xs
xsm
sm
md
lg

เจริญปั้น“นิยมไทย”บุกเหล้าขาวพรีเมียม ปัดฝุ่นหงส์ทองคืนสังเวียน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ไทยเบฟฯ ตอกย้ำบัลลังก์เหล้าขาว เปิดตัวแบรนด์ใหม่ “นิยมไทย”สร้างเซกเมนต์พรีเมียมกระทุ้งตลาดเหล้าขาวมูลค่า 3.7 หมื่นล้านบาทโต พัฒนาสูตรใหม่รสนุ่ม ดื่มง่ายขยายฐานคนรุ่นใหม่ ชูราคาสูงกว่าเดิมตัว 8 บาท ลั่นกลองส่ง 40 ดีกรีจำหน่ายเฉพาะกรุงเทพฯ ส่วน30-35 ดีกรีเจาะตลาดต่างจังหวัด ล่าสุดเขย่าวงการเหล้าสี รีเทิร์น “หงส์ทอง” ทำตลาดหลังหยุดผลิตนาน 4 ปี ยกเครื่องปรับโลโก้ ฉลาก สูตรใหม่ อัพเกรดแบรนด์ทันสมัย วางราคาระหว่างแสงโสม-แม่โขง 140 บาทต่อกลม

แหล่งข่าวจาก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เปิดเผยกับ “ผู้จัดการรายวัน” ว่า จากนโยบาย “Premiumization” ที่บริษัทฯได้วางยุทธศาสตร์ขยายไลน์เหล้า-เบียร์สู่เซกเมนต์พรีเมียม ทั้งนี้เพื่อขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ จากที่ผ่านมาสินค้าในเครือของบริษัทฯส่วนใหญ่เจาะกลุ่มเป้าหมายระดับรากหญ้ามีราคาตั้งแต่ 50-210 บาท  ประกอบด้วย กลุ่มเหล้าขาว 30-40 ดีกรี กลุ่มเหล้าสี แม่โขง,แสงโสม และมังกรทอง โดยก่อนหน้านี้บริษัทฯได้เคลื่อนไหวตามแนวทางการตลาดด้วยการเปิดตัว เบียร์ช้างไลท์ ช้างดราฟท์ และปรับภาพลักษณ์บลู อีเกิ้ลใหม่

ล่าสุดในกลุ่มเหล้าขาวบริษัทฯได้เปิดตัวภายใต้แบรนด์ใหม่ “นิยมไทย” ประกอบด้วย เหล้าขาว 40 ดีกรี 35 ดีกรี และ 30 ดีกรี ลงสู่ตลาด โดยวางโพซิชั่นนิ่งเป็นเหล้าขาวระดับพรีเมียมมากกว่าเหล้าขาวตัวเดิม “โรงงานสุรา” จำหน่ายในราคาสูงกว่า 8 บาท ยกตัวอย่าง เหล้าขาวนิยมไทย 40 ดีกรี ขนาด 1 ซีซี ราคา 67 บาท ส่วนเหล้าขาวเดิมราคา 59 บาท

ทั้งนี้การเปิดตัวนิยมไทยเนื่องจากกลุ่มเหล้าขาวของไทยเบฟฯ สามารถเติบโตในฐานตลาดระดับล่างเต็มที่แล้ว ครองส่วนแบ่งได้ถึง 70% จากมูลค่าตลาด 37,000 ล้านบาท โดยสูตรเหล้านิยมไทยได้ถูกพัฒนาขึ้นใหม่ ให้มีรสนุ่ม ดื่มง่ายกว่าเหล้าขาวตัวเดิม “โรงงานสุรา” เพื่อขยายฐานกลุ่มคนรุ่นใหม่ จากเหล้าขาวตัวเดิมฐานลูกค้าจะเป็นกลุ่มที่ค่อนข้างมีอายุระหว่าง 40-50 ปีขึ้นไป

สำหรับแผนการตลาดในช่วงแรก เหล้าขาวนิยมไทย 40 ดีกรี จะจัดจำหน่ายกรุงเทพฯและปริมณฑลเป็นหลัก เนื่องจากมีราคาสูงเมื่อเทียบกับเหล้า 30-35 ดีกรีจะเน้นจัดจำหน่ายตลาดต่างจังหวัดเป็นหลัก เพื่อให้สอดคล้องกับกำลังการซื้อของผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม เหล้าขาวนิยมไทยเป็นแบรนด์เก่าแก่ในประเทศไทยและได้รับความนิยมในสมัยหนึ่ง แต่ตอนหลังกลับเลิกทำตลาดไป  

“หงส์ทอง”รีเทิร์นสังเวียนเหล้าสี
แหล่งข่าวจากบริษัทไทยเบฟฯกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกลุ่มเหล้าสีมูลค่า 5,000 ล้านบาท ในปีนี้คาดว่าตลาดจะมีอัตราการเติบโตได้ 4-5% ล่าสุดบริษัทได้นำ “หงส์ทอง” สุราผสม 35 ดีกรี กลับมาทำตลาดอีกครั้ง หลังจากที่หยุดผลิตและทำตลาดไปเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา โดยการกลับมาในครั้งนี้ บริษัทฯได้ปรับโลโก้ และฉลากใหม่ เพื่อให้ภาพลักษณ์มีความทันสมัยมากขึ้น อีกทั้งยังได้ปรับสูตรใหม่ “เบลน สปิริต” รสนุ่มดื่มง่ายขึ้น โดยจะจำหน่ายราคา 140 บาทต่อกลม ซึ่งเป็นราคาอยู่ระหว่างกลางแสงโสมกับแม่โขง โดยแสงโสมราคา 195 บาทต่อกลม และแม่โขงจำหน่าย 120 บาทต่อกลม ส่วนมังกรทอง 90 บาทต่อกลม

“เพื่อยกระดับสู่ภาพลักษณ์พรีเมียมรองรับการขยายไลน์ และผลพวงจากโครงสร้างภาษี รวมทั้งการเปิดตัวสู่ตลาดต่างประเทศมากขึ้น ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯได้ปรับภาพลักษณ์เหล้าสี 2 ตัว โดยแสงโสม วางเป็นสุราไทยระดับสากล เน้นกลุ่มเป้าหมายคนไทยอายุ 18 ปีขึ้นไปโดยเฉพาะ ส่วนกลุ่มแม่โขง เจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้ใหญ่มากกว่า เนื่องจากวางตลาดมานานกว่า 70 ปี ทำให้มีฐานลูกค้าที่เป็นผู้ใหญ่เป็นหลัก รวมทั้งเน้นขยายฐานลูกค้าต่างประเทศเพิ่มขึ้น”

ขณะเดียวกันบริษัทฯยังได้ปรับสายเอเยนต์กระจายสินค้าใหม่ โดยแบ่งเป็น สูตรหนึ่ง จะจำหน่ายสินค้าเดิมที่ทำตลาดมานาน อย่างเบียร์ช้าง ออริจินัล แสงโสม แม่โขง มังกรทอง  ส่วนสูตรที่สองจะจำหน่ายสินค้าใหม่ ประกอบด้วย ช้างไลท์ ช้างดราฟท์ อาชา เหล้าขาวนิยมไทย และหงส์ทอง เป็นต้น

ปัจจุบันกลุ่มเหล้าสี ไทยเบฟฯมีทั้งหมด 4 ตัว โดยแสงโสมถือว่าเป็นเหล้าสีที่ขายดีที่สุดในกลุ่ม มีสัดส่วนรายได้ 50% หรือ 7-8 ล้านลัง คิดเป็นมูลค่า 2,600 ล้านบาท ส่วนแม่โขง 40% หรือ 2 ล้านลัง และมังกร 10% ส่วนผลประกอบการในกลุ่มสุราของไทยเบฟ ปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 3-5% จากปีที่ผ่านมามีรายได้ 54,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 52%  จากรายได้รวมของบริษัทฯ
กำลังโหลดความคิดเห็น