xs
xsm
sm
md
lg

ขุนคลังนัดถกแบงก์ชาติเกี่ยวกับค่าเงินบาทวันนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รมว.คลังจะหารือผู้ว่าแบงก์ชาติเกี่ยวกับค่าเงินบาทวันนี้ โดยเงินบาททำสถิติแข็งค่าที่สุดในรอบ 6 เดือนที่ 37.90 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่กระทรวงการคลังคาดทิศทางปรับดอกเบี้ยของแบงก์ชาติน่าจะถึงจุดสูงสุด เนื่องจากเงินเฟ้อเริ่มลดลง ดังนั้น การใช้นโยบายดอกเบี้ยคุมเงินเฟ้อน่าจะลดความสำคัญลง ยืนยันปัญหาราคาน้ำมันแพงไม่กระทบเศรษฐกิจ โดยกรอบจีดีพีปี 2549 อยู่ที่ร้อยละ 4.5-5.5

นายสมชัย สัจจพงศ์ โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า จากปัญหาราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นขณะนี้ โดยราคาน้ำมันดิบดูไบยังอยู่ในช่วงของการติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งกระทรวงการคลังวางกรอบค่าเฉลี่ยไว้ที่ 58-60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ดังนั้น จึงยังไม่จำเป็นต้องปรับเป้าการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) โดยยังคาดว่าจีดีพีของปี 2549 จะอยู่ที่ร้อยละ 4.5-5.5 อย่างไรก็ตาม ก็ต้องติดตามสถานการณ์น้ำมันอย่างใกล้ชิด โดยยอมรับว่าแรงกดดันด้านต่าง ๆ ที่มีต่ออัตราเงินเฟ้อเริ่มลดลงเมื่อเทียบกับช่วงกลางปีถึงปลายปีก่อน ซึ่งอัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นมาก เนื่องจากการประกาศลอยตัวราคาน้ำมัน จึงทำให้ฐานอัตราเงินเฟ้อในช่วงครึ่งปีหลังอยู่ในระดับสูงและน้ำมันดิบในช่วงปี 2548 ปรับสูงขึ้นถึงร้อยละ 44 และในปีนี้คาดว่าคงไม่สูงเหมือนช่วงที่ผ่านมา จึงทำให้เงินเฟ้อไตรมาส 2 น่าจะเริ่มลดลง หลังจากไตรมาสแรกอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ร้อยละ 5.7 ถือว่าเป็นระดับที่สูงสุด และจากนี้ไปจะลดลงอย่างต่อเนื่อง

นายสมชัย กล่าวว่า เชื่อมั่นว่าการใช้นโยบายดอกเบี้ยเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) น่าจะเป็นการปรับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นถึงจุดสูงสุดแล้ว โดยกระทรวงการคลังคาดว่าอัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตรระยะสั้นอาร์พี 14 วัน ของ ธปท. น่าจะอยู่ที่ร้อยละ 5 ส่วนค่าเงินบาทเฉลี่ยทั้งปีจะอยู่ที่ 38.8-40 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ส่วนการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ ธปท. ก็ต้องอยู่ที่การดูสภาพความเหมาะสมและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ เพราะหากอัตราดอกเบี้ยปรับสูงขึ้นมากก็จะทำให้กระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ เพราะเป็นต้นทุนของผู้ประกอบการ และการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อดึงเงินทุนเข้าประเทศได้ทางหนึ่ง แต่ในช่วงที่ผ่านมาเห็นว่าเงินทุนได้ไหลเข้าประเทศจำนวนมากแล้ว อย่างไรก็ตาม ก็ต้องขึ้นอยู่กับ ธปท. สำหรับการดูแลอัตราเงินเฟ้อและเสถียรภาพของเศรษฐกิจ และคาดว่าความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนขณะนี้น่าจะเกิดขึ้นเพียงช่วงสั้น

นายทนง พิทยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า วันนี้จะหารือผ่านทางโทรศัพท์กับ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการ ธปท. เกี่ยวกับสถานการณ์ค่าเงินบาทหลังจากแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง โดยเห็นว่า ธปท. คงเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ค่าเงินบาทดี เพื่อให้การส่งออกเป็นไปตามเป้าหมาย

นักค้าเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทวันนี้ว่า เงินบาทเปิดตลาดที่ 38.02-38.90 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากนั้นก็มีแรงเทขายเงินดอลลาร์สหรัฐ จากกองทุนในต่างประเทศ ทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นไปถึง 37.90 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นระดับที่แข็งค่าที่สุดในรอบ 6 เดือน โดยปัจจัยกดดันเงินบาทยังมาจากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ ทั้งการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่าตัวเลขดุลการค้าของสหรัฐจะออกมาค่อนข้างดีก็ตาม นอกจากนี้ ยังมีเงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศ และการคาดการณ์ของตลาดว่าจีนอาจจะปรับเปลี่ยนนโยบายเงินหยวน หลังจากประธานาธิบดีของจีนจะเดินทางไปเยือนสหรัฐในวันที่ 20 เมษายนนี้ ทั้งนี้ หากเงินบาทแข็งค่าทะลุ 37.90 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ก็อาจจะไปทดสอบแนวรับต่อไปที่ 37.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
กำลังโหลดความคิดเห็น