ไอซีทีระบุ ทอท.แจ้งขอคืนพื้นที่ตั้งสถานีตรวจอากาศภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ด้านกระทรวงไอซีที หวั่นจะทำให้สนามบินไม่สามารถเปิดได้ทันในเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมนี้ ตามที่รัฐบาลกำหนดไว้แน่ สัปดาห์หน้าเตรียมหารือกับบริษัทร่วมกับผู้บริหารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อหาทางออกต่อปัญหาดังกล่าวต่อไป
นายไกรสร พรสุธี ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยว่า การดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์และเครื่องตรวจวัดสภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ภายในพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งเดิมการติดตั้งคืบหน้ากว่าร้อยละ 80 แล้ว แต่ล่าสุด เกิดอุปสรรคขึ้น เมื่อบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เจ้าของพื้นที่ได้แจ้งให้ทราบว่า จำเป็นต้องขอพื้นที่ที่อยู่ระหว่างการติดตั้งดังกล่าว ไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ กระทรวงไอซีทีได้นำรายงานให้กับ นายสุชัย เจริญรัตนกุล รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีทีรับทราบแล้ว เพื่อให้นำปัญหาดังกล่าวไปหารือกับผู้บริหารกระทรวงคมนาคม ซึ่งกำกับดูแลการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิต่อไป
ทั้งนี้กระทรวงไอซีที อยากทำความเข้าใจในประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้น 3 ข้อ คือ ประการแรก การขอพื้นที่ เป็นความต้องการของบริษัทท่าอากาศยานไทยเอง ดังนั้นบริษัทท่าอากาศยานไทยควรออกค่าใช้จ่ายในการขนย้ายด้วย และที่สำคัญอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับใช้ในการตรวจวัดสภาพอากาศต้องใช้ระยะเวลาในการติดตั้งไม่น้อยกว่า 4 เดือน ทำให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้รับผลกระทบไม่อาจเปิดได้ทันในเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม 2549 ตามเป้าหมายของรัฐบาลที่ตั้งไว้ ซึ่งก็ไม่ใช่ความบกพร่องของกระทรวงไอซีที รวมทั้งการรายงานข่าวสภาพออกอากาศของสนามบินก็ถือเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องมีความพร้อมสูงสุดเพื่อสร้างความมั่นใจในการดำเนินธุรกรรมทางการบิน หากไม่มีความพร้อมเชื่อว่า ผู้ประกอบการสายการบินต่างๆ อาจเกิดความไม่มั่นใจขึ้น ซึ่งในสัปดาห์หน้าผู้บริหารกระทรวงไอซีที มีกำหนดการที่จะร่วมหารือกับ นายสมชัย สวัสดีผล ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อหาทางออกต่อปัญหาดังกล่าว
นายไกรสร พรสุธี ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยว่า การดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์และเครื่องตรวจวัดสภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ภายในพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งเดิมการติดตั้งคืบหน้ากว่าร้อยละ 80 แล้ว แต่ล่าสุด เกิดอุปสรรคขึ้น เมื่อบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เจ้าของพื้นที่ได้แจ้งให้ทราบว่า จำเป็นต้องขอพื้นที่ที่อยู่ระหว่างการติดตั้งดังกล่าว ไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ กระทรวงไอซีทีได้นำรายงานให้กับ นายสุชัย เจริญรัตนกุล รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีทีรับทราบแล้ว เพื่อให้นำปัญหาดังกล่าวไปหารือกับผู้บริหารกระทรวงคมนาคม ซึ่งกำกับดูแลการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิต่อไป
ทั้งนี้กระทรวงไอซีที อยากทำความเข้าใจในประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้น 3 ข้อ คือ ประการแรก การขอพื้นที่ เป็นความต้องการของบริษัทท่าอากาศยานไทยเอง ดังนั้นบริษัทท่าอากาศยานไทยควรออกค่าใช้จ่ายในการขนย้ายด้วย และที่สำคัญอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับใช้ในการตรวจวัดสภาพอากาศต้องใช้ระยะเวลาในการติดตั้งไม่น้อยกว่า 4 เดือน ทำให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้รับผลกระทบไม่อาจเปิดได้ทันในเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม 2549 ตามเป้าหมายของรัฐบาลที่ตั้งไว้ ซึ่งก็ไม่ใช่ความบกพร่องของกระทรวงไอซีที รวมทั้งการรายงานข่าวสภาพออกอากาศของสนามบินก็ถือเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องมีความพร้อมสูงสุดเพื่อสร้างความมั่นใจในการดำเนินธุรกรรมทางการบิน หากไม่มีความพร้อมเชื่อว่า ผู้ประกอบการสายการบินต่างๆ อาจเกิดความไม่มั่นใจขึ้น ซึ่งในสัปดาห์หน้าผู้บริหารกระทรวงไอซีที มีกำหนดการที่จะร่วมหารือกับ นายสมชัย สวัสดีผล ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อหาทางออกต่อปัญหาดังกล่าว