ประธาน ส.อ.ท.ระบุ หากเงินบาท-ราคาน้ำมันยังผันผวนต่อไป จะเริ่มส่งผลต่อเศรษฐกิจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเงินบาทที่แข็งค่าจะมีผลต่อการส่งออกอย่างชัดเจนในไตรมาส 3 ของปีนี้ พร้อมกับเร่งรัฐบาลให้เรียกความเชื่อมั่นกลับมาโดยเร็วที่สุด
นายสันติ วิลาศศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องและความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยนว่า ภาคอุตสาหกรรมเห็นว่าในส่วนของปัญหาราคาน้ำมันถือว่าเป็นการกระทบทั่วโลก รวมถึงความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยนก็กระทบทั่วภูมิภาค อย่างไรก็ตาม หากเงินบาทที่แข็งค่าเป็นสถานการณ์ระยะสั้นก็คงไม่ส่งผลกระทบ แต่หากต่อเนื่องระยะยาว 3-6 เดือน คงส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหรรมแน่นอน โดยเฉพาะการส่งออกแม้ว่าตัวเลขการส่งออกในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาถือว่าใช้ได้ แต่ผลกระทบต่อภาคการส่งออกจะเห็นได้ชัดในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้
นายสันติ กล่าวว่า สิ่งที่มีความกังวลที่สุดคือปัญหาด้านการเมืองที่ยังไม่หยุดนิ่ง เพราะเป็นปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อภาคการลงทุนและความเชื่อมั่น ซึ่งรัฐบาลจะต้องเร่งเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาโดยเร็ว ส่วนปัญหาราคาน้ำมันที่มีการปรับขึ้นนั้น ย่อมส่งผลกระทบต่อต้นทุนสินค้าเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นภาระต่อผู้ประกอบการ ดังนั้น ผู้ประกอบการและผู้บริโภคจะต้องแบ่งเบาภาระความเดือดร้อนดังกล่าวร่วมกัน โดยสินค้าอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบก็จะต้องดำเนินการหารือกับกรมการค้าภายในว่าสามารถปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นได้หรือไม่
“แต่ละภาคอุตสาหกรรมที่เห็นว่าได้รับผลกระทบก็จะต้องเดินหน้าหารือกับกรมการค้าภายใน หากจะให้ ส.อ.ท.เป็นผู้ดำเนินการในเรื่องนี้ก็อาจจะเป็นเรื่องที่ช้าเกินไปและอยากจะเสนอแนะให้กลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบไปหารือกับกรมการค้าภายในโดยตรง แต่ในฐานะที่อยู่ในภาคเอกชนในกลุ่มสหพัฒน์ก็จะตรึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภคไป แต่หากจะมีการปรับราคาสินค้าก็จะขอปรับขึ้นเป็นบริษัทสุดท้าย และในกลางเดือนพฤษภาคมนี้ทางกลุ่มสหพัฒน์จะร่วมกับกระทรวงพาณิชย์นำสินค้าเข้าร่วมธงฟ้าราคาประหยัด ซึ่งจะเป็นการแบ่งเบาภาระให้แก่ประชาชน” นายสันติกล่าว
นายสันติ กล่าวว่า ทาง ส.อ.ท.ยังมีโครงการด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตการทำงานในสถานประกอบการ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต มาตรฐานแรงงานไทยสู่สากล ซึ่งจากข้อมูลแรงงานในภาคอุตสาหกรรมที่มีมากกว่า 35 ล้านคน ต้องประสบอุบัติเหตุในช่วงที่ผ่านมาคิดเป็นมูลค่าความเสียหายถึง 1,490 ล้านบาท ดังนั้น ส.อ.ท. ซึ่งเป็นแหล่งรวมเครือข่ายสมาชิกผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ มากกว่า 7,000 องค์กร โดย ส.อ.ท.จึงได้จัดทำโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตการทำงานในสถานประกอบการ เพื่อมุ่งให้เกิดการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนทำงานให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกๆ ด้านทั้งกาย อารมณ์ สังคม และจิตวิญญาณ จึงได้มีการจัดมาตรฐานระบบบริหาร จัดการคุณภาพชีวิตการทำงานในสถานประกอบการ (MS-QWL) ถือเป็นมิติใหม่ที่เกิดขึ้นโดยคนไทย โดยที่ผ่านมาได้มีการทดลองใช้กับสถานประกอบการนำร่องหลากหลายสาขาอาชีพจำนวน 20 แห่งทั่วประเทศ และมีการติดตามประเมินผลอย่างต่อเนื่อง และในเร็วๆ นี้ จะเพิ่มสถานประกอบการอีก 100 แห่งทั่วประเทศ
นายสันติ วิลาศศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องและความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยนว่า ภาคอุตสาหกรรมเห็นว่าในส่วนของปัญหาราคาน้ำมันถือว่าเป็นการกระทบทั่วโลก รวมถึงความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยนก็กระทบทั่วภูมิภาค อย่างไรก็ตาม หากเงินบาทที่แข็งค่าเป็นสถานการณ์ระยะสั้นก็คงไม่ส่งผลกระทบ แต่หากต่อเนื่องระยะยาว 3-6 เดือน คงส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหรรมแน่นอน โดยเฉพาะการส่งออกแม้ว่าตัวเลขการส่งออกในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาถือว่าใช้ได้ แต่ผลกระทบต่อภาคการส่งออกจะเห็นได้ชัดในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้
นายสันติ กล่าวว่า สิ่งที่มีความกังวลที่สุดคือปัญหาด้านการเมืองที่ยังไม่หยุดนิ่ง เพราะเป็นปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อภาคการลงทุนและความเชื่อมั่น ซึ่งรัฐบาลจะต้องเร่งเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาโดยเร็ว ส่วนปัญหาราคาน้ำมันที่มีการปรับขึ้นนั้น ย่อมส่งผลกระทบต่อต้นทุนสินค้าเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นภาระต่อผู้ประกอบการ ดังนั้น ผู้ประกอบการและผู้บริโภคจะต้องแบ่งเบาภาระความเดือดร้อนดังกล่าวร่วมกัน โดยสินค้าอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบก็จะต้องดำเนินการหารือกับกรมการค้าภายในว่าสามารถปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นได้หรือไม่
“แต่ละภาคอุตสาหกรรมที่เห็นว่าได้รับผลกระทบก็จะต้องเดินหน้าหารือกับกรมการค้าภายใน หากจะให้ ส.อ.ท.เป็นผู้ดำเนินการในเรื่องนี้ก็อาจจะเป็นเรื่องที่ช้าเกินไปและอยากจะเสนอแนะให้กลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบไปหารือกับกรมการค้าภายในโดยตรง แต่ในฐานะที่อยู่ในภาคเอกชนในกลุ่มสหพัฒน์ก็จะตรึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภคไป แต่หากจะมีการปรับราคาสินค้าก็จะขอปรับขึ้นเป็นบริษัทสุดท้าย และในกลางเดือนพฤษภาคมนี้ทางกลุ่มสหพัฒน์จะร่วมกับกระทรวงพาณิชย์นำสินค้าเข้าร่วมธงฟ้าราคาประหยัด ซึ่งจะเป็นการแบ่งเบาภาระให้แก่ประชาชน” นายสันติกล่าว
นายสันติ กล่าวว่า ทาง ส.อ.ท.ยังมีโครงการด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตการทำงานในสถานประกอบการ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต มาตรฐานแรงงานไทยสู่สากล ซึ่งจากข้อมูลแรงงานในภาคอุตสาหกรรมที่มีมากกว่า 35 ล้านคน ต้องประสบอุบัติเหตุในช่วงที่ผ่านมาคิดเป็นมูลค่าความเสียหายถึง 1,490 ล้านบาท ดังนั้น ส.อ.ท. ซึ่งเป็นแหล่งรวมเครือข่ายสมาชิกผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ มากกว่า 7,000 องค์กร โดย ส.อ.ท.จึงได้จัดทำโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตการทำงานในสถานประกอบการ เพื่อมุ่งให้เกิดการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนทำงานให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกๆ ด้านทั้งกาย อารมณ์ สังคม และจิตวิญญาณ จึงได้มีการจัดมาตรฐานระบบบริหาร จัดการคุณภาพชีวิตการทำงานในสถานประกอบการ (MS-QWL) ถือเป็นมิติใหม่ที่เกิดขึ้นโดยคนไทย โดยที่ผ่านมาได้มีการทดลองใช้กับสถานประกอบการนำร่องหลากหลายสาขาอาชีพจำนวน 20 แห่งทั่วประเทศ และมีการติดตามประเมินผลอย่างต่อเนื่อง และในเร็วๆ นี้ จะเพิ่มสถานประกอบการอีก 100 แห่งทั่วประเทศ