xs
xsm
sm
md
lg

ส.เรือไทยแบกต้นทุนอาน หวั่นขึ้นราคานักเที่ยวหนี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ส.เรือไทยอ่วม พิษน้ำมันแพงกระทบต้นทุนพุ่ง  แบกภาระชะลอปรับค่าบริการไปอีกแค่ 6 เดือน เตรียมหารือกรมการขนส่งทางน้ำขอปรับขึ้นราคา ระบุสุดอั้นหากราคาน้ำมันดีเซลแตะ 30 บาทต่อลิตร เผยผู้ประกอบการเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ซื้อน้ำมันแพงกว่าปั๊มน้ำมันที่อยู่บนบกลิตรละ 80 สตางค์ ส่วนความคืบหน้า โครงการสร้างที่จอดรถบัสเชิงสะพานพระราม 8 ล่าสุดกระทรวงอุตสาหกรรมปฎิเสธไม่อนุญาตให้ดำเนินการ เตรียมล่ารายชื่อ 3 สมาคม ยื่นหนังสือต่อ กทม. ขอให้ช่วยผลักดันอีกครั้งสัปดาห์หน้า

นายประสิทธิ์ วิชัยสุชาติ เลขาธิการ สมาคมเรือไทย  เปิดเผยภายหลังการประชุมใหญ่สามัญประจำปีว่า ที่ประชุมของสมาคมฯได้หยิบยกสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องมาหารือ  พร้อมกับนำเรื่องที่กรมขนส่งทางน้ำขอความร่วมมือว่าหากผู้ประกอบการยังสามารถประคองตัวอยู่ได้ก็อย่าเพิ่งปรับราคาค่าบริการขึ้น เพราะต้องการช่วยเหลือประชาชน ดังนั้นที่ประชุมจึงสรุปว่า จะชะลอปรับขึ้นราคาค่าบริการออกไปอีกประมาณ 5-6 เดือนนับจากนี้ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานที่ราคาน้ำมันดีเซลจะต้องไม่เกินลิตรละ 29-30 บาท  เพราะหากแตะราคานี้เมื่อไหร่ ผู้ประกอบการก็ไม่สามารถแบกรับภาระต้นทุนไว้ได้

ทั้งนี้ผู้ประกอบการเรือโดยสาร เรือนำเที่ยว และเรือภัตตาคาร ในแม่น้ำเจ้าพระยา มีต้นทุนราคาน้ำมันที่แพงกว่าผู้ประกอบการรถโดยสาร เพราะ ปั๊มน้ำมันที่อยู่ในน้ำจะขายราคาแพงกว่าปั๊มน้ำมันที่อยู่บนบกลิตรละ  80 สตางค์ เพราะไม่ได้โควตาจากบริษัทผู้ผลิตน้ำมัน จึงต้องซื้อเท่ากับราคาตลาดแล้วมาบวกเพิ่มค่าดำเนินการอีก 80 สตางค์

“ต้องรอให้ราคาน้ำมันนิ่งกว่านี้ก่อน ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีผู้ประกอบการเรือรายใดปรับขึ้นราคา เพราะเกรงจะกระทบกับลูกค้า และบริษัทนำเที่ยวที่มีสัญญากันไว้ เพราะอาจส่งผลให้ดีมานด์ลดลงไปกว่านี้ โดยเฉพาะเรือภัตตาคาร ที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูง ลูกค้ากว่า 50% เป็นคนไทย หากปรับขึ้นราคาในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ อาจทำให้ลูกค้าหายไปเลยก็ได้  ส่วนสัญญากับบริษัททัวร์ หากเป็นดิวที่จะเริ่มทำให้ 3-6 เดือนข้างหน้า ก็คงต้องชี้แจงให้เขาทราบต้นทุนที่เพิ่มขึ้น”

อย่างไรก็ตามล่าสุดกรมการขนส่งทางน้ำได้ให้ผู้ประกอบการเรือทุกประเภทส่งข้อมูลที่แท้จริง ทั้ง รายได้ และต้นทุน มาให้ทางกรมฯพิจารณา เพื่อหาข้อสรุปภายในกลางเดือนพฤษภาคมนี้  โดยจะต้องเป็นข้อสรุปที่ทุกฝ่ายอยู่ได้

ย้ำความจำเป็นสร้างที่จอดรถ
นายประสิทธิ์ กล่าวอีกว่า  ในส่วนของความคืบหน้าการขอสร้างที่จอดรถบัสขนาดใหญ่ บริเวณเชิงสะพานพระราม 8  เพื่อรับนักท่องเที่ยว ล่าสุด นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กำกับดูแลสำนักวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยว แจ้งว่า ทางโรงผลิตสุรามหาราช ซึ่งได้รับสิทธิสัมปทานไปจากกระทรวงอุตสาหกรรม   ไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่ เพราะบริเวณดังกล่าวจะทำเป็นศูนย์สินค้า OTOP  แต่ทั้งนี้ในสัปดาห์หน้า ทั้ง 3 สมาคม ประกอบด้วย สมาคมเรือไทย สมาคมมัคคุเทศก์อาชีพ และ สมาคมรถโดยสารไม่ประจำทาง จะทำหนังสือชี้แจงเหตุผลส่งไปยัง  สำนักวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยว อีกครั้งหนึ่ง เพื่อขอให้เจ้าของพื้นที่ช่วยพิจารณาอีกครั้ง โดยระบุว่าศูนย์OTOP  ก็จะได้นักท่องเที่ยวที่มากับรถบัส เข้าไปจับจ่ายซื้อสินค้าด้วยเช่นกัน

“หากเราสร้างที่จอดรถ บริเวณสะพานพระราม 8 ได้ ก็จะช่วยแบ่งเบาการจราจรบริเวณรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ที่หนาแน่นมาก  ไม่พอรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นทุกปี  ซึ่งตามเป้าหมายที่ ทททงวางไว้ว่านักท่องเที่ยวจะถึง 20 ล้านคน ในปี 2551 หากไม่เตรียมพร้อมก็จะเกิดความยุ่งยากในอนาคต”

สำหรับสถานการณ์ท่องเที่ยวทางน้ำ ช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว หลังจากที่ปีก่อนได้รับผลกระทบจากสึนามิ ที่ทำให้นักท่องเที่ยวไม่เข้ามาประเทศไทย โดยการเติบโตของการท่องเที่ยวทางน้ำ จะขึ้นอยู่กับการการทำตลาดของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ว่าจะนำนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศไทยได้ถึง 13.8 ล้านคนในปีนี้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้หรือไม่ เพราะ 75% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ จะแวะเที่ยวที่กรุงเทพฯด้วย โดยในที่นี้ 75% จะลงเรือเที่ยวตามแม่น้ำเจ้าพระยา ชม วัด วัง และวิถีชีวิตชุมชน  

ปัจจุบันเรือที่ให้บริการนักท่องเที่ยวในแม่น้ำเจ้าพระยา จะมี 2 ประเภท คือ เรือโดยสารเช่าเหมาลำหรือเรือหางยาว ซึ่งมีประมาณ 200 ลำ  และเรือภัตตาคารที่มีประมาณ 30 ลำ สร้างรายได้หมุนเวียนต่อปีมากกว่า 100 ล้านบาท ขณะที่ในเดือนหน้า ทาง กทม. จะสร้างป้ายบอกราคามาตรฐาน ใน 20 ท่าเรือ อาทิ ท่าสี่พระยา , โอเรียนเต็น ,วัดอรุณ สะพานพุทธ และสารทร เป็นต้น เพื่อ ป้องการนักท่องเที่ยวถูกหลอกลวงโก่งราคาค่าบริการเกินจริง

อย่างไรก็ตาม สมาคมฯเตรียมทำหนังสือถึง ททท. ขอสมุดลงนามถวายพระพรแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาส ฉลองการครองราชย์ครบ 60 ปี เพื่อมาตั้งให้ผู้ใช้บริการท่องเที่ยวทางน้ำได้ร่วมลงนามถวายพระพร โดย สมาคมเรือจะจัดให้ตั้งสมุดลงนามไว้ 2 แห่ง ที่ โรงแรมริเวอร์ไซต์  และ โรงแรมริเวอร์ซิตี้
กำลังโหลดความคิดเห็น