรวงได้  จึงนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ”

นางธนิฏฐา กล่าวอีกว่า สพท. ยังได้ร่วมกับกรุงเทพมหานคร และการไฟฟ้านครหลวง ดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์ให้แสงสว่าง บริเวณ 2 ฝั่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตามสถานที่สำคัญ และโบราณสถาน ซึ่งจะติดตั้งใน 28 จุด ในวงเงิน 62.92 ล้านบาท  แบ่งเป็นงบประมาณจาก สพท. 47.92 ล้านบาท  ส่วนที่เหลือเป็นงบจากกรุงเทพมหานคร  ส่วนรายละเอียดคือจะติดตั้งประมาณจุดละ 5-10 ดวง เฉลี่ยค่าใช้จ่ายดวงละ 2.2 แสนบาท

“การประดับไฟตามแหล่งท่องเที่ยวสองฝั่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา  เชื่อว่าจะทำให้แม่น้ำเจ้าพระยาเป็นที่สนใจและน่าท่องเที่ยวในยามค่ำคืนได้มากขึ้น และคาดว่าจะสามารถดึงนักท่องเที่ยวให้สนใจมาล่องเรือเที่ยวชมแม่น้ำเจ้าพระยาได้เพิ่มขึ้น 30% จากเดิมที่จะมีนักท่องเที่ยวมาล่องชมแม่น้ำเจ้าพระยาต่อปีที่ 33 ล้านคน และยังช่วยเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวได้อีก 25%”

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผลงาน สพท. ในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2549 (ต.ค.-มี.ค.)  ยังไม่มีผลงานคืบหน้ามากนัก โดยโครงการหมู่บ้านโอท็อป ตอนนี้ทำสำเร็จแล้ว 8 แห่ง ซึ่งเท่าๆกับปีก่อนศูนย์บริการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยแบบเบ็ดเสร็จหรือ One Stop Service Center ก็ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากต้องรอผ่าน ครม. เพราะต้องขอเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานมานั่งประจำที่ศูนย์ฯดังกล่าว ส่วนรายได้จากการถ่ายทำภาพยนตร์ 4 เดือนแรกปีนี้(ม.ค.-เม.ย.49) มีรายได้ 683 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งเป็นช่วงหลังเกิดสึนามิ  85%  แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2547 จะใกล้เคียงกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น