“วราเทพ” ขู่ฟ้อง “สนธิ” พาดพิงรับประโยชน์สร้างโรงงานยาสูบที่เชียงใหม่ พร้อมท้าเปิดข้อมูลที่ชัดเจน อย่าใช้แต่เวทีชุมนุมแบบไม่มีหลักฐาน ยืนยันเป็นเพียงการพิจารณาแนวทางเบื้องต้น ซึ่งต้องรอรัฐบาลใหม่เข้ามาตัดสินใจ
นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่ถูกกล่าวหาพาดพิงจากนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในกรณีการย้ายโรงงานยาสูบไปที่จังหวัดเชียงใหม่ และนักการเมืองได้รับผลประโยชน์ว่า หากมีข้อมูลการทุจริตโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตยาสูบแห่งใหม่ที่จังหวัดเชียงใหม่จริง ให้นำหลักฐานออกมาเปิดเผยต่อสาธารณชน อย่าใช้เพียงเวทีชุมนุมกล่าวหาโดยไม่มีข้อมูลหลักฐานที่เป็นจริง ซึ่งหากนายสนธิยังกล่าวหาตัวเองอยู่ก็จะดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีในชั้นศาลต่อไป เพราะหากเป็นข้อมูลของฝ่ายค้านเป็นผู้ออกมาเปิดเผยอาจจะมีฐานข้อมูลจากขั้นตอนที่มีส่วนรับผิดชอบบ้าง และถึงแม้โรงงานยาสูบจะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับโครงการก่อสร้าง และเสนอมาให้กระทรวงการคลังพิจารณา ก็จะยังไม่พิจารณาแนวทางการก่อสร้าง เพราะถือว่าเป็นโครงการขนาดใหญ่ต้องรอให้รัฐบาลใหม่เป็นผู้พิจารณา
ด้าน นายสุชน วัฒนพงษ์วานิช ผู้อำนวยการโรงานยาสูบ กล่าวว่า ได้เพิ่มมูลค่าการก่อสร้างเพิ่มขึ้นเป็น 16,932 ล้านบาท แต่ทาง CYC ของจีนเสนอมูลค่าการก่อสร้างมาที่ 18,000 ล้านบาท จึงขอให้เอกชนจีนส่งข้อมูลการก่อสร้างทั้งหมดมาภายในเดือนพฤษภาคมนี้ และทางโรงงานยาสูบจะพิจารณาข้อเสนอ และจะพิจารณาในเดือนมิถุนายน ก่อนที่จะให้กระทรวงการคลังพิจารณา แต่หากข้อมูลขาดความชัดเจนก็อาจจะขออนุมัติให้ยกเลิกข้อตกลงได้
ทั้งนี้ จากมาตรการรณรงค์ห้ามสูบบุหรี่โดยไม่ให้มีการตั้งโชว์บุหรี่หน้าร้าน ทำให้การทำการตลาดยากกว่าเดิม ซึ่งคาดว่ายอดขายบุหรี่ในปี 2549 เดิม 32,000 ล้านบาท จะลดลงเหลือเพียง 30,000 ล้านบาท หรือประมาณร้อยละ 20โดยมีกำไรประมาณ 6,000 ล้านบาท ส่วนกำลังการผลิตของโรงงานที่เชียงใหม่ มีจำนวน 25,000 ล้านมวนต่อปี ซึ่งลดลงจากปัจจุบันที่ผลิต 30,000 ล้านมวนต่อปี เป็นการคาดการณ์ความต้องการของตลาดในช่วง 5–6 ปีข้างหน้าตามการคาดการณ์การสูบบุหรี่ที่ลดลง อย่างไรก็ตาม หากการสร้างโรงงานต้องล่าช้าออกไปอีก 1 ปี จะส่งผลดีต่อเจ้าหน้าที่ที่ต้องย้ายไปทำงานที่จังหวัดเชียงใหม่ เพราะจะมีเวลาเตรียมตัวเพิ่มขึ้นอีก 1 ปี