การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) สั่งวิศวกรที่ปรึกษาเข้าตรวจสอบรอยร้าวเสาตอม่อและคานที่เตรียมใช้ก่อสร้างรถไฟฟ้าเชื่อมต่อท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตามที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ออกมาระบุ ด้านประธาน รฟท. ยอมรับหลังตรวจสภาพรอยร้าวเสาตอม่อ มีรอยแยกขยายตัวเพิ่มขึ้น เตรียมตรวจสอบอย่างละเอียด พร้อมโยนบริษัทรับเหมารับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด

นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังร่วมประชุมกับผู้บริหาร การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)ว่า กรณีปัญหาที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ออกมาระบุว่า เสาตอม่อและคานที่เตรียมใช้ก่อสร้างรถไฟฟ้าเชื่อมต่อท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือแอร์พอร์ตลิงก์ เกิดรอยร้าว และได้มีการส่งหนังสือเรียกให้ผู้ว่าฯ รฟท. เข้าชี้แจง ขณะนี้ รฟท.ได้สั่งการให้วิศวกรที่ปรึกษาเข้าตรวจสอบรอยร้าวดังกล่าวแล้ว และในวันนี้ (9 พ.ค.) ประมาณ 15.00 น. จะมีการประชุมร่วมกันเพื่อสรุปแนวทางการดำเนินการต่อปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้น และขอยืนยันว่า หากวิศวกรที่ปรึกษามีข้อเสนอแนะว่ารอยร้าวตอม่อดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อความแข็งแรงของโครงสร้าง รฟท. จะสั่งให้ผู้ก่อสร้างทุบทิ้งและก่อสร้างใหม่ทันที
นายเทอดศักดิ์ เศรษฐมานพ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานกรรมการ รฟท. กล่าวภายหลังเดินทางตรวจดูสภาพรอยร้าวของเสาตอม่อ ในโครงการแอร์พอร์ตลิงก์ว่า จากการตรวจสอบรอยร้าวที่เกิดขึ้นมีอยู่บนเสาตอม่อที่ก่อสร้างขึ้นใหม่ ภายหลังทุบเสาตอม่อของโครงการโฮปเวลล์ทิ้ง ซึ่งมีเสาทั้งหมดจำนวน 274 ต้น และพบว่าจำนวน 9 ต้น มีรอยร้าวขนาด 5 ใน100 มิลิเมตร หรือมีขนาดเล็กกว่าเส้นผม ซึ่งวิศวกรคุมงาน และผู้แทน สตง. ได้ตรวจพบ หลังจากนั้นได้ร่วมกันตรวจสอบ โดยการนำกระจกไปติดบริเวณรอยแยก เพื่อดูว่ารอยร้าวมีการแยกตัวเพิ่มเติมหรือไม่ หากมีก็จะทำให้กระจกซึ่งปกติจะไม่มีการยืดตัวแตกตัวในที่สุด ซึ่งผลการทดสอบเบื้องต้นพบว่ารอยแยกมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นจริง โดยขั้นตอนต่อไปก็จะต้องมีการเจาะผิวตอม่อเพื่อตรวจสอบว่ารอยร้าวเหล่านี้มีความลึกเกิน 1 เซนติเมตร หรือไม่ หากไม่เกินก็ไม่เป็นปัญหา แต่หากเกินก็อาจกระทบกับความแข็งแรงของโครงสร้างได้ โดยต้องดูต่อไปว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้จะสามารถซ่อมแซมได้หรือไม่ หรือต้องทุบทิ้ง ซึ่งวิศกรที่ปรึกษาจะประชุมเพื่อสรุปผล และแจ้งให้ รฟท.ทราบอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม บริษัทผู้รับเหมางานจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อรอยร้าวและค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังร่วมประชุมกับผู้บริหาร การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)ว่า กรณีปัญหาที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ออกมาระบุว่า เสาตอม่อและคานที่เตรียมใช้ก่อสร้างรถไฟฟ้าเชื่อมต่อท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือแอร์พอร์ตลิงก์ เกิดรอยร้าว และได้มีการส่งหนังสือเรียกให้ผู้ว่าฯ รฟท. เข้าชี้แจง ขณะนี้ รฟท.ได้สั่งการให้วิศวกรที่ปรึกษาเข้าตรวจสอบรอยร้าวดังกล่าวแล้ว และในวันนี้ (9 พ.ค.) ประมาณ 15.00 น. จะมีการประชุมร่วมกันเพื่อสรุปแนวทางการดำเนินการต่อปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้น และขอยืนยันว่า หากวิศวกรที่ปรึกษามีข้อเสนอแนะว่ารอยร้าวตอม่อดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อความแข็งแรงของโครงสร้าง รฟท. จะสั่งให้ผู้ก่อสร้างทุบทิ้งและก่อสร้างใหม่ทันที
นายเทอดศักดิ์ เศรษฐมานพ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานกรรมการ รฟท. กล่าวภายหลังเดินทางตรวจดูสภาพรอยร้าวของเสาตอม่อ ในโครงการแอร์พอร์ตลิงก์ว่า จากการตรวจสอบรอยร้าวที่เกิดขึ้นมีอยู่บนเสาตอม่อที่ก่อสร้างขึ้นใหม่ ภายหลังทุบเสาตอม่อของโครงการโฮปเวลล์ทิ้ง ซึ่งมีเสาทั้งหมดจำนวน 274 ต้น และพบว่าจำนวน 9 ต้น มีรอยร้าวขนาด 5 ใน100 มิลิเมตร หรือมีขนาดเล็กกว่าเส้นผม ซึ่งวิศวกรคุมงาน และผู้แทน สตง. ได้ตรวจพบ หลังจากนั้นได้ร่วมกันตรวจสอบ โดยการนำกระจกไปติดบริเวณรอยแยก เพื่อดูว่ารอยร้าวมีการแยกตัวเพิ่มเติมหรือไม่ หากมีก็จะทำให้กระจกซึ่งปกติจะไม่มีการยืดตัวแตกตัวในที่สุด ซึ่งผลการทดสอบเบื้องต้นพบว่ารอยแยกมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นจริง โดยขั้นตอนต่อไปก็จะต้องมีการเจาะผิวตอม่อเพื่อตรวจสอบว่ารอยร้าวเหล่านี้มีความลึกเกิน 1 เซนติเมตร หรือไม่ หากไม่เกินก็ไม่เป็นปัญหา แต่หากเกินก็อาจกระทบกับความแข็งแรงของโครงสร้างได้ โดยต้องดูต่อไปว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้จะสามารถซ่อมแซมได้หรือไม่ หรือต้องทุบทิ้ง ซึ่งวิศกรที่ปรึกษาจะประชุมเพื่อสรุปผล และแจ้งให้ รฟท.ทราบอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม บริษัทผู้รับเหมางานจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อรอยร้าวและค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง