กลุ่มผู้ประกอบการรถ 4 ล้อเล็กกว่า 2,000 คัน ขู่ปิดถนนประท้วงขอผ่อนผันจับกุม กรณีวิ่งทับเส้นทางสัมปทานของรถโดยสาร ขสมก. และรถร่วมบริการ โดยต้องการวิ่งในเส้นทางเดิมต่อไป ขณะที่รถร่วมบริการยืนยันไม่ให้ผ่อนผันวิ่งทับเส้นทาง ระบุหากเจอแจ้งจับกุมทันที ด้านกระทรวงคมนาคมสั่งกรมการขนส่งทางบกจัดเส้นทางสัมปทานให้เสร็จภายในสัปดาห์หน้า
วันนี้ (9 พ.ค.) กลุ่มผู้ประกอบการรถ 4 ล้อเล็กกว่า 2,000 คัน จอดชุมนุมที่ลานพระบรมรูปทรงม้าตั้งแต่เวลา 03.00 น. เพื่อเรียกร้องผ่อนผันการจับกุมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในข้อหาวิ่งทับเส้นทางสัมปทานรถโดยสาร องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และรถร่วมบริการ ในช่วงที่กำลังจัดระเบียบเส้นทางสัมปทานรถ 4 ล้อเล็กของกรมการขนส่งทางบก
นางมณีวรรณ ทรัพย์รุ่งเรือง ประธานสหกรณ์ชัยโย 4 ล้อเล็ก แกนนำผู้ประกอบการรถ 4 ล้อเล็ก กล่าวว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ต้องการให้กระทรวงคมนาคมจัดระเบียบให้วิ่งในเส้นทางเดิมต่อไป เนื่องจากเห็นว่าเส้นทางที่จะจัดให้ใหม่นั้นไม่เหมาะสมกับผู้ประกอบการ นอกจากนี้ ยังต้องการให้ยุติการจับกุมผู้ประกอบการไว้ก่อน แม้จะลดค่าปรับลงจาก 1,000 บาท เหลือ 500 บาทก็ตาม เพราะที่ผ่านมารถ 4 ล้อเล็กกว่า 6,000 คัน ได้รับผลกระทบจากการจับกุมมาโดยตลอด ซึ่งทางผู้ประกอบการต้องการให้รถร่วมบริการ ขสมก.เลื่อนการแจ้งจับกุมออกไปอีกระยะหนึ่ง จนกว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องเส้นทางสัมปทานรถ 4 ล้อเล็กได้
“ยอมรับว่าตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมาได้กระทำผิดกฎหมายมาโดยตลอด แต่เมื่อกระทรวงคมนาคมให้โอกาสในการจัดเส้นทางสัมปทาน ก็นับเป็นสิ่งที่ดี และต้องขอขอบคุณที่ให้ความช่วยเหลือเพื่อทำให้รถ 4 ล้อเล็กถูกกฎหมาย จึงอยากจะขอความช่วยเหลือจากรถร่วมบริการ ขสมก. ซึ่งเป็นเจ้าของสัมปทานให้โอกาสวิ่งรับส่งผู้โดยสารอีกต่อไป 6 เดือน เพื่อให้มีรายได้และหาเส้นทางควบคู่ไปด้วยกัน และหากยังไม่มีแนวทางให้ความช่วยเหลือทางผู้ประกอบการก็จะยืนยันที่จะปักหลักประท้วงต่อไป โดยอาจจะมีการกดดันด้วยการปิดถนนบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล หรือเส้นทางด้านฝั่งธนบุรีต่อไป” นางมณีวรรณ กล่าว
ด้านนายรณยุทธ ตั้งรวมทรัพย์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ขณะนี้การจัดระเบียบเส้นทางรถ 4 ล้อเล็กมีปัญหาในกลุ่มที่เป็นเส้นทางสัมปทานของรถ ขสมก.และรถร่วม ขสมก. ที่วิ่งให้บริการอยู่ ซึ่งหากต้องการจะวิ่งจะต้องเจรจากับผู้เป็นเจ้าของเส้นทาง แต่เท่าที่ได้ตรวจสอบรถร่วม ขสมก.ไม่ยอมที่จะให้วิ่งในเส้นทางด้วย ดังนั้น รถ 4 ล้อเล็กก็จำเป็นที่จะต้องหาเส้นทางวิ่งใหม่ ซึ่งกรมการขนส่งทางบกได้นัดประชุมร่วมกันระหว่างกรมการขนส่งทางบก ขสมก. และรถ 4 ล้อเล็กในการกำหนดเส้นทางใหม่ในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ และหากผู้ประกอบการมีเส้นทางพร้อมที่จะวิ่งให้บริการ ทางกรมการขนส่งทางบกก็จะอนุมัติเส้นทางให้ทันที แต่ที่ผ่านมากรมการขนส่งทางบกได้ให้เวลากับผู้ประกอบการรถ 4 ล้อเล็กมาโดยตลอด แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร โดยเส้นทางจำนวน 107 เส้นทาง มีเพียง 3 สหกรณ์ที่มาแจ้งความจำนง และเท่าที่ทราบเหตุผลที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ไม่มาแจ้งความจำนง เพราะมีกระแสข่าวว่าจะมีการผ่อนผันให้รถ 4 ล้อเล็กวิ่งในเส้นทางเดิมได้ ซึ่งก็ขอยืนยันว่าเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ เพราะผิดกฎหมายและถ้ายังวิ่งต่อไปก็จะต้องถูกแจ้งจับกุมทุกครั้ง
นายคำรบลักขิ์ สุรัสวดี รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบกเร่งจัดเส้นทางการให้บริการแต่ละราย พร้อมทั้งขึ้นทะเบียนอย่างถูกกฎหมายให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งการจัดเส้นทางดังกล่าวจะมีทั้งวิ่งให้บริการในเส้นทางเดิมต่อไปและเมื่อการจัดระเบียบให้รถ 4 ล้อเล็กแล้วเสร็จ แต่ต้องยอมรับว่ารถ 4 ล้อเล็กนั้นวิ่งให้บริการผิดกฎหมายมาโดยตลอด ดังนั้น แนวทางที่จะให้ความช่วยเหลือคือการที่จะต้องนำรถทั้งหมดเข้าสู่ระบบให้ถูกต้องตามกฎหมาย มิเช่นนั้นก็จะต้องถูกจับกุม ซึ่งทางกระทรวงคมนาคมก็ไม่สามารถให้ความช่วยเหลืออะไรได้ เพราะรถ 4 ล้อเล็กทำผิดกฎหมาย
ด้านผู้ประกอบการรถร่วม ขสมก. กล่าวว่า ทางผู้ประกอบการรถร่วม ขสมก.ยืนยันที่จะไม่ให้รถ 4 ล้อเล็กวิ่งในเส้นทางสัมปทานของตนเอง เพราะที่ผ่านมารถ 4 ล้อเล็กได้สร้างความเดือดร้อนมาโดยตลอด จะเห็นได้จากรายได้เมื่อรถ 4 ล้อเล็กไม่ได้เข้ามาวิ่ง ทำให้รายได้ของ ขสมก.มีรายได้เพิ่มวันละกว่า 400,000 บาท ส่วนรถร่วม ขสมก.มีรายได้เพิ่มขึ้นวันละ 50,000-200,000 บาท หากรถ 4 ล้อเล็กยังคงมาวิ่งในเส้นทางสัมปทานของตนเองก็จะแจ้งจับกุมดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (9 พ.ค.) กลุ่มผู้ประกอบการรถ 4 ล้อเล็กกว่า 2,000 คัน จอดชุมนุมที่ลานพระบรมรูปทรงม้าตั้งแต่เวลา 03.00 น. เพื่อเรียกร้องผ่อนผันการจับกุมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในข้อหาวิ่งทับเส้นทางสัมปทานรถโดยสาร องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และรถร่วมบริการ ในช่วงที่กำลังจัดระเบียบเส้นทางสัมปทานรถ 4 ล้อเล็กของกรมการขนส่งทางบก
นางมณีวรรณ ทรัพย์รุ่งเรือง ประธานสหกรณ์ชัยโย 4 ล้อเล็ก แกนนำผู้ประกอบการรถ 4 ล้อเล็ก กล่าวว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ต้องการให้กระทรวงคมนาคมจัดระเบียบให้วิ่งในเส้นทางเดิมต่อไป เนื่องจากเห็นว่าเส้นทางที่จะจัดให้ใหม่นั้นไม่เหมาะสมกับผู้ประกอบการ นอกจากนี้ ยังต้องการให้ยุติการจับกุมผู้ประกอบการไว้ก่อน แม้จะลดค่าปรับลงจาก 1,000 บาท เหลือ 500 บาทก็ตาม เพราะที่ผ่านมารถ 4 ล้อเล็กกว่า 6,000 คัน ได้รับผลกระทบจากการจับกุมมาโดยตลอด ซึ่งทางผู้ประกอบการต้องการให้รถร่วมบริการ ขสมก.เลื่อนการแจ้งจับกุมออกไปอีกระยะหนึ่ง จนกว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องเส้นทางสัมปทานรถ 4 ล้อเล็กได้
“ยอมรับว่าตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมาได้กระทำผิดกฎหมายมาโดยตลอด แต่เมื่อกระทรวงคมนาคมให้โอกาสในการจัดเส้นทางสัมปทาน ก็นับเป็นสิ่งที่ดี และต้องขอขอบคุณที่ให้ความช่วยเหลือเพื่อทำให้รถ 4 ล้อเล็กถูกกฎหมาย จึงอยากจะขอความช่วยเหลือจากรถร่วมบริการ ขสมก. ซึ่งเป็นเจ้าของสัมปทานให้โอกาสวิ่งรับส่งผู้โดยสารอีกต่อไป 6 เดือน เพื่อให้มีรายได้และหาเส้นทางควบคู่ไปด้วยกัน และหากยังไม่มีแนวทางให้ความช่วยเหลือทางผู้ประกอบการก็จะยืนยันที่จะปักหลักประท้วงต่อไป โดยอาจจะมีการกดดันด้วยการปิดถนนบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล หรือเส้นทางด้านฝั่งธนบุรีต่อไป” นางมณีวรรณ กล่าว
ด้านนายรณยุทธ ตั้งรวมทรัพย์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ขณะนี้การจัดระเบียบเส้นทางรถ 4 ล้อเล็กมีปัญหาในกลุ่มที่เป็นเส้นทางสัมปทานของรถ ขสมก.และรถร่วม ขสมก. ที่วิ่งให้บริการอยู่ ซึ่งหากต้องการจะวิ่งจะต้องเจรจากับผู้เป็นเจ้าของเส้นทาง แต่เท่าที่ได้ตรวจสอบรถร่วม ขสมก.ไม่ยอมที่จะให้วิ่งในเส้นทางด้วย ดังนั้น รถ 4 ล้อเล็กก็จำเป็นที่จะต้องหาเส้นทางวิ่งใหม่ ซึ่งกรมการขนส่งทางบกได้นัดประชุมร่วมกันระหว่างกรมการขนส่งทางบก ขสมก. และรถ 4 ล้อเล็กในการกำหนดเส้นทางใหม่ในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ และหากผู้ประกอบการมีเส้นทางพร้อมที่จะวิ่งให้บริการ ทางกรมการขนส่งทางบกก็จะอนุมัติเส้นทางให้ทันที แต่ที่ผ่านมากรมการขนส่งทางบกได้ให้เวลากับผู้ประกอบการรถ 4 ล้อเล็กมาโดยตลอด แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร โดยเส้นทางจำนวน 107 เส้นทาง มีเพียง 3 สหกรณ์ที่มาแจ้งความจำนง และเท่าที่ทราบเหตุผลที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ไม่มาแจ้งความจำนง เพราะมีกระแสข่าวว่าจะมีการผ่อนผันให้รถ 4 ล้อเล็กวิ่งในเส้นทางเดิมได้ ซึ่งก็ขอยืนยันว่าเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ เพราะผิดกฎหมายและถ้ายังวิ่งต่อไปก็จะต้องถูกแจ้งจับกุมทุกครั้ง
นายคำรบลักขิ์ สุรัสวดี รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบกเร่งจัดเส้นทางการให้บริการแต่ละราย พร้อมทั้งขึ้นทะเบียนอย่างถูกกฎหมายให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งการจัดเส้นทางดังกล่าวจะมีทั้งวิ่งให้บริการในเส้นทางเดิมต่อไปและเมื่อการจัดระเบียบให้รถ 4 ล้อเล็กแล้วเสร็จ แต่ต้องยอมรับว่ารถ 4 ล้อเล็กนั้นวิ่งให้บริการผิดกฎหมายมาโดยตลอด ดังนั้น แนวทางที่จะให้ความช่วยเหลือคือการที่จะต้องนำรถทั้งหมดเข้าสู่ระบบให้ถูกต้องตามกฎหมาย มิเช่นนั้นก็จะต้องถูกจับกุม ซึ่งทางกระทรวงคมนาคมก็ไม่สามารถให้ความช่วยเหลืออะไรได้ เพราะรถ 4 ล้อเล็กทำผิดกฎหมาย
ด้านผู้ประกอบการรถร่วม ขสมก. กล่าวว่า ทางผู้ประกอบการรถร่วม ขสมก.ยืนยันที่จะไม่ให้รถ 4 ล้อเล็กวิ่งในเส้นทางสัมปทานของตนเอง เพราะที่ผ่านมารถ 4 ล้อเล็กได้สร้างความเดือดร้อนมาโดยตลอด จะเห็นได้จากรายได้เมื่อรถ 4 ล้อเล็กไม่ได้เข้ามาวิ่ง ทำให้รายได้ของ ขสมก.มีรายได้เพิ่มวันละกว่า 400,000 บาท ส่วนรถร่วม ขสมก.มีรายได้เพิ่มขึ้นวันละ 50,000-200,000 บาท หากรถ 4 ล้อเล็กยังคงมาวิ่งในเส้นทางสัมปทานของตนเองก็จะแจ้งจับกุมดำเนินคดีต่อไป