เดอะไมเนอร์ฯเดินหน้าเบอร์เกอร์คิงต่อเนื่อง ทยอยปรับโฉมใหม่ส่งยอดขายขึ้น 10% ยอมรับสาขายังน้อย ส่งผลให้แคมเปญใหญ่ๆทำยาก เปิดสาขาล่าสุดที่ถนนแจ้งวัฒนะ
นายวิชัย พรพระตั้ง รองประธานฝ่ายการตลาด บริษัท เดอะไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านเบอร์เกอร์คิง เปิดเผยว่า การทำตลาดของเบอร์เกอร์คิงนั้น ยังมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับแบรนด์อื่นในเครือ แม้ว่าปัจจุบันนี้เบอร์เกอร์คิงจะยังเป็นแบรนด์ที่ทำรายได้ในสัดส่วนที่น้อยที่สุดเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นในเครือคือ เดอะพิซซ่าคอมปะนีสร้างรายได้หลัก สเวนเซ่นส์และซิซซ์เล่อร์รายได้ใกล้เคียงกัน รองลงมาคือ แดรี่ควีนและเบอร์เกอร์คิง
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจากจำนวนสาขาของเบอร์เกอร์คิงนั้นยังมีน้อยคือประมาณ 20 สาขา จึงส่งผลให้การทำตลาดไม่สามารถทำได้เต็มที่ในวงกว้าง เพราะการมีสาขาน้อย ทำให้การทำโปรโมชั่นใหญ่ๆ ลำบากเพราะรองรับได้ไม่ทั่วถึง ไม่เหมือนกับแบรนด์ที่มีสาขามากอย่างเช่น แดรี่ควีนหรือ เดอะพิซซ่าคอมปะนี
ล่าสุดทางกลุ่มไมเนอร์ฯได้เปิดสาขาเบอร์เกอร์คิงใหม่ในโครงการของสยามฟิวเจอร์ดีเวลลอปเม้นท์ที่ถนนแจ้งวัฒนะ โดยเป็นคอนเซ็ปท์ใหม่ว่า อีกทั้งสาขานี้จะเมีความพิเศษตรงที่มีป้ายโลโก้หน้าร้านจะมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกของเบอร์เกอร์คิงทั่วโลก ส่วนสาขาเก่าที่เปิดบริการเช่น ข้างอาคารมณียา สาขาสีลม สาขาคลองสาน สาขาสนามบินดอนเมือง เป็นต้น
ก่อนหน้านี้ทางไมเนอร์ได้ทยอยปรับรูปแบบโฉมใหม่ของเบอร์เกอร์คิงให้มีความทันสมัยมากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 10%
“จริงๆแล้ว เบอร์เกอร์คิงก็ไปได้ดี เพียงแต่ไม่หวือหวา ตลาดของคนชอบเบอร์เกอร์คิงก็มีอยู่ประเภทเหนียวแน่นและแฟนพันธ์แท้จริงๆ ส่วนใหญ่แล้วกลุ่มเป้าหมายจะเป็นคนทำงานบริษัท และคนต่างชาติ โดยเมนูที่ได้รับความนิยมก็คือ วอปเปอร์ ซึ่งถือว่ายอดฮิตมากที่สุด”
สำหรับการขยายสาขาของเบอร์เกอร์คิงนั้นก็มีแผนเช่นกัน แต่ทั้งนี้ต้องพิจารณาหลายปัจจัยควบคู่กันเหมือนกับการเปิดสาขาของแบรนด์อื่นทั้ง ทำเล ขนาดของพื้นที่ และพฤติกรรมของผู้บริโภคในย่านนั้นด้วย ซึ่งหากได้ทำเลดีและมีความเหมาะสมบริษัทฯก็พร้อมที่จะลงทุนเปิดสาขา
ก่อนหน้านี้ทางแมคโดนัลด์ ยักษ์ใหญ่ด้านตลาดเบอร์เกอร์ในไทย วางเป้าหมายผลประกอบการปีนี้จะเติบโตประมาณ 10% เพิ่มจากปีที่แล้วที่เติบโตเพียง 5% เท่านั้น โดยเดินเกมรุกหนักเช่น การเปิดสาขาในรูปแบบคีออสที่จะเน้นขายสินค้าประเภทขนมหวาน ไอศกรีม เท่านั้น ประมาณ 50 จุด นอกนั้นก็จะเป็นการขยายสาขาร้านมาตรฐานที่มีที่นั่ง แต่ขึ้นอยู่กับทำเลและขนาดพื้นที่ที่ได้มา
นายวิชัย พรพระตั้ง รองประธานฝ่ายการตลาด บริษัท เดอะไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านเบอร์เกอร์คิง เปิดเผยว่า การทำตลาดของเบอร์เกอร์คิงนั้น ยังมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับแบรนด์อื่นในเครือ แม้ว่าปัจจุบันนี้เบอร์เกอร์คิงจะยังเป็นแบรนด์ที่ทำรายได้ในสัดส่วนที่น้อยที่สุดเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นในเครือคือ เดอะพิซซ่าคอมปะนีสร้างรายได้หลัก สเวนเซ่นส์และซิซซ์เล่อร์รายได้ใกล้เคียงกัน รองลงมาคือ แดรี่ควีนและเบอร์เกอร์คิง
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจากจำนวนสาขาของเบอร์เกอร์คิงนั้นยังมีน้อยคือประมาณ 20 สาขา จึงส่งผลให้การทำตลาดไม่สามารถทำได้เต็มที่ในวงกว้าง เพราะการมีสาขาน้อย ทำให้การทำโปรโมชั่นใหญ่ๆ ลำบากเพราะรองรับได้ไม่ทั่วถึง ไม่เหมือนกับแบรนด์ที่มีสาขามากอย่างเช่น แดรี่ควีนหรือ เดอะพิซซ่าคอมปะนี
ล่าสุดทางกลุ่มไมเนอร์ฯได้เปิดสาขาเบอร์เกอร์คิงใหม่ในโครงการของสยามฟิวเจอร์ดีเวลลอปเม้นท์ที่ถนนแจ้งวัฒนะ โดยเป็นคอนเซ็ปท์ใหม่ว่า อีกทั้งสาขานี้จะเมีความพิเศษตรงที่มีป้ายโลโก้หน้าร้านจะมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกของเบอร์เกอร์คิงทั่วโลก ส่วนสาขาเก่าที่เปิดบริการเช่น ข้างอาคารมณียา สาขาสีลม สาขาคลองสาน สาขาสนามบินดอนเมือง เป็นต้น
ก่อนหน้านี้ทางไมเนอร์ได้ทยอยปรับรูปแบบโฉมใหม่ของเบอร์เกอร์คิงให้มีความทันสมัยมากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 10%
“จริงๆแล้ว เบอร์เกอร์คิงก็ไปได้ดี เพียงแต่ไม่หวือหวา ตลาดของคนชอบเบอร์เกอร์คิงก็มีอยู่ประเภทเหนียวแน่นและแฟนพันธ์แท้จริงๆ ส่วนใหญ่แล้วกลุ่มเป้าหมายจะเป็นคนทำงานบริษัท และคนต่างชาติ โดยเมนูที่ได้รับความนิยมก็คือ วอปเปอร์ ซึ่งถือว่ายอดฮิตมากที่สุด”
สำหรับการขยายสาขาของเบอร์เกอร์คิงนั้นก็มีแผนเช่นกัน แต่ทั้งนี้ต้องพิจารณาหลายปัจจัยควบคู่กันเหมือนกับการเปิดสาขาของแบรนด์อื่นทั้ง ทำเล ขนาดของพื้นที่ และพฤติกรรมของผู้บริโภคในย่านนั้นด้วย ซึ่งหากได้ทำเลดีและมีความเหมาะสมบริษัทฯก็พร้อมที่จะลงทุนเปิดสาขา
ก่อนหน้านี้ทางแมคโดนัลด์ ยักษ์ใหญ่ด้านตลาดเบอร์เกอร์ในไทย วางเป้าหมายผลประกอบการปีนี้จะเติบโตประมาณ 10% เพิ่มจากปีที่แล้วที่เติบโตเพียง 5% เท่านั้น โดยเดินเกมรุกหนักเช่น การเปิดสาขาในรูปแบบคีออสที่จะเน้นขายสินค้าประเภทขนมหวาน ไอศกรีม เท่านั้น ประมาณ 50 จุด นอกนั้นก็จะเป็นการขยายสาขาร้านมาตรฐานที่มีที่นั่ง แต่ขึ้นอยู่กับทำเลและขนาดพื้นที่ที่ได้มา