อีจีวี วางนโยบายใหม่ แยกทำกิจกรรมทางการตลาดชัดเจน จากเดิมที่ทำคู่กับเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ เจาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นนักศึกษาโดยเฉพาะ ทุ่มงบการตลาดกว่า 30 ล้านบาท เน้นปรับปรุงโรงภาพยนตร์อีจีวี 3 เปลี่ยนเป็นแกรนด์อีจีวี เชื่อกวาดมาร์เก็ตแชร์เป็น 25% ในปีนี้
นายอนวัช องค์วาสิฏฐ์ รองกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจภาพยนตร์ บริษัท เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้เป็นปีแรกที่โรงภาพยนตร์ในกลุ่มเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์และอีจีวีจะมีการทำการตลาดที่แยกออกจากกัน เพื่อจะได้แยกการทำงานกันได้อย่างชัดเจน รวมทั้งจะช่วยสร้างสีสันให้ตลาดอีกทางหนึ่ง
โดยกลุ่มอีจีวีได้วางกิจกรรมทางการตลาดเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่นโดยเฉพาะ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่เข้ามาชมภาพยนตร์ที่โรงภาพยนตร์ในกลุ่มอีจีวีถึง 70% ส่วนอีก 30% จะเป็นกลุ่มครอบครัว
“การที่เน้นในกลุ่มวัยรุ่นโดยเฉพาะนั้น เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีไลฟ์สไตล์ในการเข้าชมภาพยนตร์ในโรงของกลุ่มอีจีวีมากที่สุด บวกกับภาพลักษณ์ของอีจีวีที่ดูทันสมัยเหมาะกับกลุ่มเป้าหมายดังกล่าว ทำให้การทำตลาดดังกล่าวจะเน้นกลุ่มวัยรุ่นเป็นหลัก”
เริ่มจากช่วงต้นปีที่ผ่านมากับกิจกรรมทางการตลาดภายใต้ชื่อ มูฟวี่แพ็คเก็จ เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดความถี่ในการชมภาพยนตร์ครั้งต่อไปในราคาที่ถูกลง
รวมถึงการร่วมมือกับทาง ดั๊บเบิ้ล เอ ในการจัดกิจกรรมการประกวด U-Cover Idea Design 2006 ประกวดการออกแบบสมุดเล็คเชอร์ เจาะกลุ่มเป้าหมายนักศึกษาทั่วประเทศ ในช่วงปิดเทอมนี้อีกทางหนึ่งด้วย
นอกจากนี้บริษัทฯยังได้เตรียมปรับปรุงโรงภาพยนตร์อีจีวีอีก 3 สาขาให้ดูมีความทันสมัยมากขึ้น ให้เป็นโรงภาพยนตร์แกรนด์อีจีวี คือ สาขาปิ่นเกล้า สาขารังสิต และสาขาซีคอนสแควร์
“การปรับปรุงโรงภาพยนตร์อีจีวีทั้ง 3 สาขาให้เป็นโรงภาพยนตร์แกรนด์อีจีวีครั้งนี้ จะเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่ง นอกเหนือจากกิจกรรมทางการตลาดที่จะมีตลอดทั้งปี มั่นใจช่วยเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ที่มีอยู่เดิม 10-15% ให้เป็น 25%ในปีนี้” นายอนวัช กล่าว
สำหรับงบทางการตลาดทั้งปี บริษัทฯวางไว้ที่ 20-30 ล้านบาท โดยในส่วนของเซอร์วิส แพ็คเก็จ ต่างๆจะมีออกมาต่อเนื่องตลอดทั้งปี
ทั้งนี้ปัจจุบันโรงภาพยนตร์อีจีวีมีทั้งสิ้น 10 สาขา คือ แกรนด์อีจีวี 1 สาขาที่สยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์ อี-ซีนีม่า 1 สาขาที่อ้อมใหญ่ และอีจีวี 8 สาขา
นายอนวัช องค์วาสิฏฐ์ รองกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจภาพยนตร์ บริษัท เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้เป็นปีแรกที่โรงภาพยนตร์ในกลุ่มเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์และอีจีวีจะมีการทำการตลาดที่แยกออกจากกัน เพื่อจะได้แยกการทำงานกันได้อย่างชัดเจน รวมทั้งจะช่วยสร้างสีสันให้ตลาดอีกทางหนึ่ง
โดยกลุ่มอีจีวีได้วางกิจกรรมทางการตลาดเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่นโดยเฉพาะ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่เข้ามาชมภาพยนตร์ที่โรงภาพยนตร์ในกลุ่มอีจีวีถึง 70% ส่วนอีก 30% จะเป็นกลุ่มครอบครัว
“การที่เน้นในกลุ่มวัยรุ่นโดยเฉพาะนั้น เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีไลฟ์สไตล์ในการเข้าชมภาพยนตร์ในโรงของกลุ่มอีจีวีมากที่สุด บวกกับภาพลักษณ์ของอีจีวีที่ดูทันสมัยเหมาะกับกลุ่มเป้าหมายดังกล่าว ทำให้การทำตลาดดังกล่าวจะเน้นกลุ่มวัยรุ่นเป็นหลัก”
เริ่มจากช่วงต้นปีที่ผ่านมากับกิจกรรมทางการตลาดภายใต้ชื่อ มูฟวี่แพ็คเก็จ เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดความถี่ในการชมภาพยนตร์ครั้งต่อไปในราคาที่ถูกลง
รวมถึงการร่วมมือกับทาง ดั๊บเบิ้ล เอ ในการจัดกิจกรรมการประกวด U-Cover Idea Design 2006 ประกวดการออกแบบสมุดเล็คเชอร์ เจาะกลุ่มเป้าหมายนักศึกษาทั่วประเทศ ในช่วงปิดเทอมนี้อีกทางหนึ่งด้วย
นอกจากนี้บริษัทฯยังได้เตรียมปรับปรุงโรงภาพยนตร์อีจีวีอีก 3 สาขาให้ดูมีความทันสมัยมากขึ้น ให้เป็นโรงภาพยนตร์แกรนด์อีจีวี คือ สาขาปิ่นเกล้า สาขารังสิต และสาขาซีคอนสแควร์
“การปรับปรุงโรงภาพยนตร์อีจีวีทั้ง 3 สาขาให้เป็นโรงภาพยนตร์แกรนด์อีจีวีครั้งนี้ จะเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่ง นอกเหนือจากกิจกรรมทางการตลาดที่จะมีตลอดทั้งปี มั่นใจช่วยเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ที่มีอยู่เดิม 10-15% ให้เป็น 25%ในปีนี้” นายอนวัช กล่าว
สำหรับงบทางการตลาดทั้งปี บริษัทฯวางไว้ที่ 20-30 ล้านบาท โดยในส่วนของเซอร์วิส แพ็คเก็จ ต่างๆจะมีออกมาต่อเนื่องตลอดทั้งปี
ทั้งนี้ปัจจุบันโรงภาพยนตร์อีจีวีมีทั้งสิ้น 10 สาขา คือ แกรนด์อีจีวี 1 สาขาที่สยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์ อี-ซีนีม่า 1 สาขาที่อ้อมใหญ่ และอีจีวี 8 สาขา