"โกกิ" เท 120 ล้านบาทผุดสร้างโรงงานแห่งใหม่ รับแผนขยายไลน์สินค้าครั้งแรกรอบ 30 ปี นำร่องลงตลาดเครื่องปรุงรส แป้งทอดเทมปุระ เล็งทุ่มอีก 40 ล้านบาทลงตลาดอาหารแช่แข็ง ชูความแข็งแกร่งแบรนด์โกกิลุยอาหารชุบแป้งทอด อัดงบตลาด 35 ล้านบาท ปั้นเครื่องปรุงรส 2 สูตรติดตลาด พร้อมปรับการสื่อสารใหม่เจาะกลุ่มแม่บ้านสมัยใหม่ สิ้นปีตั้งเป้าโต 10% กวาดรายได้ 300 ล้านบาท ครองแชร์ 80%
นายฉมาดล ชมเชิงแพทย์ รองประธานกรรมการและผู้อำนวยการผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท มาลินี ฟูดโปรดักส์ จำกัด ผู้ผลิตแป้งชุบทอด "โกกิ" กล่าวว่า บริษัทได้ทุ่มงบลงทุน 120 ล้านบาท สร้างโรงงานแห่งใหม่ ที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บนพื้นที่กว่า 4,000 ตารางเมตร โดยกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว หรือสามารถผลิตได้จาก 20 ตันต่อวันเป็น 40 ตันต่อวัน ทั้งนี้การลงทุนดังกล่าวเพื่อรองรับกับการขยายไลน์สินค้าใหม่ เช่น เครื่องปรุงรสชนิดผง ซุปไก่ผง ซุปเนื้อผง และกระเทียมผง ฯลฯรวมทั้งเพิ่มไลน์สินค้าในกลุ่มแป้งให้มีความหลากหลาย ได้แก่ แป้งทอดสไตล์อเมริกัน คาราเกะ แป้งทอดเทมปุระญี่ปุ่น ภายใต้บริษัทใหม่ คือ เอ็มแอนด์ อาร์ แลบบอเทอรรี จำกัด โดยโรงงานแห่งใหม่นี้คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเครื่องในเดือนเมษายนนี้
พร้อมกันนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็งในระหว่าง 6 เดือนนี้ ในเบื้องต้นคาดว่าจะต้องใช้งบลงทุนด้านเครื่องจักรเพิ่ม 30-40 ล้านบาท หรืออาจจะจ้างบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญผลิตสินค้าให้ ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวสินค้าในช่วงต้นปีหน้านี้ โดยบริษัทจะใช้อาหารแช่แข็งภายใต้แบรนด์"โกกิ" เพราะเป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งในเรื่องชุบแป้งทอด สอดคล้องกับอาหารแช่แข็งของบริษัทที่จะเน้นการสินค้ากลุ่มชุบแป้งทอดเป็นหลัก ซึ่งเป็นสินค้าที่ยังไม่มีผู้ประกอบการใดเข้ามาเล่นในตลาดดังกล่าว ทั้งนี้เหตุผลที่บริษัทขยายไลน์มาสู่กลุ่มอาหารแช่แข็ง เนื่องจากตลาดมีอัตราการเติบโตสูงและสอดคล้องกับไลฟ์ไสตล์ของผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ล่าสุดนำร่องด้วยการขยายไลน์ แป้งทอดกรอบพร้อมเครื่องปรุงรส 2 สูตร ได้แก่ เครื่องปรุงรสสูตรเผ็ด และเครื่องปรุงรสกระเทียมพริกไทย ส่วนแป้งคาราเกะ แป้งทอดเทมปุระญี่ปุ่นจะเปิดตัวปลายปีนี้ เบื้องต้นทุ่มงบการตลาด 35-40 ล้านบาท ประเดิมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาประชาสัมพันธ์ชุดใหม่ เพื่อปรับการสื่อสารเจาะกลุ่มแม่บ้านสมัยใหม่ที่ต้องการความสะดวดรวดเร็ว อีกทั้งได้เตรียมจัดอีเวนต์เพื่อสร้างการรับรู้ผลิตภัณฑ์ใหม่ตามซูเปอร์มาร์เก็ต การแจกสินค้าตัวอย่าง และเน้นให้ผู้บริโภคหันมาทำอาหารทานเองมากขึ้น เนื่องจากวิธีการทำที่ไม่ยุ่งยาก พร้อมทั้งในปลายปีนี้จะมีโครงการจัดชิงโชคให้ผู้บริโภคอีกด้วย ขณะเดียวกันบริษัทจะเน้นขยายช่องทางโรงแรม ร้านอาหาร และภัตรคารเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันมีประมาณ 3% ให้เพิ่มขึ้นเนื่องจากเป็นช่องทางที่มีอัตราการเติบโตสูง10-15% เมื่อเทียบการใช้ในครัวเรือนเติบโตน้อย
ทั้งนี้การขยายไลน์สินค้าใหม่ บริษัทจะเน้นทำตลาดทั้งในประเทศ โดยให้ความสำคัญกับช่องทางเทรดิชันนัลเทรด 80% ซึ่งให้บริษัท ดีทแฮล์ม จำกัด เป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าในส่วนนี้ ส่วนอีก 20% เป็นช่องทางโมเดิร์นเทรด ในขณะที่ตลาดต่างประเทศประเทศปีนี้จะเน้นขยายไปทำตลาดในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น จีน ตะวันออกกลาง และแอฟริกา เป็นต้น รวมถึงประเทศอื่นๆที่มีคนไทยอาศัยอยู่เช่น สหรัฐอเมริกา ,ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เป็นต้น เชื่อว่าจะสามารถกระตุ้นให้ยอดส่งออกในปีนี้เพิ่มจาก 10% ของรายได้ในปีที่ผ่านมา เป็น 30% ของรายได้ในปีนี้
ภาวะตลาดแป้งชุบทอดกรอบมูลค่า 600-700 ล้านบาทในประเทศเทศไทยอิ่มตัว ทั้งนี้เพราะครอบครัวคนรุ่นใหม่อาศัยอยู่ในเมือง ที่มีการประกอบอาหารร่วมกันน้อยลง โดยในปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโต 5-6% สำหรับปีนี้คาดว่าตลาดจะมีอัตราการเติบโต 10% หลังจากที่ผู้นำตลาดหรือโกกิออกมาเคลื่อนไหวทางการตลาดมากขึ้น อีกทั้งการเติบโตของตลาดยังมาจากสินค้ากลุ่มไฟติ้งแบรนด์มูลค่า 100 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มพ่อค้าแม่ค้านิยมใช้โดยคาดว่าปีนี้ตลาดไฟติ้งแบรนด์จะมีอัตราการเติบโต 10-15%
"ภาวะราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนบรรจุภัณฑ์เพิ่มขึ้น ทำให้ต้องมีการปรับราคาไปล่าสุด 50 สตางค์ต่อซอง ซึ่งถือว่ายังไม่ได้รองรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจริง ซึ่งหลังจากนี้ ยังมีปัจจัยลบด้านต้นทุนแป้งสาลี ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 10-20% ทำให้เราต้องเริ่มสต็อควัตถุดิบ เพื่อรองรับปัญหาดังกล่าว ซึ่งหากเพียงพอก็จะไม่ต้องขึ้นราคาเพราะเราพยายามแบกรับภาระต้นทุนดังกล่าว เพื่อไม่สร้างปัญหา แต่หากไม่เป็นเช่นนั้นต้องมีการพิจารณาอีกครั้ง" นายฉมาดลกล่าว
สำหรับผลประกอบการปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 10% หรือ 300 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นสินค้าใหม่ 10% จากเดิมยอดขายบริษัทมาจากแป้ง โกกิขนาด 150 กรัม คิดเป็น 82% รองลงมาคือ ขนาด 500 กรัม คิดเป็น 8% ,แป้งกุ้งทอง 2.6 กรัม โดยปัจจุบันโกกิ มีส่วนแบ่งตลาดแป้งชุบทอดกรอบ เป็นอันดับ 1 คิดเป็น 80%จากมูลค่าตลาดปัจจุบัน 600-700 ล้านบาท
นายฉมาดล ชมเชิงแพทย์ รองประธานกรรมการและผู้อำนวยการผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท มาลินี ฟูดโปรดักส์ จำกัด ผู้ผลิตแป้งชุบทอด "โกกิ" กล่าวว่า บริษัทได้ทุ่มงบลงทุน 120 ล้านบาท สร้างโรงงานแห่งใหม่ ที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บนพื้นที่กว่า 4,000 ตารางเมตร โดยกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว หรือสามารถผลิตได้จาก 20 ตันต่อวันเป็น 40 ตันต่อวัน ทั้งนี้การลงทุนดังกล่าวเพื่อรองรับกับการขยายไลน์สินค้าใหม่ เช่น เครื่องปรุงรสชนิดผง ซุปไก่ผง ซุปเนื้อผง และกระเทียมผง ฯลฯรวมทั้งเพิ่มไลน์สินค้าในกลุ่มแป้งให้มีความหลากหลาย ได้แก่ แป้งทอดสไตล์อเมริกัน คาราเกะ แป้งทอดเทมปุระญี่ปุ่น ภายใต้บริษัทใหม่ คือ เอ็มแอนด์ อาร์ แลบบอเทอรรี จำกัด โดยโรงงานแห่งใหม่นี้คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเครื่องในเดือนเมษายนนี้
พร้อมกันนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็งในระหว่าง 6 เดือนนี้ ในเบื้องต้นคาดว่าจะต้องใช้งบลงทุนด้านเครื่องจักรเพิ่ม 30-40 ล้านบาท หรืออาจจะจ้างบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญผลิตสินค้าให้ ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวสินค้าในช่วงต้นปีหน้านี้ โดยบริษัทจะใช้อาหารแช่แข็งภายใต้แบรนด์"โกกิ" เพราะเป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งในเรื่องชุบแป้งทอด สอดคล้องกับอาหารแช่แข็งของบริษัทที่จะเน้นการสินค้ากลุ่มชุบแป้งทอดเป็นหลัก ซึ่งเป็นสินค้าที่ยังไม่มีผู้ประกอบการใดเข้ามาเล่นในตลาดดังกล่าว ทั้งนี้เหตุผลที่บริษัทขยายไลน์มาสู่กลุ่มอาหารแช่แข็ง เนื่องจากตลาดมีอัตราการเติบโตสูงและสอดคล้องกับไลฟ์ไสตล์ของผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ล่าสุดนำร่องด้วยการขยายไลน์ แป้งทอดกรอบพร้อมเครื่องปรุงรส 2 สูตร ได้แก่ เครื่องปรุงรสสูตรเผ็ด และเครื่องปรุงรสกระเทียมพริกไทย ส่วนแป้งคาราเกะ แป้งทอดเทมปุระญี่ปุ่นจะเปิดตัวปลายปีนี้ เบื้องต้นทุ่มงบการตลาด 35-40 ล้านบาท ประเดิมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาประชาสัมพันธ์ชุดใหม่ เพื่อปรับการสื่อสารเจาะกลุ่มแม่บ้านสมัยใหม่ที่ต้องการความสะดวดรวดเร็ว อีกทั้งได้เตรียมจัดอีเวนต์เพื่อสร้างการรับรู้ผลิตภัณฑ์ใหม่ตามซูเปอร์มาร์เก็ต การแจกสินค้าตัวอย่าง และเน้นให้ผู้บริโภคหันมาทำอาหารทานเองมากขึ้น เนื่องจากวิธีการทำที่ไม่ยุ่งยาก พร้อมทั้งในปลายปีนี้จะมีโครงการจัดชิงโชคให้ผู้บริโภคอีกด้วย ขณะเดียวกันบริษัทจะเน้นขยายช่องทางโรงแรม ร้านอาหาร และภัตรคารเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันมีประมาณ 3% ให้เพิ่มขึ้นเนื่องจากเป็นช่องทางที่มีอัตราการเติบโตสูง10-15% เมื่อเทียบการใช้ในครัวเรือนเติบโตน้อย
ทั้งนี้การขยายไลน์สินค้าใหม่ บริษัทจะเน้นทำตลาดทั้งในประเทศ โดยให้ความสำคัญกับช่องทางเทรดิชันนัลเทรด 80% ซึ่งให้บริษัท ดีทแฮล์ม จำกัด เป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าในส่วนนี้ ส่วนอีก 20% เป็นช่องทางโมเดิร์นเทรด ในขณะที่ตลาดต่างประเทศประเทศปีนี้จะเน้นขยายไปทำตลาดในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น จีน ตะวันออกกลาง และแอฟริกา เป็นต้น รวมถึงประเทศอื่นๆที่มีคนไทยอาศัยอยู่เช่น สหรัฐอเมริกา ,ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เป็นต้น เชื่อว่าจะสามารถกระตุ้นให้ยอดส่งออกในปีนี้เพิ่มจาก 10% ของรายได้ในปีที่ผ่านมา เป็น 30% ของรายได้ในปีนี้
ภาวะตลาดแป้งชุบทอดกรอบมูลค่า 600-700 ล้านบาทในประเทศเทศไทยอิ่มตัว ทั้งนี้เพราะครอบครัวคนรุ่นใหม่อาศัยอยู่ในเมือง ที่มีการประกอบอาหารร่วมกันน้อยลง โดยในปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโต 5-6% สำหรับปีนี้คาดว่าตลาดจะมีอัตราการเติบโต 10% หลังจากที่ผู้นำตลาดหรือโกกิออกมาเคลื่อนไหวทางการตลาดมากขึ้น อีกทั้งการเติบโตของตลาดยังมาจากสินค้ากลุ่มไฟติ้งแบรนด์มูลค่า 100 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มพ่อค้าแม่ค้านิยมใช้โดยคาดว่าปีนี้ตลาดไฟติ้งแบรนด์จะมีอัตราการเติบโต 10-15%
"ภาวะราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนบรรจุภัณฑ์เพิ่มขึ้น ทำให้ต้องมีการปรับราคาไปล่าสุด 50 สตางค์ต่อซอง ซึ่งถือว่ายังไม่ได้รองรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจริง ซึ่งหลังจากนี้ ยังมีปัจจัยลบด้านต้นทุนแป้งสาลี ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 10-20% ทำให้เราต้องเริ่มสต็อควัตถุดิบ เพื่อรองรับปัญหาดังกล่าว ซึ่งหากเพียงพอก็จะไม่ต้องขึ้นราคาเพราะเราพยายามแบกรับภาระต้นทุนดังกล่าว เพื่อไม่สร้างปัญหา แต่หากไม่เป็นเช่นนั้นต้องมีการพิจารณาอีกครั้ง" นายฉมาดลกล่าว
สำหรับผลประกอบการปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 10% หรือ 300 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นสินค้าใหม่ 10% จากเดิมยอดขายบริษัทมาจากแป้ง โกกิขนาด 150 กรัม คิดเป็น 82% รองลงมาคือ ขนาด 500 กรัม คิดเป็น 8% ,แป้งกุ้งทอง 2.6 กรัม โดยปัจจุบันโกกิ มีส่วนแบ่งตลาดแป้งชุบทอดกรอบ เป็นอันดับ 1 คิดเป็น 80%จากมูลค่าตลาดปัจจุบัน 600-700 ล้านบาท