เซ็นทรัลฯตั้งเป้าสาขาชิดลมสิ้นปีโต 10% เฝ้าดูปัจจัยทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมือง เชื่อทุกอย่างจะจบลงด้วยดี ล่าสุดจับมือพันธมิตรของเล่นกว่า 20 แบรนด์เอาใจเด็กๆช่วงปิดเทอม จัดงานมหกรรมของเล่นและเกมตลอด 18 วัน คาดยอดรายได้ในงานนี้กว่า 20 ล้านบาทและตั้งเป้ายอดรายได้แผนกของเล่นปีนี้โต 20%
นางสาวปิยวรรณ ลีละสมภพ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมของเซ็นทรัล ชิดลมปีนี้คาดการณ์ว่าจะโต 10% โดยต้องรอดูปัจจัยหลายอย่าง อาทิ สภาพเศรษฐกิจและความไม่แน่นอนทางการเมือง ที่ส่งผลให้นักลงทุนชะลอการลงทุนไปบ้างและอาจจะกระทบในแง่จิตใจคน แต่เชื่อว่าทุกอย่างจะไม่ยืดเยื้อและจะจบลงด้วยดี ส่วนกำลังซื้อของผู้บริโภคของเซ็นทรัลฯไม่ได้รับผลกระทบ เพราะลูกค้ามีรอยัลตี้สูง
ล่าสุดเซ็นทรัลฯได้จับมือกับพันธมิตรผู้ผลิตและตัวแทนจำหน่ายของเล่นชั้นนำกว่า 20 แบรนด์จัดงาน“เซ็นทรัล ทอยส์ แอนด์ เกมส์ แฟร์ 2006” ที่เซ็นทรัล ชิดลม ในวันที่ 23 มีนาคม ถึง 9 เมษายน 2549 รวมทั้งหมด 18 วัน ซึ่งงานครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งแรกที่ได้นำเอาของเล่นและเกมมาไว้ในงานเดียวกัน โดยจุดประสงค์ในการจัดงานต้องการให้เด็กใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ในช่วงปิดภาคเรียนนี้ ซึ่งของเล่นและเกมก็ช่วยส่งเสริมและพัฒนาทักษะของเด็กได้ อีกทั้งยังช่วยให้เด็กมีสมาธิและมีความรู้อีกด้วย
การจัดงานแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ โซนเกม, ของเล่นเพื่อการศึกษา และของเล่นสำหรับเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชาย โดยภายในงานจะมีของเล่นเข้าร่วมกว่า 1,000 รายการ โดยไฮไลท์เด่นของงาน อาทิ บริษัทดีทแฮล์ม จำกัด ตัวแทนจำหน่ายเลโก้นำเอามาสเตอร์พีซสตาร์วอร์ “Death Star II” ซึ่งเป็นโมเดลของเลโก้ที่มีชิ้นส่วนมากที่สุดถึง 3,413 ชิ้น มีเพียง 10 ชิ้นเท่านั้น ราคาประมาณ 28,000 บาท , เปิดตัวตุ๊กตาบาร์บี้จิ๋วขนาด 5.5 นิ้ว จากปกติขนาด 12 นิ้ว และดรีมทอยส์ผู้แทนจำหน่ายบันไดนำมาร์สไรเดอร์ คาบูโตะมาเปิดตัวพร้อมกับที่ญี่ปุ่น เป็นต้น
นอกจากนี้ทางสมาคมอุตสาหกรรมของเล่นไทยยังได้นำของเล่นที่ได้รับรางวัลกู้ดส์ ทอยส์ อวอร์ดมาร่วมโชว์ในงานนี้อีกด้วย จากนั้นทางผู้ผลิตและตัวแทนจำหน่ายของเล่นยังได้รวบรวมของเล่นที่มีประโยชน์นำไปมอบให้เด็กๆได้ศึกาหาความรู้ที่สำนักงานอุทยานการเรียนรู้หรือทีเค ปาร์คต่อไป
ทั้งนี้เซ็นทรัลฯคาดหวังในส่วนของยอดรายได้ในงานนี้จะมีประมาณ 20 ล้านบาท โดยสัดส่วนยอดรายได้ในแผนกของเล่นปีนี้คาดว่าจะโตเหมือนปีที่แล้วที่ 20%