กระทรวงอุตสาหกรรมจะส่งผลการศึกษาแนวทางการแก้ปัญหาอ้อยและน้ำตาลทรายทั้งระบบให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาชี้ขาด ว่าจะให้ราคาน้ำตาลทรายขึ้นราคาไปเพื่อสะท้อนราคาตลาดโลกหรือไม่
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมจะส่งผลการศึกษาแนวทางการแก้ปัญหาอ้อยและน้ำตาลทรายทั้งระบบของคณะทำงาน ที่มีนายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธาน ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในสัปดาห์นี้ เพื่อนำไปสู่กระบวนการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ว่าจะเห็นชอบแนวทางการแก้ปัญหาตามที่คณะทำงานฯ ศึกษามาหรือไม่ ซึ่งแนวทางในการแก้ปัญหาของคณะทำงาน ได้แก่ การปรับขึ้นราคาน้ำตาลทรายให้สะท้อนราคาตลาดโลก
นายสุริยะ กล่าวว่า หลังจากคณะทำงานฯ เสนอผลศึกษามาให้ ตนได้สอบถามรายละเอียดในหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องขึ้นราคาน้ำตาลทรายให้สะท้อนตลาดโลก เพราะไม่มั่นใจว่าหากปรับราคาให้เป็นไปตามตลาดโลกแล้ว เมื่อราคาตลาดโลกลดลงจะทำอย่างไร รัฐบาลจะต้องกลับเข้าไปอุดหนุนหรือไม่ นอกจากนี้ การปรับราคาน้ำตาลทรายยังมีเงื่อนไขว่าจะต้องนำเงินส่วนหนึ่งที่ได้นำไปใช้หนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่กองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย (กท.) เป็นหนี้อยู่ประมาณ 15,000 ล้านบาท ให้หมดภายใน 7-8 ปี หากราคาตลาดโลกลดลง จะมั่นใจได้อย่างไรว่าสามารถใช้หนี้ได้หมด รวมถึงแนวโน้มราคาน้ำตาลในตลาดโลกว่ามีโอกาสจะลดลงหรือไม่
“คณะทำงานฯ ยืนยันและมั่นใจว่าจะสามารถใช้หนี้ให้ กท. ได้หมด และแม้ว่าน้ำตาลได้ปรับราคาให้สะท้อนตลาดโลกไปแล้ว แต่ราคาน้ำตาลในประเทศก็จะไม่สูงไปกว่าราคาตลาดโลกแน่นอน ซึ่งทั้งหมดก็อยู่ที่ ครม. จะตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไร อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมารัฐบาลไม่ค่อยได้ช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยเท่าใดนัก เพราะการช่วยที่ผ่านมาคือ การให้เงินกู้ยืม และเงินจำนวนนี้รัฐบาลก็มีกำหนดที่จะได้คืนหมดอยู่แล้ว” นายสุริยะ กล่าว
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมจะส่งผลการศึกษาแนวทางการแก้ปัญหาอ้อยและน้ำตาลทรายทั้งระบบของคณะทำงาน ที่มีนายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธาน ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในสัปดาห์นี้ เพื่อนำไปสู่กระบวนการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ว่าจะเห็นชอบแนวทางการแก้ปัญหาตามที่คณะทำงานฯ ศึกษามาหรือไม่ ซึ่งแนวทางในการแก้ปัญหาของคณะทำงาน ได้แก่ การปรับขึ้นราคาน้ำตาลทรายให้สะท้อนราคาตลาดโลก
นายสุริยะ กล่าวว่า หลังจากคณะทำงานฯ เสนอผลศึกษามาให้ ตนได้สอบถามรายละเอียดในหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องขึ้นราคาน้ำตาลทรายให้สะท้อนตลาดโลก เพราะไม่มั่นใจว่าหากปรับราคาให้เป็นไปตามตลาดโลกแล้ว เมื่อราคาตลาดโลกลดลงจะทำอย่างไร รัฐบาลจะต้องกลับเข้าไปอุดหนุนหรือไม่ นอกจากนี้ การปรับราคาน้ำตาลทรายยังมีเงื่อนไขว่าจะต้องนำเงินส่วนหนึ่งที่ได้นำไปใช้หนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่กองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย (กท.) เป็นหนี้อยู่ประมาณ 15,000 ล้านบาท ให้หมดภายใน 7-8 ปี หากราคาตลาดโลกลดลง จะมั่นใจได้อย่างไรว่าสามารถใช้หนี้ได้หมด รวมถึงแนวโน้มราคาน้ำตาลในตลาดโลกว่ามีโอกาสจะลดลงหรือไม่
“คณะทำงานฯ ยืนยันและมั่นใจว่าจะสามารถใช้หนี้ให้ กท. ได้หมด และแม้ว่าน้ำตาลได้ปรับราคาให้สะท้อนตลาดโลกไปแล้ว แต่ราคาน้ำตาลในประเทศก็จะไม่สูงไปกว่าราคาตลาดโลกแน่นอน ซึ่งทั้งหมดก็อยู่ที่ ครม. จะตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไร อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมารัฐบาลไม่ค่อยได้ช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยเท่าใดนัก เพราะการช่วยที่ผ่านมาคือ การให้เงินกู้ยืม และเงินจำนวนนี้รัฐบาลก็มีกำหนดที่จะได้คืนหมดอยู่แล้ว” นายสุริยะ กล่าว