ถ้าจะพูดถึงสตรีหมายเลขหนึ่งในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว คงจะหนีไม่พ้นผู้หญิงที่ชื่อ "จุฑามาศ ศิริวรรณ" ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) และคงต้องยอมรับว่าท่องเที่ยวถือเป็น ธุรกิจที่รัฐบาลหมายมั่นปั้นมือให้เป็นอุตสาหกรรมที่นำเงินตราเข้าประเทศ ไม่แพงกับอุตสาหกรรมส่งออกประเภทอื่น
ดังนั้นหากเปรียบประเทศไทยเป็นบริษัทการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ก็เป็นเสมือนฝ่ายงานการตลาดและประชาสัมพันธ์ ที่จะต้องทำหน้าที่คิดแผนและทำกิจกรรมด้านการตลาด เชิญชวนลูกค้าให้มาซื้อสินค้านั่นคือการเข้ามาท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยบนแผ่นดินไทย
แม้ว่า "จุฑามาศ" จะไม่ได้เรียนจบด้านการตลาดมาโดยตรง แต่ก็บริหารงานด้วยแนวคิดที่ว่าเงินทุกบาทต้องใช้อย่างคุ้มค่า ต้องได้ผลตอบรับในเชิงธุรกิจกลับคืนมา ดังนั้นหลักการทำงานของผู้ว่าฯหญิงคนนี้จึงให้ความสำคัญกับการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับชาวต่างชาติได้รู้จักประเทศไทย รวมถึงการเปิดตลาดใหม่ เพื่อขยายฐานลูกค้า นับจากวันที่เข้ามารับตำแหน่งผู้ว่าการททท. เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2545 สถานการณ์การท่องเที่ยวของโลกก็อยู่บนภาวะที่ไม่ปกติมาโดยตลอด ตั้งแต่เหตุระเบิดอาคารเวิร์ลเทรด ,การระบาดของโรคซาร์ส และไข้หวัดนก นอกจากนั้นเหตุการณ์ในประเทศที่เป็นปัจจัยลบกระทบธุรกิจท่องเที่ยวครั้งใหญ่ที่สุดนั่นคือ การเกิดภัยพิบัติ"สึนามิ" ส่งผลให้จังหวัดภูเก็ตซึ่งเป็นเสมือนไข่มุกอันดามัน และสินค้าด้านการท่องเที่ยวชิ้นเอกของประเทศไทยเกิดความเสียหาย
"สิ่งที่พี่ยึดถือมาตลอดไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใดที่จะเข้ามากระทบกับธุรกิจท่องเที่ยวของไทย คือสินค้าต้องไปหลุดไปจากเชลฟ์ ดังนั้นความเสียหายที่เกิดขึ้นกับจังหวัดภูเก็ตเมื่อครั้งเกิดสึนามิ เราก็ยังต้อนเดินสายประชาสัมพันธ์ให้ต่างประเทศได้รับรู้ข้อมูลที่ถูกต้อง ระยะแรกเราไม่ต้องชวนเขามาเที่ยวภูเก็ต เพราะรู้ว่าชวนอย่างไรก็ไม่มา แต่เราบอกให้เขารู้ว่าตอนนี้ภูเก็ตเป็นอย่างไร และรัฐบาลไทยทำอะไรไปบ้างแล้ว เมื่อชื่อภูเก็ตไม่ได้หายไปจากตลาด นักท่องเที่ยวก็จะไม่ลืมแล้วก็สำเร็จ ไฮซีซั่นที่ผ่านมาเมื่อปลายปี นักท่องเที่ยวยังหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวภูเก็ตจนโรงแรมที่พักเต็มกว่า 90% ซึ่งตรงนี้เราคิดต่างจากบาหลีซึ่งหลังจากโดนระเบิด การท่องเที่ยวเขาซบลงทันทีจนทำให้ถูกลืม และในทุกๆเหตุการณ์ที่ผ่านมาเราก็ทำเช่นนี้ คือชื่อของประเทศไทยต้องไม่หลุดไปจากตลาด " จุฑามาศ กล่าว
หลักการทำงานที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือความรวดเร็วและทำงานเป็นทีมเวิร์ก เพราะด้วยสถานการณ์การแข่งขันในโลกปัจจุบัน ทำให้ทุกประเทศต่างก็ต้องช่วงชิงในการทำตลาดเพื่อดึงนักท่องเที่ยวเข้าประเทศให้ได้สูงสุด ใครคิดไวเป็นต่อทีมเวิร์กที่ดีจะช่วยให้การทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ส่วนวิสัยทัศน์ของการทำงาน แม้ว่าสัญญาของการว่าจ้างผู้ว่า ททท.จะหมดลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ผู้ว่า ททท.คนนี้ก็ได้วางนโยบายเป็นแผนยุทธศาสตร์ 3 ปีว่า จะต้องทำให้ประเทศไทยเป็นมหานครท่องเที่ยวแห่งเอเชีย จากเดิมที่เคยวางไว้แค่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้น ซึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญได้ดึงเอาหลักการบริหารในรูปแบบเครือข่ายพันธมิตร เพื่อให้เกิดอำนาจในการต่อรองที่มากขึ้น เช่นการจับมือกับประเทศจีนและญี่ปุ่น แล้วขายความเป็นไทยผ่านเครือข่ายทั้งสองประเทศ เพราะเราได้เล็งเห็นแล้วว่า จีนจะเป็นประเทศที่ต้อนรับนักท่องเที่ยว และส่งออกนักท่องเที่ยวมากที่สุดในโลกเมื่อถึงปี 2020 ดังนั้นหากเราพ่วงกับประเทศจีน เมื่อนักท่องเที่ยวมาประเทศจีนก็จะเข้ามาเที่ยวประเทศไทยด้วย