ตลาดของเล่นหันสู่เทรนด์ ผสานเทคโนโลยี ดรีมทอย ปรับทิศ ตามกระแส เน้นนำเข้าสินค้าเทคโนโลยี หวังให้เด็กสนุกสนานแบบมีสาระ เล็งปรับกลุ่มเป้าหมายเน้น อายุ 3-10 ปีแทน จากเดิมถึงอายุ 15 ปี เหตุเด็กโตสนใจเกมส์คอมพิวเตอร์มากขึ้น ทุ่มงบ 10 ล้านบาททำตลาดของเล่นใหม่ 3 คาแรคเตอร์
นายวีระรัตน์ กิจเลิศไพโรจน์ ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ดรีม ทอย จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายของเล่นแบรนด์ “บันได” เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานของบริษัทฯในปีนี้ว่า แนวทางรุกตลาดจะเน้นไปที่การนำเข้าของเล่นที่มีเทคโนยีสมัยใหม่เป็นหลักเข้ามาทำตลาดในประเทศ เพื่อตอบรับกับกระแสของตลาดที่ให้ความสำคัญกับการเล่นของเล่นที่เสริมทักษะมากขึ้น
“เนื่องจากเทรนด์ของการแข่งขันตลาดของเล่นในไทยจากนี้ ทุกค่ายพยายามที่จะหันมาเน้นการแข่งขันด้านเทคโนโลยีกันมากขึ้น เพราะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเด็กนี้ล้วนแต่เป็นเด็กรุ่นใหม่ที่มีความสนใจในเรื่องเทคโนโลยีมากขึ้น ซึ่งการเลือกของเล่นนั้นก็จะเลือกที่มีเทคโนโลยีที่เข้ามาเสริมเพื่อให้การเล่นมีความสนุกสนานมากยิ่งขึ้น เป็นไปตามกระแสของความต้องการของตลาดด้วย”
เขากล่าวว่า กระแสดังกล่าวคาดว่าจะส่งผลต่อตลาดรวมของเล่นในปีนี้คงจะมีความคึกคักและเติบโตอย่างมาก อันเป็นผลเนื่องมาจากส่วนหนึ่งของกระแสของเล่นที่มีเทคโนโลยีเริ่มบูมมากขึ้น แม้ว่าจะมีปัญหาทางด้านการเมืองและปัญหาทางด้านเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงก้ตาม ซึ่งคาดว่าปีนี้ตลาดรวมจะเติบโตได้ 20% จากมูลค่าตลาด 4,000 ล้านบาท ขณะที่ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาตลาดรวมทรงตัวมาตลอด โดยตลาดของเล่นในระดับกลางลงล่างยังคงเป็นตลาดใหญ่มากกว่า 70% ของทั้งหมด และที่เหลือ 30% เป็นเซ็กเมนท์บน
นอกจากการเน้นของเล่นที่มีเทคโนโลยีมากขึ้นแล้ว บริษัทฯยังได้ปรับเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายของบริษัทฯด้วย โดยจากเดิมที่เน้นกลุ่มเป้าหมายเด็กอายุ 3-15 ปี มาเป็นกลุ่มอายุ 3-10 ปีเป็นหลัก ด้วยเหตุผลที่ว่า เด็กกลุ่มอายุ 11-15 ปีนั้นมักจะหันไปให้ความสนใจและนิยมเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์มกาขึ้น ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เห็นได้ชัดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาแล้ว ดังนั้น บริษัทฯจึงลดความสำคัญกับกลุ่มนี้ แล้วหันมาทำตลาดกับกลุ่มเด็กอายุ 3-10 ปีมากขึ้น เพราะกลุ่มนี้ชอบเล่นของเล่น ที่มีเทคโนโลยีมากขึ้นแล้ว
ล่าสุด บริษัทฯเตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ที่อยู่ในกลุ่มคาร์แรคเตอร์จำนวน 3 กลุ่มคือ คาร์แรคเตอร์พริตตี้เคียว, พาวเวอร์เรนเจอร์ และ มาสไรเดอร์ คาดว่าจะได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายแน่นอน โดยการทำตลาดของเล่นใหม่นี้ ได้ตั้งงบประมาณการตลาดไว้ที่ 10 ล้านบาท เพื่อทำตลาดเต็มที่ในทุกรูปแบบ เช่น การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การทำโรดโชว์ในสถานที่ต่างๆ และการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ ล่าสุดได้เข้าร่วมงาน Bangkok International Toys Show 2006 ที่สยามพารากอน วันที่ 31 มีนาคม - 10 เมษายนนี้ บริษัทฯคาดว่าจะสามารถทำยอดขายได้ 1.5-2 ล้านบาท และกระตุ้นยอดรายได้รวมทั้งปีเติบโตไม่ต่ำกว่า 30%
นายวีระรัตน์ กิจเลิศไพโรจน์ ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ดรีม ทอย จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายของเล่นแบรนด์ “บันได” เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานของบริษัทฯในปีนี้ว่า แนวทางรุกตลาดจะเน้นไปที่การนำเข้าของเล่นที่มีเทคโนยีสมัยใหม่เป็นหลักเข้ามาทำตลาดในประเทศ เพื่อตอบรับกับกระแสของตลาดที่ให้ความสำคัญกับการเล่นของเล่นที่เสริมทักษะมากขึ้น
“เนื่องจากเทรนด์ของการแข่งขันตลาดของเล่นในไทยจากนี้ ทุกค่ายพยายามที่จะหันมาเน้นการแข่งขันด้านเทคโนโลยีกันมากขึ้น เพราะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเด็กนี้ล้วนแต่เป็นเด็กรุ่นใหม่ที่มีความสนใจในเรื่องเทคโนโลยีมากขึ้น ซึ่งการเลือกของเล่นนั้นก็จะเลือกที่มีเทคโนโลยีที่เข้ามาเสริมเพื่อให้การเล่นมีความสนุกสนานมากยิ่งขึ้น เป็นไปตามกระแสของความต้องการของตลาดด้วย”
เขากล่าวว่า กระแสดังกล่าวคาดว่าจะส่งผลต่อตลาดรวมของเล่นในปีนี้คงจะมีความคึกคักและเติบโตอย่างมาก อันเป็นผลเนื่องมาจากส่วนหนึ่งของกระแสของเล่นที่มีเทคโนโลยีเริ่มบูมมากขึ้น แม้ว่าจะมีปัญหาทางด้านการเมืองและปัญหาทางด้านเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงก้ตาม ซึ่งคาดว่าปีนี้ตลาดรวมจะเติบโตได้ 20% จากมูลค่าตลาด 4,000 ล้านบาท ขณะที่ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาตลาดรวมทรงตัวมาตลอด โดยตลาดของเล่นในระดับกลางลงล่างยังคงเป็นตลาดใหญ่มากกว่า 70% ของทั้งหมด และที่เหลือ 30% เป็นเซ็กเมนท์บน
นอกจากการเน้นของเล่นที่มีเทคโนโลยีมากขึ้นแล้ว บริษัทฯยังได้ปรับเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายของบริษัทฯด้วย โดยจากเดิมที่เน้นกลุ่มเป้าหมายเด็กอายุ 3-15 ปี มาเป็นกลุ่มอายุ 3-10 ปีเป็นหลัก ด้วยเหตุผลที่ว่า เด็กกลุ่มอายุ 11-15 ปีนั้นมักจะหันไปให้ความสนใจและนิยมเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์มกาขึ้น ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เห็นได้ชัดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาแล้ว ดังนั้น บริษัทฯจึงลดความสำคัญกับกลุ่มนี้ แล้วหันมาทำตลาดกับกลุ่มเด็กอายุ 3-10 ปีมากขึ้น เพราะกลุ่มนี้ชอบเล่นของเล่น ที่มีเทคโนโลยีมากขึ้นแล้ว
ล่าสุด บริษัทฯเตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ที่อยู่ในกลุ่มคาร์แรคเตอร์จำนวน 3 กลุ่มคือ คาร์แรคเตอร์พริตตี้เคียว, พาวเวอร์เรนเจอร์ และ มาสไรเดอร์ คาดว่าจะได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายแน่นอน โดยการทำตลาดของเล่นใหม่นี้ ได้ตั้งงบประมาณการตลาดไว้ที่ 10 ล้านบาท เพื่อทำตลาดเต็มที่ในทุกรูปแบบ เช่น การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การทำโรดโชว์ในสถานที่ต่างๆ และการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ ล่าสุดได้เข้าร่วมงาน Bangkok International Toys Show 2006 ที่สยามพารากอน วันที่ 31 มีนาคม - 10 เมษายนนี้ บริษัทฯคาดว่าจะสามารถทำยอดขายได้ 1.5-2 ล้านบาท และกระตุ้นยอดรายได้รวมทั้งปีเติบโตไม่ต่ำกว่า 30%