xs
xsm
sm
md
lg

ทาโรอัด 100ลบ.ลุยสื่อขยายลูกค้านักเรียน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปลาเส้นทาโรอัด 100 ล้านบาท เดินหน้าแผนการตลาดไตรมาส 2 ทุ่มสื่อ อโบพ เดอะ ไลน์ ยึดคอนเซ็ปต์สินค้ามีคุณค่า ทานแล้วไม่อ้วนเป็นจุดขาย เล็งขยายช่องทางเข้าขายในโรงเรียนมากขึ้น พร้อมเดินหน้าอัดกิจกรรมและเป็นสปอนเซอร์ช่วงบอลโลก 2006 คาดกระตุ้นยอดขายสิ้นปีโต 10-15%

นายพรศักดิ์ สินคณารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ- การตลาด บริษัท พรีเมียร์ มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายปลาเส้นตราทาโร เปิดเผยว่า แผนการตลาดของทาโรในปีนี้บริษัทฯเตรียมงบการตลาดไว้ใกล้เคียงกับปีที่แล้วหรือประมาณ 100 ล้านบาท โดยจะเน้นทำการตลาดผ่านสื่ออโบฟ เดอะ ไลน์เป็นหลัก คิดเป็นสัดส่วน 70% ซึ่งเมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาเพิ่งเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาทาโรชุด “ช้าง” ไป ภายใต้คอนเซ็ปต์ขนมที่เน้นถึงเรื่องความมีคุณค่า มีโปรตีนและไม่มีไขมันเป็นจุดขาย ขณะที่งบประมาณอีก 30% จะใช้ผ่านสื่อบีโลว์ เดอะ ไลน์ อาทิ ทำกิจกรรมและการให้ความรู้ต่างๆ รวมถึงมีแผนเจาะช่องทางขายในโรงเรียน โดยปัจจุบันทาโร่ในช่องทางร.ร.ขายผ่านยี่ปั๊ว คิดเป็นสัดส่วน 20-30%

ทั้งนี้ภาพรวมของทาโรในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาพบว่ามีอัตราการโต 10% หากเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งสถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจไม่ได้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมธุรกิจมากนัก แต่อาจจะกระทบบ้างจากการปิดภาคเรียนของเด็กนักเรียน

“แผนการตลาดในช่วง 9 เดือนต่อจากนี้ไป มองว่าช่วงนี้ตลาดเริ่มจะดีขึ้นเนื่องจากเป็นช่วงเปิดเทอม อีกทั้งช่วงกลางปีจะมีฟุตบอลโลก ซึ่งทุกปีที่มีการจัดบอลโลกจะทำให้ตลาดสแน็กมีความคึกคักและยอดขายดีขึ้น ซึ่งช่วงบอลโลกที่ผ่านมาพบว่ายอดขายบริษัทฯเพิ่มขึ้น10-15% ดังนั้นปีนี้บริษัทฯจึงมีแผนทำโปรโมชั่นและร่วมกิจกรรมต่างๆ ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงการเจรจากับสื่อต่างๆในการขอเป็นสปอนเซอร์ช่วงบอลโลก”

ขณะที่ช่วงไตรมาส 3 และ 4 ปีนี้บริษัทฯมีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่ที่เป็นซับแบรนด์เดิม ซึ่งสินค้าใหม่นี้จะอิงกระแสคนรักสุขภาพ และเน้นคอนเซ็ปต์เดิมของทาโรที่เป็นขนมที่มีคุณค่าและไม่มีไขมัน ทั้งนี้ในส่วนของยอดขายทาโรปีนี้บริษัทฯคาดว่าจะเติบโตขึ้น 12-15%

ทั้งนี้จากข้อมูลของเอซี นีลสันได้รวบรวมข้อมูลตลาดรวมขนมขบเคี้ยวหรือสแน็กปี 2548 พบว่ามีมูลค่า 11,570 ล้านบาทและเติบโต 8.6% จากปีก่อน โดยกลุ่มปลาเส้นเติบโตมากสุด13% และมีสัดส่วนคิดเป็น 8% ของตลาดรวม สำหรับตลาดปลาเส้นปีนี้คาดว่าจะเติบโตใกล้เคียงกับตลาดรวมขนมขบเคี้ยวที่ 10%
กำลังโหลดความคิดเห็น