xs
xsm
sm
md
lg

เสี่ยสหพัฒน์หวั่นเศรษฐกิจสะดุด ห่วงทุนนอกไหลเข้าเวียดนาม-ชวา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประธานเครือสหพัฒน์เผยถึงสถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองที่ร้อนระอุในช่วงนี้  วอนอยากให้ทุกฝ่ายอดทนรออีก  1 ปี  เพราะช่วงนี้เศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงขาขึ้น หากมีการเปลี่ยนแปลงอาจส่งผลเสียต่อภาพรวมประเทศ   ด้านแผนลงทุนของเครือสหพัฒน์ยังเดินหน้าลงทุนต่อเนื่อง  ตั้งเป้ายอดรายได้โต 15%   

นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา
 ประธานเครือสหพัฒน์ เปิดเผยถึงสภาวะเศรษฐกิจและการเมืองในปัจจุบันว่า  ช่วงนี้เศรษฐกิจในเอเชียหลายประเทศเริ่มดีขึ้น ทั้งญี่ปุ่นที่ซบเซามานานกว่า 15 ปีเริ่มกลับมาดีขึ้น หรือประเทศจีนที่มีเศรษฐกิจดีและเป็นตลาดใหญ่ ซึ่งถ้าทุกประเทศในเอเชียดีแล้วก็จะส่งผลดีต่อไทยตามไปด้วย

ส่วนปัญหาเรื่องการเมืองในประเทศไทยเวลานี้ในฐานะนักธุรกิจคนหนึ่งมองว่า หากรัฐบาลมีอันเป็นไปในช่วงนี้ถือว่าเป็นจังหวะที่ไม่ถูกต้อง  เพราะเศรษฐกิจของประเทศช่วงนี้กำลังดีอยู่ ตรงนี้น่าจะมีการคุยหรือตกลงกันให้รู้เรื่อง  โดยหากมีการอดทนรออีก 1 ปีเชื่อว่าจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจและประเทศชาติ   แต่หากรัฐบาลมีการเปลี่ยนแปลงอาจส่งผลต่อเศรษฐกิจต้องหยุดชะงักไป  ตรงนี้อาจส่งผลเสียในแง่การลงทุนของต่างชาติที่อาจหันเหไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม, อินโดนีเซียแทน เป็นต้น

ทั้งนี้เศรษฐกิจจะดีหรือไม่ดีสังเกตได้จากแรงงานว่ามีเพียงพอต่ออุตสาหกรรมหรือไม่  โดยตลาดช่วงนี้พบว่ามีปัญหาการขาดแคลนแรงงานอยู่ ซึ่งในเครือสหพัฒน์เองก็มีปัญหาเรื่องขาดแรงงานเหมือนกัน    

นายบุณยสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของเครือสหพัฒน์ปีนี้จะเดินหน้าลงทุนต่อเนื่อง  หากเศรษฐกิจดีบริษัทฯก็จะเดินหน้าเร็ว  หากเศรษฐกิจไม่ดีก็จะเดินหน้าช้า    ส่วนเรื่องปัจจัยด้านอื่นๆ เช่น การที่น้ำมันขึ้นราคาหากมองในด้านบวกจะเห็นว่าคนมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป  เช่น  รู้จักการประหยัดและรู้จักใช้สิ่งของอย่างมีคุณค่ามากขึ้น   ซึ่งตรงนี้หากมองในระยะยาวไทยควรจะมีแผนรองรับ อาทิ  ใช้พลังงานปรมาณูแทน เนื่องจากมีราคาถูก สะอาดและไม่เป็นอันตราย   เป็นต้น     

ส่วนในแง่กำลังซื้อของผู้บริโภคในขณะนี้พบว่ายังมีกำลังซื้อที่ดีอยู่   และนโยบายของบริษัทฯยังไม่มีแผนขึ้นราคาสินค้าในเครือถึงแม้ว่าราคาน้ำมันจะปรับเพิ่มถึง 4 เท่าในช่วงที่ผ่านมาแล้วก็ตาม  ทั้งนี้บริษัทฯคาดการณ์ยอดรายได้ปีนี้จะโตขึ้น 15% จากปีที่แล้วที่มีรายได้กว่า 1 แสนล้านบาทและมีอัตราการโต 13-14%  

ชิเซโด้ลุยซาลอนและสปา
นางธีรดา อำพันวงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชิเซโด้ โปรเฟสชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจซาลอนและสปาครบวงจร ภายใต้ชื่อ “คิ ชิเซโด้ ซาลอน แอนด์ สปา”  ซึ่งเป็นการร่วมทุนกันระหว่างบริษัทชิเซโด้และกลุ่มเครือสหพัฒน์ เปิดเผยว่า  บริษัทฯได้เปิดตัว“คิ ชิเซโด้ ซาลอน แอนด์ สปา”  สาขาใหม่ล่าสุดที่สยามพารากอน ซึ่งเป็นสาขาที่ 4  บนพื้นที่ขนาด 300 ตารางเมตร  เพื่อสนองตอบต่อความต้องการของลูกค้าทั้งคนไทยและต่างประเทศในย่านใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ภายใต้งบลงทุนค่าตกแต่งร้านกว่า 17 ล้านบาท    

สำหรับบริการของคิ ชิเซโดฯจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ บริการแฮร์ซาลอน  เช่น ตัดผมและการทำทรีตเมนต์  และการบริการสปา ที่มีจุดเด่น คือ การกดจุดแบบญี่ปุ่น     

ปัจจุบันคิชิเซโดมีทั้งหมด 4 สาขา ได้แก่  ที่ดิ เอ็มโพเรียม, เซ็นทรัล ชิดลม, อาคารจัสมิน ซิตี้ สุขุมวิท 23  และสยามพารากอน   สำหรับยอดรายได้ของคิชิเซโด ปีนี้คาดว่าจะโตเหมือนปีก่อนหรือโตขึ้น 30%
กำลังโหลดความคิดเห็น