“ประชา”ชมผู้ว่า ททท.ปฎิบัติงานเข้าตา ชี้ ในสถานการณ์เศรษฐกิจยุดน้ำมันแพง อุตสาหกรรมท่องเที่ยวน่าห่วง ควรได้ผู้ว่าที่รู้งานและทำงานต่อเนื่องได้ เผยขอเวลาอีก 2-3 วัน ให้ฝ่ายกฎหมายตีความระเบียบปฎิบัติ ก่อนชงเรื่องเข้าบอร์ดปลายเดือนนี้ เผยหากต่ออายุสัญญาเป็นอำนาจบอร์ดตัดสินใจได้ทันที
นายประชา มาลีนนท์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้เตรียมเดินหน้าที่จะทำการพิจารณาว่าจะต่อสัญญาผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) หรือ จะตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้ว่า ททท. คนใหม่ โดยขอเวลาศึกษาข้อมูลอีกราว 2-3 วัน ซึ่งในเรื่องนี้ได้ขอให้ฝ่ายกฎหมายของกระทรวงร่วมพิจารณาถึงความเป็นไปได้ด้วยว่า หากจะต่ออายุสัญญาสามารถทำได้หรือไม่ อย่างไร หรือถ้าเลือกสรรใหม่ ต้องทำอะไรบ้าง เพื่อให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์
โดยก่อนหน้านี้มองว่า ในช่วงรัฐบาลรักษาการณ์ซึ่งเป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ ไม่ควรพิจารณาหรืออนุมัติเรื่องที่จะมีผลกับการทำงานในระยะยาว หรือเรื่องที่ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก แต่เมื่อในขณะนี้รูปการณ์ทางการเมืองได้ปรับเปลี่ยนไปอีก โดยตอนแรกคิดว่าหลังเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ก็จะให้รัฐมนตรีคนใหม่มาดูแลจัดการ แต่เมื่อขณะนี้ ศาลรัฐธรรมนูญประกาศให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ และต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ ทำให้ตนต้องเข้ามาดูและตัดสินใจในเรื่องจำเป็นเร่งด่วนอย่างเช่นการสรรหาผู้ว่าการททท. มาปฎิบัติงานแทนผู้ว่าฯเดิมที่จะสิ้นสุดสัญญาว่าจ้างในเดือนกันยายนศกนี้ เพราะในสถานการณ์เช่นนี้ ตำแหน่งผู้ว่าการ ททท.ถือว่าสำคัญมาก ที่จะเข้ามาดูแลและกระตุ้นการตลาดด้านการท่องเที่ยว
“โดยส่วนตัวมองว่า การทำงานของผู้ว่า ททท.คนนี้ก็ดี มีความสัมพันธ์ที่ดีมากกับประเทศเป้าหมาย อย่าง จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น และในสถานการณ์เช่นนี้ คือภาวะเศรษฐกิจที่ค่าครองชีพสูง น้ำมันแพง อาจกระทบต่อการท่องเที่ยว ดังนั้นควรให้คนที่สามารถเข้ามาดำเนินการต่อเนื่องได้ ดังนั้นการขอต่ออายุสัญญาผู้ว่าฯคนเดิมที่มีอยู่ควรเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการสรรหา และต้องดูด้วยว่าในสถานการณ์เช่นนี้ เราควรเสี่ยงที่จะให้คนใหม่เข้ามาดำเนินงานต่อหรือไม่”
อย่างไรก็ตาม หากต่ออายุสัญญา ในระเบียบปฎิบัติระบุไว้ชัดเจนว่า จะต่อได้ครั้งละ 1 ปี แต่ต้องอยู่ในขอบข่ายว่าอายุผู้ว่าการ ททท. ต้องไม่เกิน 60 ปี บริบูรณ์ โดยขณะนี้กำลังให้ฝ่ายกฎหมายช่วยมาดูและตีความเพิ่มเติม คาดว่าจะนำเข้าบอร์ดพิจารณาในการประชุมที่จะมีขึ้นในปลายเดือนนี้ โดยหากเป็นการต่ออายุสัญญาเป็นอำนาจของบอร์ด ททท. ที่สามารถดำเนินการได้ทันที
นายประชา มาลีนนท์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้เตรียมเดินหน้าที่จะทำการพิจารณาว่าจะต่อสัญญาผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) หรือ จะตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้ว่า ททท. คนใหม่ โดยขอเวลาศึกษาข้อมูลอีกราว 2-3 วัน ซึ่งในเรื่องนี้ได้ขอให้ฝ่ายกฎหมายของกระทรวงร่วมพิจารณาถึงความเป็นไปได้ด้วยว่า หากจะต่ออายุสัญญาสามารถทำได้หรือไม่ อย่างไร หรือถ้าเลือกสรรใหม่ ต้องทำอะไรบ้าง เพื่อให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์
โดยก่อนหน้านี้มองว่า ในช่วงรัฐบาลรักษาการณ์ซึ่งเป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ ไม่ควรพิจารณาหรืออนุมัติเรื่องที่จะมีผลกับการทำงานในระยะยาว หรือเรื่องที่ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก แต่เมื่อในขณะนี้รูปการณ์ทางการเมืองได้ปรับเปลี่ยนไปอีก โดยตอนแรกคิดว่าหลังเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ก็จะให้รัฐมนตรีคนใหม่มาดูแลจัดการ แต่เมื่อขณะนี้ ศาลรัฐธรรมนูญประกาศให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ และต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ ทำให้ตนต้องเข้ามาดูและตัดสินใจในเรื่องจำเป็นเร่งด่วนอย่างเช่นการสรรหาผู้ว่าการททท. มาปฎิบัติงานแทนผู้ว่าฯเดิมที่จะสิ้นสุดสัญญาว่าจ้างในเดือนกันยายนศกนี้ เพราะในสถานการณ์เช่นนี้ ตำแหน่งผู้ว่าการ ททท.ถือว่าสำคัญมาก ที่จะเข้ามาดูแลและกระตุ้นการตลาดด้านการท่องเที่ยว
“โดยส่วนตัวมองว่า การทำงานของผู้ว่า ททท.คนนี้ก็ดี มีความสัมพันธ์ที่ดีมากกับประเทศเป้าหมาย อย่าง จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น และในสถานการณ์เช่นนี้ คือภาวะเศรษฐกิจที่ค่าครองชีพสูง น้ำมันแพง อาจกระทบต่อการท่องเที่ยว ดังนั้นควรให้คนที่สามารถเข้ามาดำเนินการต่อเนื่องได้ ดังนั้นการขอต่ออายุสัญญาผู้ว่าฯคนเดิมที่มีอยู่ควรเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการสรรหา และต้องดูด้วยว่าในสถานการณ์เช่นนี้ เราควรเสี่ยงที่จะให้คนใหม่เข้ามาดำเนินงานต่อหรือไม่”
อย่างไรก็ตาม หากต่ออายุสัญญา ในระเบียบปฎิบัติระบุไว้ชัดเจนว่า จะต่อได้ครั้งละ 1 ปี แต่ต้องอยู่ในขอบข่ายว่าอายุผู้ว่าการ ททท. ต้องไม่เกิน 60 ปี บริบูรณ์ โดยขณะนี้กำลังให้ฝ่ายกฎหมายช่วยมาดูและตีความเพิ่มเติม คาดว่าจะนำเข้าบอร์ดพิจารณาในการประชุมที่จะมีขึ้นในปลายเดือนนี้ โดยหากเป็นการต่ออายุสัญญาเป็นอำนาจของบอร์ด ททท. ที่สามารถดำเนินการได้ทันที