"พาณิชย์"ทันควัน จัดตั้งทีมม้าเร็วออกตรวจสอบราคาสินค้ารับเทศกาลสงกรานต์ พร้อมตั้งศูนย์ฮอตไลน์แม่บ้านที่สถานีขนส่งทั้งหมอชิต หัวลำโพง รับเรื่องราวร้องทุกข์ถึงที่ ขู่หากตรวจสอบพบพ่อค้าแม่ค้าขายสินค้าราคาไม่เป็นธรรม ปรับ 1.4 แสน คุก 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนไม่ปิดป้ายแสดงราคา เจอปรับ 1 หมื่น เลื่อนแก๊สหุงต้มขึ้นบัญชีติดตามราคาทุกวัน หลังถูกขู่ขึ้นราคา พร้อมจับตาชุด-รองเท้านักเรียน
นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงการดูแลราคาสินค้าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะมาถึงเร็วๆ นี้ว่า กรมฯ ได้เตรียมความพร้อมในการดูแลราคาสินค้า เพื่อป้องกันไม่ให้พ่อค้าแม่ค้าฉวยโอกาสขายสินค้าเกินราคาแบบไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภค เพราะในช่วงก่อนถึงวันเทศกาลสงกรานต์ จะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาในต่างจังหวัดเป็นจำนวนมาก จึงได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบราคาและการปิดป้ายราคาสินค้าตามพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณสถานีขนส่ง สถานีรถไฟ พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์ฮอตไลน์แม่บ้าน 1569 เช่น ที่สถานีขนส่งหมอชิต สถานีหัวลำโพง รองรับการร้องเรียนจากประชาชนไว้ด้วย
"ในช่วงเทศกาลต่างๆ มักจะมีผู้ประกอบการที่ฉวยโอกาสขายสินค้าแบบไม่เป็นธรรม อย่างช่วงสงกรานต์ปีที่แล้ว กรมฯ ก็สามารถดำเนินคดีกับผู้ประกอบเหล่านี้เป็นจำนวนมาก ดังนั้น จึงอยากเตือนบรรดาผู้ประกอบการอย่าฉวยโอกาสเป็นอันขาด เพราะจะถูกดำเนินคดีทางกฎหมายขั้นเด็ดขาด"
ทั้งนี้ หากตรวจสอบพบพ่อค้าและแม่ค้าฉวยโอกาสขายสินค้าราคาไม่เป็นธรรม มีโทษปรับ 1.4 แสนบาท จำคุก 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากไม่ปิดป้ายราคาสินค้ามีโทษปรับ 1 หมื่นบาท
รายงานข่าวแจ้งว่า การตรวจสอบราคาสินค้าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่สถานที่ที่มักพบปัญหา คือ สถานนีขนส่งหมอชิต โดยพบว่าเกิดกรณีการปิดป้ายแสดงราคาสินค้าไม่ตรงกับราคาขายจริงมาก เช่น ปิดป้าย ราคา15 บาท แต่ขายจริง 20 บาท ซึ่งก็ได้ลงโทษไปแล้ว และหากปีนี้ มีการตรวจสอบพบก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด
โดยพบว่าสถานีขนส่งหมอชิต จะมีปัญหาเรื่องราคาสินค้า มากกว่าสถานีหัวลำโพง เนื่องจากสถานีขนส่ง หมอชิต มีร้านค้าจำนวนไม่มาก ทำให้มีการแข่งขันไม่สูง ขณะที่สถานีรถไฟหัวลำโพง มีร้านค้าจำนวนมาก และมีร้านค้าบริเวณโดยรอบสถานี ทำให้มีการแข่งขันสูง หากขายราคาแพงมาก ประชาชนก็จะออกไปซื้อข้างนอก
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ในเดือนเม.ย.2549 กรมการค้าภายในได้จัดทำบัญชีสินค้าที่ต้องติดตามดูแล โดยได้เลื่อนรายการแก๊สหุงต้มเข้ามาอยู่บัญชีสินค้าที่มีความอ่อนไหวเป็นพิเศษ (SL) ซึ่งจะต้องติดตามราคาและภาวะเป็นประจำทุกวัน จากเดิมที่อยู่ในบัญชีสินค้าติดตามสถานการณ์สัปดาห์ละ 2 ครั้ง (PWL) ในเดือนมี.ค. เนื่องจากที่ผ่านมาโรงบรรจุก๊าซหุงต้ม และผู้ค้าก๊าซหุงต้ม ได้ยื่นหนังสือขอปรับขึ้นราคาค่าขนส่งต่อถังเพิ่มขึ้นอีก 5-7 บาท ซึ่งกรมฯ เห็นว่า ยังไม่มีความจำเป็น ที่ต้องปรับขึ้นราคา นอกจากนี้ ยังได้เลื่อนเครื่องแบบนักเรียนและรองเท้านักเรียนขึ้นมาอยู่บัญชี PWL จากเดิมที่อยู่บัญชีติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดเป็นรายปักษ์ (WL) เนื่องจากเดือนเม.ย. โรงเรียนใกล้เปิดภาคเรียน
นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงการดูแลราคาสินค้าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะมาถึงเร็วๆ นี้ว่า กรมฯ ได้เตรียมความพร้อมในการดูแลราคาสินค้า เพื่อป้องกันไม่ให้พ่อค้าแม่ค้าฉวยโอกาสขายสินค้าเกินราคาแบบไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภค เพราะในช่วงก่อนถึงวันเทศกาลสงกรานต์ จะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาในต่างจังหวัดเป็นจำนวนมาก จึงได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบราคาและการปิดป้ายราคาสินค้าตามพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณสถานีขนส่ง สถานีรถไฟ พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์ฮอตไลน์แม่บ้าน 1569 เช่น ที่สถานีขนส่งหมอชิต สถานีหัวลำโพง รองรับการร้องเรียนจากประชาชนไว้ด้วย
"ในช่วงเทศกาลต่างๆ มักจะมีผู้ประกอบการที่ฉวยโอกาสขายสินค้าแบบไม่เป็นธรรม อย่างช่วงสงกรานต์ปีที่แล้ว กรมฯ ก็สามารถดำเนินคดีกับผู้ประกอบเหล่านี้เป็นจำนวนมาก ดังนั้น จึงอยากเตือนบรรดาผู้ประกอบการอย่าฉวยโอกาสเป็นอันขาด เพราะจะถูกดำเนินคดีทางกฎหมายขั้นเด็ดขาด"
ทั้งนี้ หากตรวจสอบพบพ่อค้าและแม่ค้าฉวยโอกาสขายสินค้าราคาไม่เป็นธรรม มีโทษปรับ 1.4 แสนบาท จำคุก 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากไม่ปิดป้ายราคาสินค้ามีโทษปรับ 1 หมื่นบาท
รายงานข่าวแจ้งว่า การตรวจสอบราคาสินค้าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่สถานที่ที่มักพบปัญหา คือ สถานนีขนส่งหมอชิต โดยพบว่าเกิดกรณีการปิดป้ายแสดงราคาสินค้าไม่ตรงกับราคาขายจริงมาก เช่น ปิดป้าย ราคา15 บาท แต่ขายจริง 20 บาท ซึ่งก็ได้ลงโทษไปแล้ว และหากปีนี้ มีการตรวจสอบพบก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด
โดยพบว่าสถานีขนส่งหมอชิต จะมีปัญหาเรื่องราคาสินค้า มากกว่าสถานีหัวลำโพง เนื่องจากสถานีขนส่ง หมอชิต มีร้านค้าจำนวนไม่มาก ทำให้มีการแข่งขันไม่สูง ขณะที่สถานีรถไฟหัวลำโพง มีร้านค้าจำนวนมาก และมีร้านค้าบริเวณโดยรอบสถานี ทำให้มีการแข่งขันสูง หากขายราคาแพงมาก ประชาชนก็จะออกไปซื้อข้างนอก
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ในเดือนเม.ย.2549 กรมการค้าภายในได้จัดทำบัญชีสินค้าที่ต้องติดตามดูแล โดยได้เลื่อนรายการแก๊สหุงต้มเข้ามาอยู่บัญชีสินค้าที่มีความอ่อนไหวเป็นพิเศษ (SL) ซึ่งจะต้องติดตามราคาและภาวะเป็นประจำทุกวัน จากเดิมที่อยู่ในบัญชีสินค้าติดตามสถานการณ์สัปดาห์ละ 2 ครั้ง (PWL) ในเดือนมี.ค. เนื่องจากที่ผ่านมาโรงบรรจุก๊าซหุงต้ม และผู้ค้าก๊าซหุงต้ม ได้ยื่นหนังสือขอปรับขึ้นราคาค่าขนส่งต่อถังเพิ่มขึ้นอีก 5-7 บาท ซึ่งกรมฯ เห็นว่า ยังไม่มีความจำเป็น ที่ต้องปรับขึ้นราคา นอกจากนี้ ยังได้เลื่อนเครื่องแบบนักเรียนและรองเท้านักเรียนขึ้นมาอยู่บัญชี PWL จากเดิมที่อยู่บัญชีติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดเป็นรายปักษ์ (WL) เนื่องจากเดือนเม.ย. โรงเรียนใกล้เปิดภาคเรียน