xs
xsm
sm
md
lg

โรงงานน้ำตาลยันไม่เคยเรียกเงินใต้โต๊ะจากยี่ปั๊ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กลุ่มวังขนายคาดสถานการณ์น้ำตาลทรายขาดแคลนและราคาแพงจะหมดไปในเดือนหน้า พร้อมปฏิเสธการเรียกเก็บเงินใต้โต๊ะจากยี่ปั๊ว เพราะโรงงานน้ำตาลทรายถูกควบคุมจากหลายกระทรวง

นายบุญญฤทธิ์ ณ วังขนาย
ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มวังขนาย คาดว่า สถานการณ์น้ำตาลทรายขาดแคลนและราคาแพงเกินราคาควบคุมน่าจะหมดไปได้ภายในเดือนเมษายนนี้ โดยแม้ว่าคณะรัฐมนตรีจะปรับขึ้นราคาน้ำตาลทราย 3 บาทต่อ กก. แต่ที่ยังขาดแคลน เนื่องจากเป็นสถานการณ์ช่วงการปรับตัวกลับมาสู่ภาวะปกติ โดยขอปฏิเสธข่าวเรื่องที่มีการเรียกเก็บเงินใต้โต๊ะจากยี่ปั๊วในราคา 2 บาทต่อ กก. ซึ่งกลุ่มวังขนายไม่เคยมีพฤติกรรมดังกล่าวแต่อย่างใด โดยกลุ่มวังขนายมียี่ปั๊ว 6 รายซื้อขายกันมานานกว่า 20 ปี มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ในขณะที่การซื้อขายน้ำตาลหรือการขึ้นงวดจากโรงงานน้ำตาลทรายแต่ละสัปดาห์ยังคงอยู่ในภาวะปกติ โดยมีรวมทั้งระบบประมาณ 400,000 กระสอบต่อสัปดาห์ และการเรียกเก็บเงินใต้โต๊ะเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก เนื่องจากโรงงานน้ำตาลทรายถูกควบคุมโดยระบบของราชการหลายกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ หรือกระทรวงการคลังที่เข้ามาตรวจสอบภาษีใบขนย้ายต้องมีความชัดเจนรวมทั้งใบกำกับภาษีต่าง ๆ จึงไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะมีการเรียกเก็บเงิน

“3 สมาคมโรงงานหารือร่วมกันวานนี้ และเห็นว่าปัญหาที่โรงงานถูกโจมตีทุกครั้งว่ากักตุนน้ำตาลคงเกิดมาจากการชี้แจงที่ไม่ชัดเจนของบรรดาโรงงาน ซึ่งต่อไปนี้คงต้องทำความเข้าใจมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเป็นการเตรียมข้อมูลชี้แจงต่อนายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่จะมีการประชุมในวันพรุ่งนี้ แต่ได้เลื่อนให้มีการชี้แจงในวันจันทร์ที่ 20 มีนาคม เนื่องจากทางกลุ่มโรงงานและชาวไร่อ้อยบางส่วนต้องการรอพบนายกรัฐมนตรีที่จะเดินทางไปจังหวัดกาญจนบุรีในวันพรุ่งนี้” นายบุญญฤทธิ์ กล่าว

นายบุญญฤทธิ์ กล่าวด้วยว่า ประเด็นปัญหาที่เกิดการขาดแคลนน้ำตาลทรายในระบบเนื่องจากราคาตลาดโลกได้มีการปรับตัวสูงขึ้น แต่ราคาน้ำตาลทรายในประเทศมีการลักลอบนำน้ำตาลทรายโควตา ก. หรือจำหน่ายในประเทศไปจำหน่ายให้แก่ประเทศเพื่อนบ้าน และยังเกิดจากบรรดาโรงงานผู้ผลิตอาหารเพื่อการส่งออกที่เดิมมีการใช้โควตาน้ำตาลเพื่อการส่งออก หรือโควตา ค. ประมาณ 300,000 ตันต่อปี หันมาใช้น้ำตาลทราย โควตา ก.แทน เพราะราคาถูกกว่า ซึ่งเรื่องนี้เป็นตลาดเสรีคงไม่สามารถไปดำเนินการอะไรกับโรงงานส่งออกได้ อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ได้มีการเพิ่มโควตา ก. จาก 1.8 ล้านตัน เป็น 2 ล้านตัน ก็คาดว่าคงจะพอรองรับกับความต้องการของโรงงานเพื่อการส่งออกได้ ในขณะเดียวกันจากที่มีกระแสข่าวจะมีการปรับราคาน้ำตาลทรายตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2548 เป็นต้นมา ทำให้ประชาชนเกิดความตระหนกมีการกักตุนจำนวนมาก ซึ่งในขณะนี้ทุกฝ่ายกักตุนเต็มความต้องการแล้ว ก็คาดว่าปัญหาจะคลี่คลายในเร็ว ๆ นี้

ทั้งนี้ นายบุญญฤทธิ์ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดแถลงข่าวเรื่องการจัดทำภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ ซึ่งจะเน้นเรื่องการสร้างความแตกต่างความแข็งแกร่งให้แก่แบรนด์วังขนาย โดยเน้นให้เป็นน้ำตาลทรายเพื่อสุขภาพ โดยตั้งเป้าหมายว่าใน 2-3 ปีข้างหน้าน้ำตาลทรายของกลุ่มวังขนายจะผลิตจากไร่อ้อยที่ปราศจากสารเคมีทั้งระบบ หรือเป็นระบบออแกนิก รวมทั้งจะมีการนำผลิตภัณฑ์น้ำตาลทรายเพื่อสุขภาพมาจำหน่ายมากขึ้นในตลาด โดยปี 2547/2548 วังขนายมีรายได้ประมาณ 7,000 ล้านบาท จากราคาน้ำตาลทรายเฉลี่ย 6-7 เซนต์ต่อปอนด์ ขณะที่ปี 2548/2549 คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากปริมาณกำลังการผลิตเท่าเดิมแต่ราคาเฉลี่ยต่อปอนด์ขณะนี้สูงถึง 13 เซนต์ต่อปอนด์ ส่วนความคืบหน้าโครงการผลิตเอทานอลจำนวน 2 โรงงาน ทางกลุ่มวังขนายกำลังรอความชัดเจนเรื่องใบอนุญาตส่งออกเอทานอล เนื่องจากเห็นว่าการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเพียงอย่างเดียวให้ผลตอบแทนที่ไม่คุ้มค่า ในขณะที่การลงทุนในต่างประเทศทั้งจีนและลาวกลุ่มวังขนายอยู่ระหว่างการทบทวน
กำลังโหลดความคิดเห็น