ตลาดยาสีฟันปีนี้แข่งดุเมินสงครามราคาเน้นวัดกันที่นวัตกรรมใหม่และกิจกรรมทางการตลาด คอลเกตไม่หยุดนิ่งตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดเดินหน้าอัดกิจกรรมต่อเนื่องทั้งปี ล่าสุดทุ่มงบ 60 ล้านบาทผุดแคมเปญใหญ่ในรอบ 10 ปี หวังขยายฐานลูกค้าใหม่และรักษาลูกค้าเก่ากลุ่มครอบครัวที่ใช้คอลเกตกล่องแดงทั้ง 3 รสชาติ คาดสิ้นปียอดขายเพิ่มและดันตลาดรวมโต 3-4% จากตลาดรวม 5,000 ล้านบาท
นายมูกูล ดิออรัส ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท คอลเกต-ปาล์มโอลีฟ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มการแข่งขันของตลาดยาสีฟันในปัจจุบันจะเน้นแข่งที่นวัตกรรมใหม่และเน้นกลุ่มผู้โภคที่ชัดเจน รวมถึงกิจกรรมทางการตลาด โดยที่ไม่สนเล่นเรื่องสงครามราคาอย่างที่ผ่านมาแล้ว ฯลฯ ดังนั้นปีนี้บริษัทฯจึงมีแผนจัดกิจกรรมทางการตลาดให้กับผลิตภัณฑ์คอลเกตอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดบริษัทฯทุ่มงบประมาณกว่า 60 ล้านบาทในการจัดแคมเปญ “คอลเกต แจกบ้านในฝันให้ครอบครัวฟันแข็งแรง” เป็นระยะเวลา 3 เดือน (เม.ย.-ก.ค.) ซึ่งถือเป็นแคมเปญใหญ่ที่สุดในรอบ 10 ปีที่จัดขึ้นเพื่อตอบแทนลูกค้าของคอลเกตกล่องแดงที่อยู่คู่คนไทยมานานกว่า 48 ปี รวมถึงยังเป็นการฉลองครบรอบ 200 ปีของคอลเกตทั่วโลกอีกด้วย
แคมเปญนี้คาดว่าจะช่วยเพิ่มฐานลูกค้าให้กับคอลเกตมากขึ้น รวมถึงรักษาฐานลูกค้าเก่าอย่างกลุ่มครอบครัวได้อย่างเหนียวแน่น โดยคอลเกตกล่องแดงที่ร่วมแคมเปญนี้มีด้วยกัน 3 รส ได้แก่ รสยอดนิยม รสสดชื่นเย็นซ่า และริ้วใสเย็นสดชื่น ทั้งนี้คาดว่าลูกค้าคอลเกตกล่องแดงจะส่งชิ้นส่วนเข้าร่วมแคมเปญกว่า 1,000,000 ชิ้นเพื่อชิงรางวัล “บ้านในฝัน” จำนวน 2 หลัง มูลค่าหลังละ 3.7 ล้านบาท รวมทั้งรางวัลอื่นรวมกว่า 8 ล้านบาท
“คอลเกตเป็นลีดเดอร์ในตลาดยาสีฟัน ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 32% จากมูลค่าตลาด 5,000 ล้านบาท เราจึงต้องพยายามหาสิ่งใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้า ซึ่งปีนี้บริษัทฯเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ยาสีฟันที่นวัตกรรมใหม่อย่างต่อเนื่อง หลังจากปีที่ผ่านมาได้เปิดตัวคอลเกต เฮอร์เบิ้ล ซอลท์ไปเมื่อช่วงต้นปี ส่งผลให้ยอดขายโต 6% ,คอลเกต โททอล 12 และคอลเกต แมกซ์เฟรช ที่เปิดตัวไปเมื่อสิงหาคมปีที่แล้ว โดยมีทาทา ยังเป็นพรีเซ็นเตอร์ ซึ่งตัวนี้ได้รับการตอบรับดีจากผู้บริโภค ส่งผลให้มีแชร์ 5% ของตลาดรวมยาสีฟัน”
นายดิออรัส กล่าวด้วยว่า เรื่องการเมืองและภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวนั้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมธุรกิจมากนัก เพราะพฤติกรรมคนยังต้องแปรงฟันอยู่ โดยคนนิยมแปรงฟันมากขึ้นหรือประมาณวันละ 3 ครั้ง ซึ่งตรงนี้คอลเกตพยายามส่งเสริมและทำอยู่ในการเพิ่มความถี่การแปรงฟันให้มีมากขึ้น ทั้งนี้ยาสีฟันคอลเกตไซส์เล็กจะเน้นเจาะคนต่างจังหวัด และขายผ่านในเทรดดิชั่นแนลและโชวห่วยเป็นหลัก ส่วนแพกประหยัดจะขายผ่านโมเดิร์นเทรด ส่วนสินค้าแพกคู่ขณะนี้ไม่มีขายแล้ว เนื่องจากคอลเกตไม่สนเล่นเรื่องราคาและตัวแบรนด์เองก็มีความแข็งแกร่งแล้ว
สำหรับยอดรายได้ของคอลเกตคิดเป็นสัดส่วน 40% ของยอดรายได้รวมบริษัทฯ โดยปีนี้คาดว่ายอดขายจะโตเป็นตัวเลข 2 หลัก โดยคอลเกตกล่องแดงมียอดขายมากสุด คิดเป็นสัดส่วน 60% รองมาเป็นคอลเกต เฮอร์เบิ้ล 20% และที่เหลือเป็นคอลเกต โททอล 12, แม็ก เฟรช เป็นต้น
ขณะที่ภาพรวมตลาดยาสีฟันปีที่แล้วมีอัตราการเติบโตขึ้น 5% จากปี 2547 จากการที่ตลาดมีความเคลื่อนไหวทั้งในแง่ผลิตภัณฑ์ใหม่และแคมเปญเพื่อผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้คาดว่าตลาดรวมจะโตขึ้น 3-4% จากนวัตกรรมใหม่และการจัดกิจกรรมทางการตลาด