ดูเม็กซ์ ตีกลองพร้อมรบ หลัง “รอยัล นิวมิโก้” เข้าซื้อกิจการ ระบุ ช่วยเสริมศักยภาพด้านเทคโนโลยีการผลิตและนวัตกรรมใหม่ๆ เผยเตรียมแตกไลน์สินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเด็ก โดยนำเข้าจากบริษัทแม่ นิวมิโก้ มั่นใจปีนี้เพิ่มส่วนแบ่งตลาดได้มากกว่า 30% ยอมรับตลาดนมผงปีนี้แข่งดุ อัด 20 ล้านเพิ่มอีเวนต์
นายคริสโตเฟอร์ สแตททรัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดูเม็กซ์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท รอยัล นิวมิโก้ ยักษ์ใหญ่อุตสาหกรรมนมผง และผลิตภัณฑ์อาหารเด็กของโลก จากเนเธอร์แลนด์ ได้เข้ามาซื้อกิจการของดูเม็กซ์โดยนิวมิโก้ มีจุดประสงค์ที่จะต้องการขยายตลาดเข้ามาในเอเชียเพิ่ม หลังครองอันดับหนึ่งของผลิตภัณฑ์นมผงในตลาดยุโรปมาแล้ว อย่างไรก็ตาม นิวมิโก้ จะยังใช้แบรนด์ดูเม็กซ์ทำตลาดในเอเชียเหมือนเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแบรนด์ เพราะ แบรนด์ดูเม็กซ์ ถือว่ามีความแข็งแกร่งในตลาดสำคัญๆ หลายแห่ง ทั้ง จีน ไทย มาเลเซีย
ทั้งนี้การเข้ามาซื้อกิจการของ นิวมิโก้ จะส่งผลดีต่อตัวบริษัทดูเม็กซ์ในแง่ของเทคโนโลยี และในอนาคตจะทำให้ ดูเม็กซ์ สามารถออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่เจาะตลาดผู้บริโภคได้ดีขึ้น โดยเฉพาะสินค้านมผง และนมกล่องยูเอชทีระดับสูง (พรีเมี่ยม) นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมที่จะนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารเด็กของ นิวมีโก้ มาจำหน่ายในประเทศไทย แต่จะใช้แบรนด์ของดูเม็กซ์เช่นเดิม
โดยตลอดปี 49 ดูเม็กซ์ยังคงวางเป้าหมายรักษาส่วนแบ่งการตลาดนมผงที่อันดับหนึ่งต่อไป โดยมียอดขายเติบโตเฉลี่ยเกิน 15% จากสินค้าระดับกลาง (สแตนดาร์ด) คือ ดูโกร และสินค้าระดับสูง (พรีเมี่ยม) คือ ไฮเม็กซ์ แต่คาดว่าแนวโน้มตลาดพรีเมี่ยมจะขยายตัวได้ดีกว่า เพราะแนวโน้มของผู้บริโภค พ่อ แม่ เด็กนิยมซื้อสินค้าราคาแพงขึ้นเพื่อให้ลูกรับโภชนาการที่ดีขึ้น และยังตั้งเป้าว่าจะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในปีนี้ให้มีมากกว่า 30% จากมูลค่าตลาดรวมนมผงที่กว่า 10,000 ล้านบาท
“ ตลาดผลิตภัณฆ์นมผงเด็ก ระดับสแตนดาร์ดในไทยมีมูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท ดูโกร มีส่วนแบ่งที่ 22.8% ในปีที่แล้ว และปีนี้คาดว่าดูโกร จะเติบโตขึ้นอีก 2% ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเติบโต คือ การที่บริษัทนำผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมแครอทเข้ามาทำตลาดเพิ่ม”
สำหรับตลาดนมยูเอชที ในกลุ่มเด็ก 1-10 ขวบ ดูเม็กซ์มีส่วนแบ่งการตลาด 40% เป็นที่หนึ่งเช่นกัน จากมูลค่าตลาดรวมกว่า 1,000 ล้านบาท โดยคู่แข่งในตลาดที่สำคัญอาทิ มีท แอน จอห์นสัน, เนสท์เล่ และวายเอ็ท เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าตลาดนมผงเด็กปีนี้ยังคงมีการแข่งขันที่รุนแรง แต่ก็ยังคาดว่าจะมีการเติบโตอีกราว 10-14% จากปีก่อน แม้ว่าจะเป็นอัตราเติบโตในสัดส่วนที่ลดลง เพราะปี 2548 ตลาดนมผงเด็กมีการเติบโตถึง 20% ดังนั้นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่บริษัทได้วางไว้เพื่อกระตุ้นการขาย ด้วยการจัดกิจกรรมสำหรับครอบครัว เพื่อสร้างความผูกพันระหว่างแบรนด์สินค้ากับผู้บริโภค
โดยในปีนี้ บริษัทตั้งงบส่งเสริมการตลาดและประชาสัมพันธ์ไว้ที่ 20 ล้านบาท โดยกิจกรรมที่จะทำได้แก่ จัดประกวด ดูโกร ซูเปอร์สตาร์ คอนเทสต์ 2006 เพื่อคัดเลือกพรีเซ็นเตอร์ถ่ายทำโฆษณาคนใหม่ด้วย คาดว่ากิจกรรมนี้ จะช่วยเพิ่มยอดขายให้บริษัทได้มาก