xs
xsm
sm
md
lg

โฆษณาเอาท์ดอร์ไทยยังอ่อน ชี้สเปเชียลเอฟเฟ็กต์ไม่เข้าตา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เผยผลงานมหกรรมโฆษณาภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 9    “เจ๊  ยูไนเต็ด” มาแรงโกยรางวัลใหญ่จากหนังโฆษณาโฟมล้างหน้าสมูทอี  ชุดซีรีย์จุ๋ม ทั้งเดอะ เบสต์ ออฟ ฟิล์มควบด้วยรางวัลโกลด์     ด้าน บีบีดีโอ กรุงเทพฯเจ๋งสื่อสิ่งพิมพ์คว้า 3 รางวัลใหญ่จากสินค้าไฟฉายแม็กไลท์      วาย แอนด์ อาร์ชี้ปีนี้บอร์ดตัดสินเด็กขึ้นทำให้มุมมองเปลี่ยนตาม     ด้าน “ตี๋ แม็ทชิ่ง” เผยงานคราฟท์ไทยส่งเข้าร่วมน้อยและไม่โดดเด่น

มหกรรมโฆษณาภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก หรือเอพีแอดเฟส  ครั้งที่ 9  ประจำปี2549  ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 9-11 มีนาคมที่ผ่านมา   ภายใต้แนวคิด “What’s Next”   ซึ่งจะบอกถึงแนวโน้มทิศทางผลงานโฆษณาว่าจะไปในทิศทางใด    โดยปีนี้มีผู้แทนจากเอเจนซีเข้าร่วมงานกว่า 400 แห่งจาก 34 เมือง  หรือกว่า 1,400  คน ซึ่งถือว่าสูงกว่าปีก่อนถึง 30%    ส่วนผลงานที่ส่งเข้าร่วมก็ไม่น้อยหน้าปีที่แล้ว  4,738   ชิ้น ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 17%     โดยปีนี้ประเทศที่ส่งผลงานเข้าประกวดมากที่สุด คือ อินเดีย มี 797 ชิ้นจาก 5เมือง   รองลงมาเป็นไทยส่งผลงานเข้าประกวด 766 ชิ้น  และอันดับ 3 เป็นสิงคโปร์

ส่วนผลงานภาพยนตร์โฆษณาของไทยที่ได้สร้างชื่อเสียงในเวทีแอดเฟสครั้งนี้  คือ  “สมูทอี เบบี้ เฟช โฟม” ชุดThe Love Story (ซี่รีย์จุ๋ม) ได้รับรางวัลภาพยนตร์โฆษณาที่ดีที่สุด (The Best of   Film) ควบด้วยรางวัลโกลด์ประเภทแคมเปญอีกหนึ่งรางวัล  โดยรางวัลโกลด์ทั้งหมดที่ได้รับคัดเลือกในปีนี้มี 6 รางวัล  ไทยกวาดมาได้ 4 รางวัล   ซึ่งอีก 3 รางวัลตกเป็นของครีเอทีฟ จูซ/จีวันในผลงานโฆษณากรุงเทพฯประกันภัย ชุดTwisterและ Tyre   รวมทั้งรางวัลประเภทแคมเปญในชุด Robbery/Tyre/Twister

อีกกลุ่มหนึ่งที่วงการโฆษณาให้ความสำคัญไม่แพ้ภาพยนตร์โฆษณา  คือ สื่อสิ่งพิมพ์หรือพริ๊น แอดที่ไทยโกยรางวัลโกลด์ 3 รางวัลจากทั้งหมด 5 รางวัล  โดยปีนี้บีบีดีโอ กรุงเทพฯ สามารถกวาด  3 รางวัลใหญ่ได้จากสินค้า Maglite ในแคมเปญชุด A go go bar, Streetralker และ XXX Cinema  คว้ารางวัลเดอะ เบสต์ ออฟ พริ๊นและโกลด์      นอกจากนี้ผลงาน XXX Cinema ยังได้รางวัลโกลด์มาครองด้วยอีกรางวัลประเภทเดี่ยว  และจีวันคว้ารางวัลโกลด์ไป 1 รางวัลจากสินค้า Minery ชุดฟุต แคร์      

เจ๊  ยูไนเต็ดเผยเอาท์ดอร์ไทยยังไม่เข้าตา
นางสาวจุรีพร ไทยดำรงค์   ประธานบริษัท เจ๊ ยูไนเต็ด จำกัดและหนึ่งในคณะกรรมการตัดสินผลงานสื่อกลางแจ้ง(Outdoor)    เปิดเผยถึงภาพรวมของงานแอดเฟสครั้งนี้ว่า   ปีนี้ผลงานเอาท์เดอร์หรือสื่อกลางแจ้งของไทยยังสู้ชาติอื่นอย่างมาเลเซียและญี่ปุ่นไม่ได้  เนื่องจากไทยจะให้ความสำคัญกับสื่อภาพยนตร์โฆษณา(TVC) มากกว่า ซึ่งปีนี้มีการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นและผลงานที่ได้รับรางวัลโกลด์( Gold) ก็มีไม่มากโดยมีประมาณ 6 รางวัล    ส่วนสื่อสิ่งพิมพ์หรือพริ๊นแอดของไทยปีนี้มองว่าใช้ได้  แต่ยังสู้ปีที่แล้วที่มีแคมเปญแรงและมีความโดดเด่นกว่า   

ในส่วนของบริษัทเจ๊ฯปีนี้ส่งผลงานภาพยนตร์โฆษณาเข้าประกวด 16 เรื่อง  และได้รางวัลใหญ่ 2 รางวัล ได้แก่ สมูทอี ที่มีตัวละครชื่อจุ๋มเป็นตัวเดินเรื่องได้รับรางวัลภาพยนตร์โฆษณาที่ดีที่สุด (The Best of   Film)  และรางวัลโกลด์   ขณะที่สื่อสิ่งพิมพ์และกลางแจ้งปีนี้บริษัทฯไม่ได้ส่งเข้าประกวด      
 
ทั้งนี้บริษัทฯเปิดดำเนินการมาตั้งแต่เดือนพฤษาคม 2548  โดยยอดรายได้ของบริษัทฯเป็นไปตามเป้าที่วางไว้หรือประมาณ 150 ล้านบาท  ปีนี้บริษัทฯตั้งเป้ายอดขายจะโตขึ้น  เนื่องจากมีการปรับโครงสร้างในบริษัทฯใหม่ในด้านต่างๆ เช่น เพิ่มบุคลากรและลูกค้าใหม่ที่คาดว่าจะมีเพิ่มอีก 5-6 แบรนด์     ปัจจุบันลูกค้าของบริษัทฯมีกว่า 10 แบรนด์  อาทิ ยาสีฟันเดนทิสเต้, สมูทอี โกลด์ หลอดไฟซิลวาเนีย, สสส. และดีเอชซี เป็นต้น   

Y & R ชี้ปีนี้บอร์ดเด็กขึ้นมุมมองเปลี่ยนตาม
นายตรง ตันติเวชกุล   ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ บริษัท วาย แอนด์ อาร์ (ประเทศไทย)  จำกัด เปิดเผยว่า  ผลงานโดยรวมปีนี้ยังมองว่าน่าตื่นเต้นและน่าสนใจ  โดยในตัวชิ้นงานปีนี้มีประเด็นในการนำเสนอขายไอเดียแต่จะคล้ายๆปีที่แล้ว  ส่วนวิธีการถ่ายทำและการเล่าเรื่องยังน่าสนใจอยู่และมีความใหม่อยู่เสมอ    ส่วนตัวคณะกรรมการตัดสินปีนี้ส่วนใหญ่จะเป็นคนหนุ่มสาวมากขึ้นกว่าทุกปี จึงทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงในแง่การคอมเมนต์ผลงานที่ได้รับรางวัล   

“ปีนี้ผลงานภาพยนตร์โฆษณาของไทยมองว่าคล้ายกับเมื่อ 2 ปีก่อนที่เราเจอทางแล้ว  โดยผลงานที่โดดเด่นเห็นจะเป็นกรุงเทพประกันภัยที่ดูใหม่    ส่วนพริ๊นแอดปีนี้โปรดักส์ชั่นโดดเด่นและวิธีการถ่ายทำดี   ขณะที่นิว มีเดียที่เมื่อ 1-2 ปีที่แล้วพีคมาก แต่ปีนี้ยังไม่เห็นแรงเท่า   ในส่วนของวาย แอนด์ อาร์ปีนี้ส่งผลงานเข้าประกวด 2-3 งานและมีได้ไฟนอลลิสต์”

แม็ทชิ่งเผยงานคราฟท์ไทยยังอ่อน
นายสมชาย ชีวสุทธานนท์  กรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท แม็ทชิ่ง สตูดิโอ จำกัด (มหาชน) และหนึ่งในคณะกรรมการผลิตชิ้นงานโฆษณา(Film  Craft)   เปิดเผยว่า  ผลงานการผลิตชิ้นงานโฆษณาของไทยในปีนี้มองว่ามีความโดดเด่นของตัวชิ้นงานโฆษณาน้อย   ส่วนหนึ่งมาจากชิ้นงานที่ส่งเข้ามาประกวดมีน้อยกว่าปีที่แล้ว   อีกทั้งเวทีแอดเฟสเป็นที่รู้จักในต่างประเทศมากขึ้น ทำให้ชิ้นงานคราฟท์จากต่างประเทศส่งเข้ามาเพิ่มหรือกว่า 130 ชิ้นงาน โดยเท่าที่ดูภาพรวมของผลงานพบว่ามาตรฐานการผลิตชิ้นงานโฆษณาสูงขึ้น

“จากการร่วมตัดสินงานคราฟท์ในปีนี้มองเห็นถึงความละเอียดอ่อนในวิธีการนำเสนอ  และมุมมองที่พัฒนาขึ้น สามารถใช้เทคนิคในการผลิตชิ้นงานโฆษณามาช่วยส่งเสริมให้งานโฆษณามีความน่าสนใจมากขึ้น”  

ในส่วนของผลงานไทยที่ส่งเข้าประกวดในปีนี้ยังมีน้อย   โดยไทยส่งผลงานในส่วนของสเปเชียล เอฟเฟกต์ และ กราฟฟิคเข้าประกวด  ซึ่งผลงานยังไม่เข้าตามากนัก     ส่วนงานตัดต่อและกำกับภาพยนตร์โฆษณาไม่มีผู้ส่งเข้าประกวด  
กำลังโหลดความคิดเห็น