นักธุรกิจอิสระขายตรงไทยรวมพลก่อตั้งเป็นสมาคมนักธุรกิจอิสระการขายตรงไทย หวังยกมาตรฐานและช่วยเหลือนักธุรกิจอิสระ เบื้องต้นมีผู้สนใจสมัคร 200 ราย ตั้งเป้าผู้สมัคร 1,000 ราย จากนั้นจะมีการเลือกตั้งบอร์ดชุดใหม่ เผยการเมืองพ่นพิษต่อธุรกิจการตรงและนักธุรกิจอิสระ
นายแพทย์วัชรา ทรัพย์สุวรรณ นายกสมาคมนักธุรกิจอิสระการขายตรงไทย (TIBA) เปิดเผยว่า ปัจจุบันคนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจขายตรงไทยมีไม่ต่ำกว่า 6 ล้านคน ปีหน้าคาดว่าจะมีมากกว่า 10 ล้านคน อีกทั้งในตลาดยังไม่มีสมาคมของนักธุรกิจอิสระที่ยกระดับมาตรฐานของนักธุรกิจอิสระขายตรง ดังนั้นจึงได้รวมตัวกันและก่อตั้งเป็น “สมาคมนักธุรกิจอิสระขายตรงไทย หรือ TIBA โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อช่วยเหลือผู้จำหน่ายอิสระและตัวแทนขายตรงให้ได้รับความเป็นธรรมในธุรกิจ , ให้ความรู้และแนวทางในการประกอบอาชีพขายตรงอย่างถูกต้อง,ส่งเสริมพัฒนาวิชาชีพขายตรงให้เป็นอาชีพชั้นนำของสังคม และประสานงานกับสมาคมการขายตรงไทยและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น
ส่วนนโยบายของสมาคมฯจะเปิดรับนักธุรกิจขายตรงจากทุกบริษัท, ไม่ก้าวก่ายเรื่องภายในของแต่ละบริษัท , ระดมความเห็นจากผู้นำในธุรกิจขายตรงเพื่อไปเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และร่วมมือกันในการพัฒนาระบบการฝึกอบรมนักธุรกิจขายตรง
เบื้องต้นขณะนี้มีนักธุรกิจอิสระสนใจสมัครเป็นสมาชิกสมาคมฯแล้วประมาณ 200 ราย โดยสมาคมฯตั้งเป้าผู้สมัครเป็นสมาชิกไว้ที่ 1,000 คน และมาจากหลายบริษัทที่จากนั้นทางคณะกรรมการที่ร่วมก่อตั้งทั้ง 13 คนจะลาออกจากตำแหน่งและจะให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมใหม่
นายกสมาคมฯ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบันได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจขายตรง ซึ่งนักธุรกิจอิสระทำงานอยู่ในภาคสนามและเข้าถึงผู้บริโภคระดับรากหญ้า จึงทำให้ทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เช่น รายได้ลดลง และค่าครองชีพสูงขึ้น หรือน้ำมันแพงขึ้น 100% เป็นต้น ดังนั้นในฐานะนักธุรกิจอิสระจึงมีมาตรการรองรับเรื่องดังกล่าว อาทิ การเตรียมความพร้อมทางการเงินหรือซ้อมวิกฤตรายได้น้อยลง ,พัฒนาตัวเองให้มีความสมารถรอบด้าน และฝึกทำงานเป็นทีมเวิร์คมากขึ้น เป็นต้น
นายแพทย์วัชรา ทรัพย์สุวรรณ นายกสมาคมนักธุรกิจอิสระการขายตรงไทย (TIBA) เปิดเผยว่า ปัจจุบันคนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจขายตรงไทยมีไม่ต่ำกว่า 6 ล้านคน ปีหน้าคาดว่าจะมีมากกว่า 10 ล้านคน อีกทั้งในตลาดยังไม่มีสมาคมของนักธุรกิจอิสระที่ยกระดับมาตรฐานของนักธุรกิจอิสระขายตรง ดังนั้นจึงได้รวมตัวกันและก่อตั้งเป็น “สมาคมนักธุรกิจอิสระขายตรงไทย หรือ TIBA โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อช่วยเหลือผู้จำหน่ายอิสระและตัวแทนขายตรงให้ได้รับความเป็นธรรมในธุรกิจ , ให้ความรู้และแนวทางในการประกอบอาชีพขายตรงอย่างถูกต้อง,ส่งเสริมพัฒนาวิชาชีพขายตรงให้เป็นอาชีพชั้นนำของสังคม และประสานงานกับสมาคมการขายตรงไทยและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น
ส่วนนโยบายของสมาคมฯจะเปิดรับนักธุรกิจขายตรงจากทุกบริษัท, ไม่ก้าวก่ายเรื่องภายในของแต่ละบริษัท , ระดมความเห็นจากผู้นำในธุรกิจขายตรงเพื่อไปเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และร่วมมือกันในการพัฒนาระบบการฝึกอบรมนักธุรกิจขายตรง
เบื้องต้นขณะนี้มีนักธุรกิจอิสระสนใจสมัครเป็นสมาชิกสมาคมฯแล้วประมาณ 200 ราย โดยสมาคมฯตั้งเป้าผู้สมัครเป็นสมาชิกไว้ที่ 1,000 คน และมาจากหลายบริษัทที่จากนั้นทางคณะกรรมการที่ร่วมก่อตั้งทั้ง 13 คนจะลาออกจากตำแหน่งและจะให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมใหม่
นายกสมาคมฯ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบันได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจขายตรง ซึ่งนักธุรกิจอิสระทำงานอยู่ในภาคสนามและเข้าถึงผู้บริโภคระดับรากหญ้า จึงทำให้ทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เช่น รายได้ลดลง และค่าครองชีพสูงขึ้น หรือน้ำมันแพงขึ้น 100% เป็นต้น ดังนั้นในฐานะนักธุรกิจอิสระจึงมีมาตรการรองรับเรื่องดังกล่าว อาทิ การเตรียมความพร้อมทางการเงินหรือซ้อมวิกฤตรายได้น้อยลง ,พัฒนาตัวเองให้มีความสมารถรอบด้าน และฝึกทำงานเป็นทีมเวิร์คมากขึ้น เป็นต้น