เอส แอนด์ พี เดินเครื่องรุกธุรกิจอาหารแช่แข็งพร้อมทานเต็บสูบทั้งในไทยและต่างประเทศ หลังพบว่าโอกาสการเติบโตของตลาดยังมีอยู่มาก เตรียมเปิดตัวเมนูใหม่ปีนี้ทั้งอาหารคาวและหวานรวม 10 รายการ ภายใต้แบรนด์ “เอส แอนด์ พี ควิก มิล” และ “เดลิโอ เทสตี้ มิล” ตั้งเป้ายอดขายอาหารแช่แข็งปีนี้โต 100% พร้อมเล็งสร้างแบรนด์เดลิโอมากขึ้น ล่าสุดพร้อมส่งเค้กแช่แข็งสู่ตลาดเดือนหน้า
นายสุรัติ เซนย์วิบูลย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการตลาดและการขาย บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งพร้อมทานหรืออาหารกล่องในประเทศไทยยังมีโอกาสเติบโตขึ้นอีกมาก เนื่องจากตลาดยังเล็กอยู่และมีมูลค่าน้อย
ดังนั้นแผนการดำเนินธุรกิจในส่วนอาหารแช่แข็งพร้อมทานในปีนี้ของบริษัทฯ จึงมีแผนรุกตลาดมากขึ้นทั้งตลาดในประเทศ ภายใต้แบรนด์ “เอส แอนด์ พี ควิก มิล” และ “เดลิโอ เทสตี้ มิล” ซึ่งเป็นซับแบรนด์ของบริษัทฯที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้วในราคาสินค้าที่ถูกกว่าเอส แอนด์ พี ควิก มิลเล็กน้อยหรือราคาประมาณ 39-40 บาท โดยปีนี้บริษัทฯเตรียมทยอยเปิดตัวเมนูใหม่รวมทั้งสองแบรนด์ประมาณ 10 รายการ ซึ่งเมนูใหม่จะทั้งกลุ่มอาหารคาวและหวาน
พร้อมกันนี้บริษัทฯมีแผนทำตลาดและสร้างแบรนด์ “เดลิโอ” มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันสินค้าในแบรนด์มี 2 รายการ ได้แก่ คุกกี้และอาหารแช่แข็ง ล่าสุดในเดือนหน้าบริษัทฯเตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ คือ เค้กเนยแช่แข็ง
ด้านช่องทางการขายสินค้าในปัจจุบันจะมีขายผ่านชอปของเอส แอนด์ พีที่มีประมาณ 230 แห่ง รวมถึงมีจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรดต่างๆ เช่น เซ็นทรัล ,บิ๊กซี, คาร์ฟูร์ เป็นต้น
นายสุรัติ กล่าวด้วยว่า ปีนี้บริษัทฯจะมีการทำตลาดในต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯมีส่งออกอาหารแช่แข็งพร้อมทาน ภายใต้แบรนด์ “เอส แอนด์ พี ควิก มิล” ไปจำหน่ายผ่านดิสทิบิวเตอร์ในประเทศต่างๆ อาทิ อเมริกาส่งออกมาได้ 4-5 ปีแล้ว, ออสเตรเลียเพิ่งไปเปิดตลาดเมื่อปีที่แล้ว และตลาดเอเชีย ปีนี้บริษัทฯมีแผนรุกตลาดยุโรปมากขึ้น ซึ่งเมื่อเดือนที่แล้วบริษัทฯเพิ่งไปออกงานแสดงสินค้าที่เมืองเบอร์มิ่งแฮม ประเทศอังกฤษ
สำหรับเมนูที่ไปวางขายในต่างประเทศมีประมาณ 10 เมนู เช่น แกงเขียวหวานไก่, กระเพราไก่ และผัดไทย ฯลฯ ส่วนยอดรายได้ของตลาดส่งออก คิดเป็นสัดส่วน 10% ของยอดรายได้ทั้งหมด โดยอาหารแช่แข็งฯในตลาดต่างประเทศปีนี้บริษัทฯคาดว่าจะมีอัตราการเติบโต100% เนื่องจากฐานตลาดยังเล็กและมีคู่แข่งไปทำตลาดน้อย
ขณะที่ยอดรายได้สิ้นปีนี้ของอาหารแช่แข็งฯ บริษัทฯคาดว่าจะมียอดรายได้เติบโต 50-100% เนื่องจากการรุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น และการเปิดตัวเมนูใหม่อย่างต่อเนื่อง
นายสุรัติ เซนย์วิบูลย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการตลาดและการขาย บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งพร้อมทานหรืออาหารกล่องในประเทศไทยยังมีโอกาสเติบโตขึ้นอีกมาก เนื่องจากตลาดยังเล็กอยู่และมีมูลค่าน้อย
ดังนั้นแผนการดำเนินธุรกิจในส่วนอาหารแช่แข็งพร้อมทานในปีนี้ของบริษัทฯ จึงมีแผนรุกตลาดมากขึ้นทั้งตลาดในประเทศ ภายใต้แบรนด์ “เอส แอนด์ พี ควิก มิล” และ “เดลิโอ เทสตี้ มิล” ซึ่งเป็นซับแบรนด์ของบริษัทฯที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้วในราคาสินค้าที่ถูกกว่าเอส แอนด์ พี ควิก มิลเล็กน้อยหรือราคาประมาณ 39-40 บาท โดยปีนี้บริษัทฯเตรียมทยอยเปิดตัวเมนูใหม่รวมทั้งสองแบรนด์ประมาณ 10 รายการ ซึ่งเมนูใหม่จะทั้งกลุ่มอาหารคาวและหวาน
พร้อมกันนี้บริษัทฯมีแผนทำตลาดและสร้างแบรนด์ “เดลิโอ” มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันสินค้าในแบรนด์มี 2 รายการ ได้แก่ คุกกี้และอาหารแช่แข็ง ล่าสุดในเดือนหน้าบริษัทฯเตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ คือ เค้กเนยแช่แข็ง
ด้านช่องทางการขายสินค้าในปัจจุบันจะมีขายผ่านชอปของเอส แอนด์ พีที่มีประมาณ 230 แห่ง รวมถึงมีจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรดต่างๆ เช่น เซ็นทรัล ,บิ๊กซี, คาร์ฟูร์ เป็นต้น
นายสุรัติ กล่าวด้วยว่า ปีนี้บริษัทฯจะมีการทำตลาดในต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯมีส่งออกอาหารแช่แข็งพร้อมทาน ภายใต้แบรนด์ “เอส แอนด์ พี ควิก มิล” ไปจำหน่ายผ่านดิสทิบิวเตอร์ในประเทศต่างๆ อาทิ อเมริกาส่งออกมาได้ 4-5 ปีแล้ว, ออสเตรเลียเพิ่งไปเปิดตลาดเมื่อปีที่แล้ว และตลาดเอเชีย ปีนี้บริษัทฯมีแผนรุกตลาดยุโรปมากขึ้น ซึ่งเมื่อเดือนที่แล้วบริษัทฯเพิ่งไปออกงานแสดงสินค้าที่เมืองเบอร์มิ่งแฮม ประเทศอังกฤษ
สำหรับเมนูที่ไปวางขายในต่างประเทศมีประมาณ 10 เมนู เช่น แกงเขียวหวานไก่, กระเพราไก่ และผัดไทย ฯลฯ ส่วนยอดรายได้ของตลาดส่งออก คิดเป็นสัดส่วน 10% ของยอดรายได้ทั้งหมด โดยอาหารแช่แข็งฯในตลาดต่างประเทศปีนี้บริษัทฯคาดว่าจะมีอัตราการเติบโต100% เนื่องจากฐานตลาดยังเล็กและมีคู่แข่งไปทำตลาดน้อย
ขณะที่ยอดรายได้สิ้นปีนี้ของอาหารแช่แข็งฯ บริษัทฯคาดว่าจะมียอดรายได้เติบโต 50-100% เนื่องจากการรุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น และการเปิดตัวเมนูใหม่อย่างต่อเนื่อง