กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ฉวยจังหวะ “ฌาค ชีรัก” ประธานาธิบดีฝรั่งเศสเยือนไทย ชงเรื่องเข้าหารือรัฐมนตรีด้านการท่องเที่ยวของฝรั่งเศส อ้อนขอนักท่องเที่ยวพร้อมประเด็นความร่วมมือส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวระหว่างกัน ระบุยินดีปลดล็อกกฎระเบียบการเดินเรือและจอดเรือยอร์ช-เรือใบในน่านน้ำไทย หวังขยายฐานนักท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์
นางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่จากสถานทูตฝรั่งเศส ว่า เป็นการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อม ในการต้อนรับการเดินทางมาเยือนประเทศไทยของ นายฌาค ชีรัก ประธานาธิบดีประเทศฝรั่งเศส อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ศกนี้
สำหรับการมาเยือนประเทศไทยครั้งนี้ จะเข้าพบนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อเจรจาความร่วมมือในด้านต่างๆ ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะที่เป็นอีกหนึ่งกระทรวงเศรษฐกิจที่รัฐบาลมุ่งหวังที่จะสร้างรายได้เป็นเงินตราต่างประเทศจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ดังนั้นในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ นายประชา มาลีนนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯของประเทศไทย จะมีการเข้าพบและหารือร่วมกับรัฐมนตรีด้านการท่องเที่ยวของประเทศฝรั่งเศส
โดยเบื้องต้น สิ่งที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯจะนำเสนอ คือขอความร่วมมือรัฐบาลฝรั่งเศส ให้ช่วยสนับสนุนให้ชาวฝรั่งเศสเข้ามาเที่ยวประเทศไทยให้มากขึ้น ซึ่งในส่วนของกระทรวงการท่องเที่ยวฯจะเร่งปรับปรุงกฏเกณฑ์ เพื่ออำนวยความสะดวกในเรื่องของการนำเรือใบ หรือเรือยอร์ช เข้ามาจอด นอกจากนั้น ยังมีความร่วมมืออีกหลายอย่างด้านการท่องเที่ยว เพราะฝรั่งเศสคือถือเป็นประเทศที่โด่งดังด้านการท่องเที่ยวมายาวนานแล้ว
“ชาวฝรั่งเศส และหลายประเทศในยุโรป นิยมการแล่นเรือใบไปยังประเทศต่างๆ เพื่อท่องเที่ยว ซึ่งตลาดกลุ่มนี้เป็นระดับไฮเอนด์ ที่มีการจับจ่ายสูง ทั้งเรื่องชอปปิ้ง และ พักโรงแรมระดับ 5 ดาว ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ประเทศไทยต้องการขยายฐานจำนวนให้มากขึ้น ประกอบกับเรามีโครงการริเวียร่า ที่รัฐบาลเตรียมที่จะดำเนินการในฝั่งทะเลอ่าวไทย ประจวบ เพชรบุรี ดังนั้นจึงเป็นโอกาสเหมาะ ที่เราจะนำเสนอให้กับรัฐบาลฝรั่งเศสได้รับทราบ”
ล่าสุดสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) ได้แจ้งว่า รัฐบาลฝรั่งเศสได้มอบทุนจำนวน 20 ทุน ให้กับสมาคมโรงแรมไทย เพื่อให้ส่งบุคลากรไปฝึกอบรมที่ประเทศฝรั่งเศสเป็นเวลา 3 เดือน เพื่อนำความรู้ที่ได้มาเผยแพร่และพัฒนาบุคลากรโรงแรมที่อยู่ในประเทศไทยต่อไป โดยทุนที่ได้จะมีหลายแผนก เช่น เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่ประจำออฟฟิต เจ้าหน้าที่แผนกครัวและห้องอาหาร เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ในปี 2548 ที่ผ่านมา จำนวนตัวเลขนักท่องเที่ยวฝรั่งเศส ที่เข้ามาประเทศไทย ช่วง 11 เดือนแรก ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง สนามบินดอนเมือง มีจำนวนทั้งสิ้น 199,055 คน เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.16% แต่หากเป็นตัวเลขรวมจากทุกด่านตรงคนเข้าเมือง 6 เดือนแรกของปี 48 ชาวฝรั่งเศสเดินทางเข้าประเทศไทยรวม 121,447 คน เติบโต 1.75%
ทั้งนี้ กลุ่มนักท่องเที่ยวระดับตลาดบน ที่เข้ามาในประเทศไทย ยังมีสัดส่วนน้อยมากเมื่อเทียบกับระดับกลาง ดังนั้นจึงเป็นเป้าหมายหลัก ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จะขยายฐานตลาดนี้ให้เพิ่มมากขึ้น โดยเริ่มให้ความสนใจและศึกษาตลาดอย่างจริงจัง ซึ่งทางภาคเอกชนก็มีแนวคิดเดียวกันที่ว่า รัฐบาลโดยกระทรวงการท่องเที่ยว ควรที่จะให้ความสำคัญกับการเติบโตของรายได้ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมากกว่าปริมาณนักท่องเที่ยว เพราะหากมีจำนวนนักท่องเที่ยวที่พอเหมาะ เราก็ไม่สูญเสียทรัพยากรมาก ดังนั้นการเข้ามาของนักท่องเที่ยวระดับบนซึ่งมีค่าใช้จ่ายต่อคนต่อวันสูง จึงเป็นยุทธศาสตร์หนึ่งของททท.
นางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่จากสถานทูตฝรั่งเศส ว่า เป็นการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อม ในการต้อนรับการเดินทางมาเยือนประเทศไทยของ นายฌาค ชีรัก ประธานาธิบดีประเทศฝรั่งเศส อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ศกนี้
สำหรับการมาเยือนประเทศไทยครั้งนี้ จะเข้าพบนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อเจรจาความร่วมมือในด้านต่างๆ ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะที่เป็นอีกหนึ่งกระทรวงเศรษฐกิจที่รัฐบาลมุ่งหวังที่จะสร้างรายได้เป็นเงินตราต่างประเทศจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ดังนั้นในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ นายประชา มาลีนนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯของประเทศไทย จะมีการเข้าพบและหารือร่วมกับรัฐมนตรีด้านการท่องเที่ยวของประเทศฝรั่งเศส
โดยเบื้องต้น สิ่งที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯจะนำเสนอ คือขอความร่วมมือรัฐบาลฝรั่งเศส ให้ช่วยสนับสนุนให้ชาวฝรั่งเศสเข้ามาเที่ยวประเทศไทยให้มากขึ้น ซึ่งในส่วนของกระทรวงการท่องเที่ยวฯจะเร่งปรับปรุงกฏเกณฑ์ เพื่ออำนวยความสะดวกในเรื่องของการนำเรือใบ หรือเรือยอร์ช เข้ามาจอด นอกจากนั้น ยังมีความร่วมมืออีกหลายอย่างด้านการท่องเที่ยว เพราะฝรั่งเศสคือถือเป็นประเทศที่โด่งดังด้านการท่องเที่ยวมายาวนานแล้ว
“ชาวฝรั่งเศส และหลายประเทศในยุโรป นิยมการแล่นเรือใบไปยังประเทศต่างๆ เพื่อท่องเที่ยว ซึ่งตลาดกลุ่มนี้เป็นระดับไฮเอนด์ ที่มีการจับจ่ายสูง ทั้งเรื่องชอปปิ้ง และ พักโรงแรมระดับ 5 ดาว ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ประเทศไทยต้องการขยายฐานจำนวนให้มากขึ้น ประกอบกับเรามีโครงการริเวียร่า ที่รัฐบาลเตรียมที่จะดำเนินการในฝั่งทะเลอ่าวไทย ประจวบ เพชรบุรี ดังนั้นจึงเป็นโอกาสเหมาะ ที่เราจะนำเสนอให้กับรัฐบาลฝรั่งเศสได้รับทราบ”
ล่าสุดสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) ได้แจ้งว่า รัฐบาลฝรั่งเศสได้มอบทุนจำนวน 20 ทุน ให้กับสมาคมโรงแรมไทย เพื่อให้ส่งบุคลากรไปฝึกอบรมที่ประเทศฝรั่งเศสเป็นเวลา 3 เดือน เพื่อนำความรู้ที่ได้มาเผยแพร่และพัฒนาบุคลากรโรงแรมที่อยู่ในประเทศไทยต่อไป โดยทุนที่ได้จะมีหลายแผนก เช่น เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่ประจำออฟฟิต เจ้าหน้าที่แผนกครัวและห้องอาหาร เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ในปี 2548 ที่ผ่านมา จำนวนตัวเลขนักท่องเที่ยวฝรั่งเศส ที่เข้ามาประเทศไทย ช่วง 11 เดือนแรก ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง สนามบินดอนเมือง มีจำนวนทั้งสิ้น 199,055 คน เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.16% แต่หากเป็นตัวเลขรวมจากทุกด่านตรงคนเข้าเมือง 6 เดือนแรกของปี 48 ชาวฝรั่งเศสเดินทางเข้าประเทศไทยรวม 121,447 คน เติบโต 1.75%
ทั้งนี้ กลุ่มนักท่องเที่ยวระดับตลาดบน ที่เข้ามาในประเทศไทย ยังมีสัดส่วนน้อยมากเมื่อเทียบกับระดับกลาง ดังนั้นจึงเป็นเป้าหมายหลัก ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จะขยายฐานตลาดนี้ให้เพิ่มมากขึ้น โดยเริ่มให้ความสนใจและศึกษาตลาดอย่างจริงจัง ซึ่งทางภาคเอกชนก็มีแนวคิดเดียวกันที่ว่า รัฐบาลโดยกระทรวงการท่องเที่ยว ควรที่จะให้ความสำคัญกับการเติบโตของรายได้ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมากกว่าปริมาณนักท่องเที่ยว เพราะหากมีจำนวนนักท่องเที่ยวที่พอเหมาะ เราก็ไม่สูญเสียทรัพยากรมาก ดังนั้นการเข้ามาของนักท่องเที่ยวระดับบนซึ่งมีค่าใช้จ่ายต่อคนต่อวันสูง จึงเป็นยุทธศาสตร์หนึ่งของททท.