ก.คลังฟุ้งรายได้ 5 เดือนแรกปีงบประมาณ 2549 ทะลุเป้ากว่าร้อย 1.3 โดยคิดเป็นรายได้สุทธิกว่า 4.6 แสนล้านบาท เชื่อเป็นเพราะเศรษฐกิจยังขยายตัวต่อเนื่อง มั่นใจการจัดเก็บรายได้ทั้งปีนี้จะเป็นไปตามเป้า
นายสมชัย สัจจพงษ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยผลการจัดเก็บรายได้รวมของรัฐบาลประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ว่า สูงกว่าประมาณการอย่างต่อเนื่อง โดยเดือนกุมภาพันธ์ รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 93,716 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 1,694 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.8 และสูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 4.4 สาเหตุที่การจัดเก็บรายได้รัฐบาลในเดือนกุมภาพันธ์มีการขยายตัวในระดับที่น่าพอใจ เนื่องจากกรมสรรพากรและหน่วยงานอื่นจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการถึงร้อยละ 12.3 และร้อยละ 2.4 ตามลำดับ
สำหรับภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีมูลค่าเพิ่ม จัดเก็บได้ 34,001 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 3,547 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.6 และสูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 11.7 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ยังอยู่ในระดับที่สูงอยู่ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จัดเก็บได้ 14,640 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 1,901 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.9 สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 33.9 เนื่องจากเดือนกุมภาพันธ์ ผู้ประกอบการมีการจ่ายโบนัสและเงินปันผลตามผลประกอบการของธุรกิจที่ยังเติบโตดี จึงทำให้มีรายได้ประเภทภาษีหัก ณ ที่จ่ายเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2549 (ตุลาคม 2548 – กุมภาพันธ์ 2549) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 464,383 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 5,891 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.3 และสูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 3.4 โดยการจัดเก็บรายได้รัฐบาลที่สูงกว่าประมาณการดังกล่าว นอกจากจะเป็นผลจากการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากรที่สูงกว่าประมาณการแล้ว ยังมีผลมาจากการที่รัฐวิสาหกิจนำส่งรายได้สูงกว่าเป้าหมายที่ประมาณการไว้ด้วย ซึ่งกรมสรรพากร จัดเก็บได้รวม 334,702 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 29,173 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 9.5 สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 14.7 เนื่องจากภาษีทุกประเภทจัดเก็บได้สูงกว่าที่ประมาณการไว้ โดยเฉพาะภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีเงินได้นิติบุคคลที่สามารถจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 11,940 และ 9,239 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.6 และ 13.7 ตามลำดับ รวมทั้งสูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 12.9 และ 15.0 ตามลำดับ ชี้ให้เห็นว่า ในช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจของประเทศยังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ด้านกรมสรรพสามิตจัดเก็บได้รวม 108,013 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 16,111 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.0 และต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 8.5 เนื่องจากภาษีที่สำคัญเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย โดยเฉพาะภาษีน้ำมันและภาษียาสูบ จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 6,333 และ 3,984 ล้านบาท หรือร้อยละ 19.5 และ 23.8 ตามลำดับ ซึ่งการที่ภาษีน้ำมันจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมายถึง 6,333 ล้านบาท เนื่องจากมาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซลโดยในช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน 2548 ลดลง 1 บาทต่อลิตร และในช่วงเดือนธันวาคม 2548 - กุมภาพันธ์ 2549 ลดลง 0.50 บาทต่อลิตร นอกจากนี้ การที่ภาษียาสูบจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมายเนื่องจากการปรับเพิ่มภาษียาสูบจากร้อยละ 75 เป็นร้อยละ 79 ทำให้ปริมาณการบริโภคยาสูบลดลง รวมทั้งผู้บริโภคได้ปรับเปลี่ยนมาบริโภคบุหรี่ราคาถูกในสัดส่วนที่สูงขึ้นด้วย
ขณะที่กรมศุลกากร จัดเก็บได้รวม 41,891 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 7,309 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 14.9 และต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 8.6 โดยอากรขาเข้าซึ่งเป็นรายได้หลักจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 8,069 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 16.6 และต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 9.4 เนื่องจากจะมีการปรับโครงสร้างภาษีศุลกากรเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ จึงทำให้มีการชะลอตัวของการนำเข้าสินค้ากลุ่มดังกล่าว หน่วยงานอื่นนำส่งรายได้รวม 46,109 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสาร งบประมาณ 3,624 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 8.5 เนื่องจากรายได้นำส่งคลังจากค่าภาคหลวงปิโตรเลียมสูงกว่าประมาณการ 2,581 ล้านบาทและธนาคารออมสินนำส่งรายได้บางส่วนจากกำไรสุทธิ 1,500 ล้านบาท
นายสมชัย กล่าวอีกว่า สำหรับแนวโน้มการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลปีงบประมาณ 2549 จากผลการจัดเก็บรายได้ในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2549 ที่สูงกว่าประมาณการอย่างต่อเนื่อง จึงคาดว่ารัฐบาลจะสามารถจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณ 2549 ได้ตามประมาณการที่ตั้งไว้ที่ 1,360,000 ล้านบาท
นายสมชัย สัจจพงษ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยผลการจัดเก็บรายได้รวมของรัฐบาลประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ว่า สูงกว่าประมาณการอย่างต่อเนื่อง โดยเดือนกุมภาพันธ์ รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 93,716 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 1,694 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.8 และสูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 4.4 สาเหตุที่การจัดเก็บรายได้รัฐบาลในเดือนกุมภาพันธ์มีการขยายตัวในระดับที่น่าพอใจ เนื่องจากกรมสรรพากรและหน่วยงานอื่นจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการถึงร้อยละ 12.3 และร้อยละ 2.4 ตามลำดับ
สำหรับภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีมูลค่าเพิ่ม จัดเก็บได้ 34,001 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 3,547 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.6 และสูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 11.7 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ยังอยู่ในระดับที่สูงอยู่ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จัดเก็บได้ 14,640 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 1,901 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.9 สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 33.9 เนื่องจากเดือนกุมภาพันธ์ ผู้ประกอบการมีการจ่ายโบนัสและเงินปันผลตามผลประกอบการของธุรกิจที่ยังเติบโตดี จึงทำให้มีรายได้ประเภทภาษีหัก ณ ที่จ่ายเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2549 (ตุลาคม 2548 – กุมภาพันธ์ 2549) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 464,383 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 5,891 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.3 และสูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 3.4 โดยการจัดเก็บรายได้รัฐบาลที่สูงกว่าประมาณการดังกล่าว นอกจากจะเป็นผลจากการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากรที่สูงกว่าประมาณการแล้ว ยังมีผลมาจากการที่รัฐวิสาหกิจนำส่งรายได้สูงกว่าเป้าหมายที่ประมาณการไว้ด้วย ซึ่งกรมสรรพากร จัดเก็บได้รวม 334,702 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 29,173 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 9.5 สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 14.7 เนื่องจากภาษีทุกประเภทจัดเก็บได้สูงกว่าที่ประมาณการไว้ โดยเฉพาะภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีเงินได้นิติบุคคลที่สามารถจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 11,940 และ 9,239 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.6 และ 13.7 ตามลำดับ รวมทั้งสูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 12.9 และ 15.0 ตามลำดับ ชี้ให้เห็นว่า ในช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจของประเทศยังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ด้านกรมสรรพสามิตจัดเก็บได้รวม 108,013 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 16,111 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.0 และต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 8.5 เนื่องจากภาษีที่สำคัญเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย โดยเฉพาะภาษีน้ำมันและภาษียาสูบ จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 6,333 และ 3,984 ล้านบาท หรือร้อยละ 19.5 และ 23.8 ตามลำดับ ซึ่งการที่ภาษีน้ำมันจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมายถึง 6,333 ล้านบาท เนื่องจากมาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซลโดยในช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน 2548 ลดลง 1 บาทต่อลิตร และในช่วงเดือนธันวาคม 2548 - กุมภาพันธ์ 2549 ลดลง 0.50 บาทต่อลิตร นอกจากนี้ การที่ภาษียาสูบจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมายเนื่องจากการปรับเพิ่มภาษียาสูบจากร้อยละ 75 เป็นร้อยละ 79 ทำให้ปริมาณการบริโภคยาสูบลดลง รวมทั้งผู้บริโภคได้ปรับเปลี่ยนมาบริโภคบุหรี่ราคาถูกในสัดส่วนที่สูงขึ้นด้วย
ขณะที่กรมศุลกากร จัดเก็บได้รวม 41,891 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 7,309 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 14.9 และต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 8.6 โดยอากรขาเข้าซึ่งเป็นรายได้หลักจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 8,069 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 16.6 และต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 9.4 เนื่องจากจะมีการปรับโครงสร้างภาษีศุลกากรเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ จึงทำให้มีการชะลอตัวของการนำเข้าสินค้ากลุ่มดังกล่าว หน่วยงานอื่นนำส่งรายได้รวม 46,109 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสาร งบประมาณ 3,624 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 8.5 เนื่องจากรายได้นำส่งคลังจากค่าภาคหลวงปิโตรเลียมสูงกว่าประมาณการ 2,581 ล้านบาทและธนาคารออมสินนำส่งรายได้บางส่วนจากกำไรสุทธิ 1,500 ล้านบาท
นายสมชัย กล่าวอีกว่า สำหรับแนวโน้มการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลปีงบประมาณ 2549 จากผลการจัดเก็บรายได้ในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2549 ที่สูงกว่าประมาณการอย่างต่อเนื่อง จึงคาดว่ารัฐบาลจะสามารถจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณ 2549 ได้ตามประมาณการที่ตั้งไว้ที่ 1,360,000 ล้านบาท