xs
xsm
sm
md
lg

“ฟิลลิป เอเบอเล่”ภารกิจปั้นเนสท์เล่ไอศกรีมสู่ที่หนึ่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หลังจากที่นาย ฟิลลิป เอเบอเล่ เข้ามานั่งตำแหน่ง ผู้อำนวยการบริหาร เนสท์เล่ไอศกรีม ประเทศไทย ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้บริหารเบอร์หนึ่งของเนสท์เล่ไอศกรีมในไทยนั้น ตั้งแต่วันที่1 ธันวาคม 2547 ดูเหมือนว่า ไอศกรีมเนสท์เล่มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจอย่างมาก ไม่แพ้กับผู้บริหารเบอร์หนึ่งคนก่อนแม้แต่น้อยเลย

อาจจะเป็นไปได้ว่า ตัวของ ฟิลลิป เองนั้นคลุกคลีตีโมงกับธุรกิจไอศกรีมมาอย่างช่ำชอง และที่สำคัญร่วมงานกับแบรนด์เนสท์เล่นี้มานานมาก กระทั่งรู้ตื้นลึกหนาบางดีว่าควรจะเดินเกมการตลาดอย่างไร โดยเฉพาะในตลาดประเทศไทย ที่การแข่งขันค่อนข้างรุนแรง แม้ว่าจะมีผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดไม่กี่รายเท่านั้น

จะว่าไปแล้วก็คือ เนสท์เล่ กับ วอลล์ ที่ขับเคี่ยวกันมาตลอด ปล่อยให้รายอื่นๆเป็นเพียงมวยรองบ่อน
หากย้อนดูถึงเส้นทางการทำงานและการบริหารของฟิลลิป ก็จะรู้ว่า เขาคนนี้ ไม่ใช่ย่อยๆเลย
ฟิลลิป เอเบอเล่ ร่วมงานกับเนสท์เล่มาเป็นเวลานาน โดยตำแหน่งแรกที่รับผิดชอบคือตัวแทนฝ่ายขายของเนสท์เล่ในประเทศสเปน เมื่อปี 2535-2537 หลังจากนั้นก็ได้ย้ายมาดูแลรับผิดชอบด้านการวางแผนสื่อโฆษณาจนถึงปี 2538 และได้รับการเลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นผู้จัดการผลิตภัณฑ์ไอศกรีมของเนสท์เล่ในประเทศอียิปต์ เป็นเวลานานถึง 4 ปี ตั้งแต่ปี 2538-ปลายปี 2541

ก่อนหน้าที่จะย้ายมาทำงานในไทย ได้ทำงานที่สำนักงานเนสท์เล่ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นเวลา 2 ปีในตำแหน่งผู้จัดการอาวุโสผลิตภัณฑ์ไอศกรีม และเมื่อเข้ามาทำงานที่ประเทศไทยก็มาดูแลทางด้านไอศกรีมเช่นเดิม โดยช่วงระยะเวลา 3 ปีก่อนหน้าที่จะขึ้นผู้บริหารอันดับหนึ่งนั้น เขามีบทบาทสำคัญเหมือนกันในการผลักดันอัตราการเติบโตของเนสท์เล่ไอศกรีมประเทศไทย ในตำแหน่งรองผู้อำนวยการตลาดและขายตรง ซึ่งดูแลรับผิดชอบการบริหารและกำหนดกลยุทธ์ด้านการตลาดผลิตภัณฑ์ไอศกรีมและกิจกรรมส่งเสริมการขายต่อผู้บริโภคในประเทศไทย

อดีตที่ผ่านมายังคงไม่ยากเท่ากับอนาคตที่จะต้องก้าวจากนี้ไปของเนสท์เล่ไอศกรีมภายใต้การกุมบังเหียนของเขา เพราะไหนจะต้องมาเจอกับค่ายวอลล์คู่แข่งที่ใหญ่ไม่น้อยเลย แต่เขาเชื่อมั่นว่าตลาดไอศกรีมในไทยยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากปริมาณการบริโภคของคนไทยยังน้อยมากเมื่อเทียบกับต่างประเทศ

ทั้งคู่ก็พยายามห้ำหั่นกันแย่งแชร์ให้มากที่สุด มีการเกทับกันในบางครั้ง โดยเฉพาะในเรื่องของส่วนแบ่งตลาด ทั้งยอดขายรวม หรือส่วนแบ่งในช่องทางอื่นๆ เช่น ตู้แช่ ช่องทางมินิมาร์ทในปั๊มน้ำมัน หรือช่องทางในเซเว่นอีเลฟเว่น เป็นต้น ซึ่งตรงนี้ก็ต้องแล้วแต่ตัวเลขและเหตุผลของแต่ละค่ายที่งัดออกมาอ้างอิงกัน โดยที่ผู้บริโภคเป็นคนตัดสินเอง

ปีนี้จะเป็นอีกปีหนึ่งที่เขาต้องแสดงฝีมืออย่างมาก กับเป้าหมายอย่างหนึ่งที่จะผลักดันเนสท์เล่ขึ้นเป็นแชมป์ในเซ็กเมนท์ไอศกรีมโคนให้ได้ในปีนี้ กับตัวเองที่เรียกว่า ไอศกรีม โคน เอ็กซ์ตรีม โหลด
งบประมาณที่จะอัดเข้าไปกับตัวนี้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาททั้งปี การขยายช่องทางจำหน่ายใหม่และเก่าๆให้เพิ่มขึ้น เช่น รถสามล้อเนสท์เล่ที่มีมากกว่า 5,000 คัน ร้านแฟมิลี่มาร์ท เทสโก้โลตัส ร้านบล็อคบัสเตอร์ และที่อยู่ระหว่างเจรจาคือ ร้าน 108 ชอปเพื่อผลักดันให้ยอดขายของกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า หรือสู่ยอดขาย 60 ล้านยูนิตในสิ้นปีนี้ให้ได้

นี่เป็นเพียงแผนหนึ่งของสินค้ากลุ่มเดียวเท่านั้น ยังมีภาระที่มากกว่านี้กับการขับเคลื่อนไอศกรีมเนสท์เล่เพื่อเข้ายึดหัวหาดแชมป์ให้ได้ทั้งหมดในตลาดรวม ต้องจับตาดูต่อไปว่า ฟิลลิป เอเบอเล่ เขาจะทำได้หรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น