เนสกาแฟสนองไลฟ์สไตล์ผู้บริโภครุ่นใหม่ที่เร่งรีบ ด้วยการรีลอนซ์เนสกาแฟ มายคัพ 3 รสชาติ พร้อมแคมเปญใหม่ “1 ชีวิตไม่หยุดนิ่ง 1 รสชาติใหม่ต้องหยุดให้” ภายใต้งบการตลาดทั้งปี 100 ล้านบาท หวังตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาด และกระตุ้นยอดขายสิ้นปีเพิ่ม
นายณัฐวัชร์ ศิริวงศ์ศาล ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ บริษัทเนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกาแฟสำเร็จรูปตราเนสกาแฟ เปิดเผยว่า จากการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคที่เป็นคนรุ่นใหม่พบว่ามีชีวิตที่เร่งรีบและมีกิจกรรมทำมากกว่าหนึ่งอย่างในเวลาเดียวกันจึงมีความต้องการเครื่องดื่มที่มีความสะดวก มีกลิ่นหอมและรสชาติดี บริษัทฯ จึงได้ปรับปรุงรสชาติเนสกาแฟ มายคัพทั้ง 3 รสชาติใหม่ ได้แก่ Mild หรือคนที่ชอบกาแฟที่นุ่มนวลและกลมกล่อม , Original กาแฟเข้มข้นอีกระดับ และTurbo กาแฟรสเข้มข้นเป็นพิเศษ โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักของเนสกาแฟ มายคัพจะเน้นไปที่คนรุ่นใหม่ที่มีอายุ 18-23 ปี
พร้อมกันนี้ทางบริษัทฯยังได้เปิดตัวแคมเปญใหม่ “1 ชีวิตไม่หยุดนิ่ง 1 รสชาติใหม่ต้องหยุดให้” ภายใต้งบการตลาดจนถึงสิ้นปี 100 ล้านบาท โดยจะมีการทำสื่อประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ภาพยนตร์โฆษณาเริ่มออกอากาศไปแล้วเมื่อ 24 เมษายนที่ผ่านมา รวมถึงสื่อผ่านอินเตอร์เน็ตและกิจกรรม ณ จุดขาย เป็นต้น
“ปีนี้แนวทางการทำตลาดของเราพยายามเข้าใจและศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภครุ่นใหม่มากขึ้น ซึ่งสินค้าที่เนสกาแฟเปิดตัวก็สามารถตอบโจทย์ความต้องการตรงนี้ได้ อีกทั้งเราอยากให้คนมีความถี่ในการดื่มกาแฟมากขึ้น”
ภาพรวมของตลาดกาแฟในไทยมีมูลค่ากว่า 35,000 ล้านบาทและมีอัตราการเติบโต 10% แบ่งออกเป็นตลาดกาแฟสำเร็จรูปมีมูลค่า 12,000 ล้านบาท ประกอบไปด้วยตลาดกาแฟผงสำเร็จรูปมีมูลค่า 6,500 ล้านบาทและตลาดกาแฟปรุงสำเร็จรูป ทรีอินวัน 5,500 ล้านบาท ซึ่งมีอัตราการเติบโต 20%
ปัจจุบันเนสกาแฟเป็นผู้นำตลาดกาแฟผงสำเร็จรูปด้วยส่วนแบ่งตลาด 80% ส่วนตลาดทรีอินวัน เนสกาแฟมีส่วนแบ่งการตลาด 60% ซึ่งหลังจากการเปิดตัวเนสกาแฟ มายคัพคาดว่าจะมียอดขายและมาร์เก็ตแชร์เพิ่มขึ้น
นายณัฐวัชร์ ศิริวงศ์ศาล ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ บริษัทเนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกาแฟสำเร็จรูปตราเนสกาแฟ เปิดเผยว่า จากการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคที่เป็นคนรุ่นใหม่พบว่ามีชีวิตที่เร่งรีบและมีกิจกรรมทำมากกว่าหนึ่งอย่างในเวลาเดียวกันจึงมีความต้องการเครื่องดื่มที่มีความสะดวก มีกลิ่นหอมและรสชาติดี บริษัทฯ จึงได้ปรับปรุงรสชาติเนสกาแฟ มายคัพทั้ง 3 รสชาติใหม่ ได้แก่ Mild หรือคนที่ชอบกาแฟที่นุ่มนวลและกลมกล่อม , Original กาแฟเข้มข้นอีกระดับ และTurbo กาแฟรสเข้มข้นเป็นพิเศษ โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักของเนสกาแฟ มายคัพจะเน้นไปที่คนรุ่นใหม่ที่มีอายุ 18-23 ปี
พร้อมกันนี้ทางบริษัทฯยังได้เปิดตัวแคมเปญใหม่ “1 ชีวิตไม่หยุดนิ่ง 1 รสชาติใหม่ต้องหยุดให้” ภายใต้งบการตลาดจนถึงสิ้นปี 100 ล้านบาท โดยจะมีการทำสื่อประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ภาพยนตร์โฆษณาเริ่มออกอากาศไปแล้วเมื่อ 24 เมษายนที่ผ่านมา รวมถึงสื่อผ่านอินเตอร์เน็ตและกิจกรรม ณ จุดขาย เป็นต้น
“ปีนี้แนวทางการทำตลาดของเราพยายามเข้าใจและศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภครุ่นใหม่มากขึ้น ซึ่งสินค้าที่เนสกาแฟเปิดตัวก็สามารถตอบโจทย์ความต้องการตรงนี้ได้ อีกทั้งเราอยากให้คนมีความถี่ในการดื่มกาแฟมากขึ้น”
ภาพรวมของตลาดกาแฟในไทยมีมูลค่ากว่า 35,000 ล้านบาทและมีอัตราการเติบโต 10% แบ่งออกเป็นตลาดกาแฟสำเร็จรูปมีมูลค่า 12,000 ล้านบาท ประกอบไปด้วยตลาดกาแฟผงสำเร็จรูปมีมูลค่า 6,500 ล้านบาทและตลาดกาแฟปรุงสำเร็จรูป ทรีอินวัน 5,500 ล้านบาท ซึ่งมีอัตราการเติบโต 20%
ปัจจุบันเนสกาแฟเป็นผู้นำตลาดกาแฟผงสำเร็จรูปด้วยส่วนแบ่งตลาด 80% ส่วนตลาดทรีอินวัน เนสกาแฟมีส่วนแบ่งการตลาด 60% ซึ่งหลังจากการเปิดตัวเนสกาแฟ มายคัพคาดว่าจะมียอดขายและมาร์เก็ตแชร์เพิ่มขึ้น