สายการบินกาตาร์ยาหอมประเทศไทยยุทธศาสตร์สำคัญชูเป็นฮับเอเชีย วางแผนเพิ่มเที่ยวบินจาก 10 เที่ยวเป็น 14 เที่ยวต่อสัปดาห์ในเดือนมิถุนายนนี้ เผยเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของโลกมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สั่งซื้อเครื่องบินอีก 34 ลำเป็นเม็ดเงินกว่า 5,100 ล้านดอลลาร์ หวังเพิ่มฝูงบินอีกหนึ่งเท่าตัว พร้อมดันกาตาร์ขึ้นเป็นฮับ กระจายนักท่องเที่ยวเข้ายุโรป เผยน้ำมันแพงกระทบธุรกิจเช่นกัน แม้จะเป็นสายการบินในประเทศผู้ค้าน้ำมัน ส่งผลสัดส่วนกำไรลดลง
นายมาร์วาน โคลอยลัต ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายปฏิบัติการเชิงพาณิชย์ ประจำภาคพื้นตะวันออกไกลและออสเตรเลีย สายการบินกาตาร์ ประเทศสาธารณรัฐกาตาร์ เปิดเผยว่า การเติบโตของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวทั่วโลกส่งผลให้ธุรกิจการบินได้เติบโตไปในทิศทางเดียวกัน ดังนั้นสายการบินกาตาร์ จึงเตรียมแผนขยายธุรกิจด้วยการเพิ่มเที่ยวบินและขยายฝูงบิน โดยมีเป้าหมายในอีก 10 ข้างหน้าหรือประมาณปี 2558 จะเพิ่มฝูงบินเป็น 3 เท่า หรือ 110 ลำ ซึ่งในแผนระยะใกล้ได้สั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัสอีก 34 ลำ รวมมูลค่า 5,100 ล้านดอลลาร์ จะทำให้สายการบินกาตาร์มีเครื่องบินเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเท่าตัว จากปัจจุบันที่มีเครื่องบินแอร์บัสอยู่แล้ว 39 ลำ
สำหรับประเทศไทย สายการบินกาตาร์ได้ให้ความสำคัญ เพราะถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่กาตาร์จะใช้เป็นฮับ เพื่อบุกตลาดในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อส่งต่อผู้โดยสารเข้าไปยังประเทศตะวันออกไกล และยุโรป โดยในเดือนมิถุนายนนี้ บริษัทฯได้เตรียมเพิ่มเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-โดฮา เป็น 14 เที่ยวต่อสัปดาห์ จากปัจจุบันที่บินอยู่ 10 เที่ยวต่อสัปดาห์
ทั้งนี้เพราะพบว่า ความต้องการเดินทางของลูกค้าทั้งจากกาตาร์มาประเทศไทย และจากประเทศไทยไปกาตาร์ เพิ่มจำนวนสูงขึ้นมาก และมีกาตาร์บินเพียงสายการบินเดียว ตั้งเป้าหมายว่า ในปีนี้ อัตราเดินทางของผู้โดยสารคนไทยไปโดฮา ซึ่งเป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐกาตาร์ จะเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างน้อย 45% ซึ่งปีนี้กาตาร์ตั้งเป้าหมายว่าจะขนผู้โดยสารจากทั่วโลกตลอดทั้งปีได้ถึง 8 ล้านคน เติบโตจากปีก่อนเกือบ 50% โดยขนผู้โดยสารได้ราว 6 ล้านคน
“การเพิ่มเที่ยวบินของกาตาร์ที่จะมีขึ้นในเดือนมิถุนายนนี้ เราคำนวนจากดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งแม้ว่าสนามบินสุวรรณภูมิจะพร้อมเปิดให้บริการหรือไม่ก็ตาม ยอมรับว่าเมื่อ 2-3 ปีก่อน ประเทศไทย เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวกลุ่มยุโรปและตะวันออกกลาง ที่ชอบเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยเพียงฝ่ายเดียวแต่ปัจจุบันนี้กลับเป็นว่ามีการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างกันทั้งสองฝ่าย โดยคนไทยเดินทางไปท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังเป็นจุดต่อเครื่องบินเข้ายุโรปด้วย”
จุดประสงค์ของกาตาร์ ต้องการเป็นฮับ กระจายนักท่องเที่ยวจากเอเชีย ออกไปยังประเทศในกลุ่มยุโรป และประเทศอื่นๆทั่วโลก เช่น ลอนดอน มอสโคว์ แมนเชสเตอร์ และมิวนิค เป็นต้น ปัจจุบันกาตาร์ให้บริการเที่ยวบินจากเมืองโดฮา ไปยังประเทศต่างๆกว่า 70 จุดหมายปลายทาง(เดสติเนชั่น) จุดเด่นคือเรื่องการให้บริการแก่ลูกค้าแบบประทับใจ ซึ่งกาตาร์เป็น 1 ใน 4 สายการบินของโลก ที่ได้รับรางวัล 5 ดาว ด้านการให้บริการยอดเยี่ยมจากสกายแทร็ค(Skytrax) ซึ่งเป็นสำนักตรวจสอบคุณภาพอิสระของอุตสาหกรรมการบิน
อย่างไรก็ตามเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าผู้ใช้บริการ กาตาร์ได้เปิดสำนักงานสาขาแห่งใหม่ ที่อาคารเพลินจิต เซ็นเตอร์ ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง เพราะลูกค้าจะได้พำนักและติดต่อธุรกิจในย่านใจกลางกรุงเทพได้มากยิ่งขึ้น
นายมาร์วาน กล่าวว่า สำหรับปัญหาราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กาตาร์ แม้จะเป็นสายการบินของประเทศผู้ค้าน้ำมันก็ตม แต่ก็ต้องทนแบกรับต้นทุนน้ำมันที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน เพราะรัฐบาลกาตาร์ก็ไม่ได้เข้ามาช่วยในเรื่องนี้ ทำให้ธุรกิจมีสัดส่วนกำไรลดลง ส่วนค่าธรรมเนียมน้ำมัน ในเส้นทาง กรุงเทพฯ-โดฮา เก็บค่าธรรมเนียมน้ำมันอยู่ที่ 90 ดอลลาร์ในเที่ยวไป-กลับ
นายมาร์วาน โคลอยลัต ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายปฏิบัติการเชิงพาณิชย์ ประจำภาคพื้นตะวันออกไกลและออสเตรเลีย สายการบินกาตาร์ ประเทศสาธารณรัฐกาตาร์ เปิดเผยว่า การเติบโตของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวทั่วโลกส่งผลให้ธุรกิจการบินได้เติบโตไปในทิศทางเดียวกัน ดังนั้นสายการบินกาตาร์ จึงเตรียมแผนขยายธุรกิจด้วยการเพิ่มเที่ยวบินและขยายฝูงบิน โดยมีเป้าหมายในอีก 10 ข้างหน้าหรือประมาณปี 2558 จะเพิ่มฝูงบินเป็น 3 เท่า หรือ 110 ลำ ซึ่งในแผนระยะใกล้ได้สั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัสอีก 34 ลำ รวมมูลค่า 5,100 ล้านดอลลาร์ จะทำให้สายการบินกาตาร์มีเครื่องบินเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเท่าตัว จากปัจจุบันที่มีเครื่องบินแอร์บัสอยู่แล้ว 39 ลำ
สำหรับประเทศไทย สายการบินกาตาร์ได้ให้ความสำคัญ เพราะถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่กาตาร์จะใช้เป็นฮับ เพื่อบุกตลาดในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อส่งต่อผู้โดยสารเข้าไปยังประเทศตะวันออกไกล และยุโรป โดยในเดือนมิถุนายนนี้ บริษัทฯได้เตรียมเพิ่มเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-โดฮา เป็น 14 เที่ยวต่อสัปดาห์ จากปัจจุบันที่บินอยู่ 10 เที่ยวต่อสัปดาห์
ทั้งนี้เพราะพบว่า ความต้องการเดินทางของลูกค้าทั้งจากกาตาร์มาประเทศไทย และจากประเทศไทยไปกาตาร์ เพิ่มจำนวนสูงขึ้นมาก และมีกาตาร์บินเพียงสายการบินเดียว ตั้งเป้าหมายว่า ในปีนี้ อัตราเดินทางของผู้โดยสารคนไทยไปโดฮา ซึ่งเป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐกาตาร์ จะเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างน้อย 45% ซึ่งปีนี้กาตาร์ตั้งเป้าหมายว่าจะขนผู้โดยสารจากทั่วโลกตลอดทั้งปีได้ถึง 8 ล้านคน เติบโตจากปีก่อนเกือบ 50% โดยขนผู้โดยสารได้ราว 6 ล้านคน
“การเพิ่มเที่ยวบินของกาตาร์ที่จะมีขึ้นในเดือนมิถุนายนนี้ เราคำนวนจากดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งแม้ว่าสนามบินสุวรรณภูมิจะพร้อมเปิดให้บริการหรือไม่ก็ตาม ยอมรับว่าเมื่อ 2-3 ปีก่อน ประเทศไทย เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวกลุ่มยุโรปและตะวันออกกลาง ที่ชอบเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยเพียงฝ่ายเดียวแต่ปัจจุบันนี้กลับเป็นว่ามีการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างกันทั้งสองฝ่าย โดยคนไทยเดินทางไปท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังเป็นจุดต่อเครื่องบินเข้ายุโรปด้วย”
จุดประสงค์ของกาตาร์ ต้องการเป็นฮับ กระจายนักท่องเที่ยวจากเอเชีย ออกไปยังประเทศในกลุ่มยุโรป และประเทศอื่นๆทั่วโลก เช่น ลอนดอน มอสโคว์ แมนเชสเตอร์ และมิวนิค เป็นต้น ปัจจุบันกาตาร์ให้บริการเที่ยวบินจากเมืองโดฮา ไปยังประเทศต่างๆกว่า 70 จุดหมายปลายทาง(เดสติเนชั่น) จุดเด่นคือเรื่องการให้บริการแก่ลูกค้าแบบประทับใจ ซึ่งกาตาร์เป็น 1 ใน 4 สายการบินของโลก ที่ได้รับรางวัล 5 ดาว ด้านการให้บริการยอดเยี่ยมจากสกายแทร็ค(Skytrax) ซึ่งเป็นสำนักตรวจสอบคุณภาพอิสระของอุตสาหกรรมการบิน
อย่างไรก็ตามเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าผู้ใช้บริการ กาตาร์ได้เปิดสำนักงานสาขาแห่งใหม่ ที่อาคารเพลินจิต เซ็นเตอร์ ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง เพราะลูกค้าจะได้พำนักและติดต่อธุรกิจในย่านใจกลางกรุงเทพได้มากยิ่งขึ้น
นายมาร์วาน กล่าวว่า สำหรับปัญหาราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กาตาร์ แม้จะเป็นสายการบินของประเทศผู้ค้าน้ำมันก็ตม แต่ก็ต้องทนแบกรับต้นทุนน้ำมันที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน เพราะรัฐบาลกาตาร์ก็ไม่ได้เข้ามาช่วยในเรื่องนี้ ทำให้ธุรกิจมีสัดส่วนกำไรลดลง ส่วนค่าธรรมเนียมน้ำมัน ในเส้นทาง กรุงเทพฯ-โดฮา เก็บค่าธรรมเนียมน้ำมันอยู่ที่ 90 ดอลลาร์ในเที่ยวไป-กลับ