นักท่องเที่ยวตอบรับดี เจ้าของบุราส่าหรีภูเก็ต ควักอีก 12 ล้าน ขยายเพิ่มห้องพักเซียงไฮ้อินน์ เยาวราชเพิ่มอีก 20 ห้อง หลังซอฟลอนจ์เดือนแรกลูกค้าตรึม คุยไร้คู่แข่งขันเพราะคอนเซปต์ตกแต่งที่แตกต่าง เผยกล้าลงทุนเพราะสบโอกาส รัฐบาลเร่งโปรโมต เยาวราชขึ้นเป็นไชน่าทาวน์เอเชีย
นางสาวลิลลี่ อุดมคุณธรรม กรรมการผู้จัดการ โรงแรมเซียงไฮ้ อินน์ (หอมหมื่นลี้) เจ้าของโรงแรม บุราส่าหลี ภูเก็ต เปิดเผยว่า ได้เตรียมลงทุนอีก 12 ล้านบาท เพื่อสร้างห้องพักในโรงแรมเซียงไฮ้อินน์ เพิ่มอีก 20 ห้อง โดยจะใช้พื้นที่ชั้น 6 ของอาคารเซียงไฮ้อินน์(หอมหมื่นลี้) ซึ่งยังว่างอยู่มาปรับปรุงเป็นห้องพัก นอกจากนั้นยังแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งสำหรับทำห้องโยคะ เพื่อให้บริการแก่แขกผู้มาพัก โดยจะเริ่มดำเนินการในเดือนกรกฎาคม 49 และพร้อมเปิดให้บริการได้ในเดือน พฤศจิกายน 49
ทั้งนี้ปัจจุบันโรงแรมเซียงไฮ้อินน์ ได้เริ่มเปิดให้บริการแก่ลูกค้ามาแล้ว 1 เดือน โดยจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 เมษายนศกนี้ ซึ่งเท่าที่เปิดให้บริการมาลูกค้าให้การตอบรับที่ดี มีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 80-85% จึงได้ตัดสินใจลงทุนปรับพื้นที่ที่ว่างอยู่บริเวณชั้น 6 ให้เป็นห้องพัก ซึ่งภายหลังการปรับปรุงเสร็จ จะทำให้เซียงไฮ้ อินน์ มีห้องพักให้บริการรวม 75 ห้อง จากขณะนี้ที่มีอยู่ 55 ห้อง โดยใช้เงินลงทุนไปแล้วกว่า 30 ล้านบาท ส่วนงบการตลาดสำหรับประชาสัมพันธ์ปีนี้ตั้งไว้ที่ 8% ของรายได้
“ กระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้าที่มาใช้บริการ น่าจะมาจากอยู่ในโลเกชั่นที่ดีย่านเยาวราช และยังสะดวกด้วยระบบขนส่งมวลชน หากต้องการเดินทางไปตลาดนัดจัตตุจักร ด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน หรือจะเดินทางไปสำเพ็ง หรือท่าน้ำราชวงษ์ ก็ใช้เวลาเพียง 8-10นาที ตรงนี้ถือว่าตรงกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย”
นางสาวลิลลี่ กล่าวว่า เซียงไฮ้ อินน์ เจาะลูกค้าระดับซีบวกถึงบีลบ แบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.นักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่มาแวะกรุงเทพฯก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดอื่นๆ ในสัดส่วน 60% , 2. กลุ่มนักธุรกิจที่ติดต่อค้าขายแบบโฮเซลเลอร์ หรือธุรกิจค้าส่ง ที่เข้ามาติดต่อค้าขายในย่านสำเพ็ง-เยาวราช สัดส่วน 30% และ 3. กลุ่มต่างชาติที่ที่อาศัยหรือทำงานอยู่ในประเทศไทย สัดส่วน 10%
สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวเราเน้นกลุ่ม FIT หรือกลุ่มที่เดินทางท่องเที่ยวเอง เพราะกลุ่มนี้พฤติกรรมการท่องเที่ยวส่วนใหญ่ จะชอบศึกษาและเรียนรู้เรื่องของวิถีชีวิตชุมชน ซึ่งเซียงไฮ้ อินน์ เราตอบโจทย์นี้ได้ ด้วยการตกแต่งสถานที่ และบริการ ที่เหมือนอยู่ใน”มหานครเซี่ยงไฮ้” นอกจากนั้นบริเวณพื้นที่ชั้น 2 และ 3 ของอาคาร ยังเป็นศูนย์รวมร้านอาหารและบริการ อาทิ ครัวเจ๊ง้อ ชาบูชาบู , ร้านอาหารญี่ปุ่น TOHKAI , DIM SUM ,ภัตตาคารเห็ดฮ่องเต้ ,ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต และ หยิน-หยาง มาสสาจ แอนด์ สปา
ทั้งนี้มองว่าในย่านเดียวกันเราไม่มีคู่แข่ง เพราะคอนเซปต์ต่างกัน ขณะที่ราคาห้องพักเฉลี่ยที่คืนละ 2,500 บาทสูงกว่าโรงแรมในย่านเดียวกันประมาณ 200-300 บาท ช่วงโปโมชั่นถึง 15 เมษายนศกนี้ ลดเหลือ 1,900 บาท โดยทำตลาดผ่านเอเยนต์ทัวร์ และเว็บไซต์ ตลาดหลักได้แก่ อังกฤษ ญี่ปุ่น และ กลุ่มประเทศยุโรป
“ความมั่นใจการลงทุนครั้งนี้ แพราะเล็งเห็นช่องว่างของตลาด ในย่านเยาวราช ที่ยังไม่มี ฮิบโฮเทล ในราคาที่เหมาะสมไว้คอยให้บริการ ขณะที่ความต้องการโรงแรมในย่านนี้เพิ่มขึ้น มีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 90% ตลอดปี ขณะที่ทั้งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ กรุงเทพมหานคร ต่างก็ผลักดันให้ ย่านเยาวราชเป็นจุดขายไชน่าทาวน์ที่ใหญ่ที่สุดในย่านเอเชีย เป็นแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรมชุมชนชาวจีน โดย 60% ของต่างชาติที่มาเมืองไทย จะต้องมาเที่ยวเยาวราช และหากมีโอกาสก็จะพักค้างคืน เพื่อชมเสน่ห์เยาวราชตอนกลางคืนด้วย” นาวสาวลิลลี่กล่าว
นางสาวลิลลี่ อุดมคุณธรรม กรรมการผู้จัดการ โรงแรมเซียงไฮ้ อินน์ (หอมหมื่นลี้) เจ้าของโรงแรม บุราส่าหลี ภูเก็ต เปิดเผยว่า ได้เตรียมลงทุนอีก 12 ล้านบาท เพื่อสร้างห้องพักในโรงแรมเซียงไฮ้อินน์ เพิ่มอีก 20 ห้อง โดยจะใช้พื้นที่ชั้น 6 ของอาคารเซียงไฮ้อินน์(หอมหมื่นลี้) ซึ่งยังว่างอยู่มาปรับปรุงเป็นห้องพัก นอกจากนั้นยังแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งสำหรับทำห้องโยคะ เพื่อให้บริการแก่แขกผู้มาพัก โดยจะเริ่มดำเนินการในเดือนกรกฎาคม 49 และพร้อมเปิดให้บริการได้ในเดือน พฤศจิกายน 49
ทั้งนี้ปัจจุบันโรงแรมเซียงไฮ้อินน์ ได้เริ่มเปิดให้บริการแก่ลูกค้ามาแล้ว 1 เดือน โดยจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 เมษายนศกนี้ ซึ่งเท่าที่เปิดให้บริการมาลูกค้าให้การตอบรับที่ดี มีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 80-85% จึงได้ตัดสินใจลงทุนปรับพื้นที่ที่ว่างอยู่บริเวณชั้น 6 ให้เป็นห้องพัก ซึ่งภายหลังการปรับปรุงเสร็จ จะทำให้เซียงไฮ้ อินน์ มีห้องพักให้บริการรวม 75 ห้อง จากขณะนี้ที่มีอยู่ 55 ห้อง โดยใช้เงินลงทุนไปแล้วกว่า 30 ล้านบาท ส่วนงบการตลาดสำหรับประชาสัมพันธ์ปีนี้ตั้งไว้ที่ 8% ของรายได้
“ กระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้าที่มาใช้บริการ น่าจะมาจากอยู่ในโลเกชั่นที่ดีย่านเยาวราช และยังสะดวกด้วยระบบขนส่งมวลชน หากต้องการเดินทางไปตลาดนัดจัตตุจักร ด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน หรือจะเดินทางไปสำเพ็ง หรือท่าน้ำราชวงษ์ ก็ใช้เวลาเพียง 8-10นาที ตรงนี้ถือว่าตรงกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย”
นางสาวลิลลี่ กล่าวว่า เซียงไฮ้ อินน์ เจาะลูกค้าระดับซีบวกถึงบีลบ แบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.นักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่มาแวะกรุงเทพฯก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดอื่นๆ ในสัดส่วน 60% , 2. กลุ่มนักธุรกิจที่ติดต่อค้าขายแบบโฮเซลเลอร์ หรือธุรกิจค้าส่ง ที่เข้ามาติดต่อค้าขายในย่านสำเพ็ง-เยาวราช สัดส่วน 30% และ 3. กลุ่มต่างชาติที่ที่อาศัยหรือทำงานอยู่ในประเทศไทย สัดส่วน 10%
สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวเราเน้นกลุ่ม FIT หรือกลุ่มที่เดินทางท่องเที่ยวเอง เพราะกลุ่มนี้พฤติกรรมการท่องเที่ยวส่วนใหญ่ จะชอบศึกษาและเรียนรู้เรื่องของวิถีชีวิตชุมชน ซึ่งเซียงไฮ้ อินน์ เราตอบโจทย์นี้ได้ ด้วยการตกแต่งสถานที่ และบริการ ที่เหมือนอยู่ใน”มหานครเซี่ยงไฮ้” นอกจากนั้นบริเวณพื้นที่ชั้น 2 และ 3 ของอาคาร ยังเป็นศูนย์รวมร้านอาหารและบริการ อาทิ ครัวเจ๊ง้อ ชาบูชาบู , ร้านอาหารญี่ปุ่น TOHKAI , DIM SUM ,ภัตตาคารเห็ดฮ่องเต้ ,ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต และ หยิน-หยาง มาสสาจ แอนด์ สปา
ทั้งนี้มองว่าในย่านเดียวกันเราไม่มีคู่แข่ง เพราะคอนเซปต์ต่างกัน ขณะที่ราคาห้องพักเฉลี่ยที่คืนละ 2,500 บาทสูงกว่าโรงแรมในย่านเดียวกันประมาณ 200-300 บาท ช่วงโปโมชั่นถึง 15 เมษายนศกนี้ ลดเหลือ 1,900 บาท โดยทำตลาดผ่านเอเยนต์ทัวร์ และเว็บไซต์ ตลาดหลักได้แก่ อังกฤษ ญี่ปุ่น และ กลุ่มประเทศยุโรป
“ความมั่นใจการลงทุนครั้งนี้ แพราะเล็งเห็นช่องว่างของตลาด ในย่านเยาวราช ที่ยังไม่มี ฮิบโฮเทล ในราคาที่เหมาะสมไว้คอยให้บริการ ขณะที่ความต้องการโรงแรมในย่านนี้เพิ่มขึ้น มีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 90% ตลอดปี ขณะที่ทั้งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ กรุงเทพมหานคร ต่างก็ผลักดันให้ ย่านเยาวราชเป็นจุดขายไชน่าทาวน์ที่ใหญ่ที่สุดในย่านเอเชีย เป็นแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรมชุมชนชาวจีน โดย 60% ของต่างชาติที่มาเมืองไทย จะต้องมาเที่ยวเยาวราช และหากมีโอกาสก็จะพักค้างคืน เพื่อชมเสน่ห์เยาวราชตอนกลางคืนด้วย” นาวสาวลิลลี่กล่าว