“เคเอฟซี”โวปีจอหวังโกยแชร์เพิ่มอีก 5% รุกตลาดหนัก ตั้งงบ 500 ล้านบาท เพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 40 สาขา เตรียมทุ่มงบกว่า 500 ล้านบาท ขยายลูกค้าวงกว้าง ป้อนพัฟกุ้งเจาะตลาดเพิ่มคาดยอดขายปีจอโตเพิ่ม10%
นางแววคนีย์ อัสโสรัตน์กุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด เคเอฟซี กล่าวว่า จากผลประกอบการที่ผ่านมาได้รับผลตอบรับที่ดีมาโดยตลอด โดยในปี 48 ที่ผ่านมานั้นได้เปิดสาขาใหม่เพิ่มขึ้นอีกทั้งหมด 26 สาขา โดยสาขาที่มียอดขายดีกว่าที่คาดการณ์คือ สาขาที่อ.แม่สาย โดยแผนการดำเนินงานในปี 2549 เคเอฟซีจะขยายฐานตลาดและสาขาให้มากขึ้นโดยวางแผนเบื้องต้นไว้ประมาณ 35-40 สาขา ตั้งเป้างบลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท มากกว่าปีที่แล้วเนื่องจากว่า เคเอฟซีมีการย้ายแทคโซนและรีเทล ทั้งนี้แผนการขยายสาขาเพิ่มนั้นหวังยอดโตขึ้นจากเดิมอีก 10% จะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดจากเดิมมี 44% เป็น 49% ทั้งนี้ กลุ่มเป้าหมาย เคเอฟซีมีอยู่ 3 กลุ่มหลักๆ 1.ครอบครัวมี 50% 2.กลุ่มคนทำงาน 25% 3.กลุ่มวัยรุ่น 15% และอื่นๆอีก10%
สำหรับกลยุทธ์ส่งเสริมการขายนั้นจะเน้นการสื่อสารกับผู้บริโภค ใช้ช่องทางผ่านสื่อผสมผสานทั้งหนังโฆษณา ใบปลิว ซึ่งจะเปลี่ยนข้อความในใบปลิวทุกๆ 6 เดือนรวมถึงสื่อในร้านและมีกิจกรรมประชาสัมพันธ์อยู่ทั้งปี
ล่าสุดเคเอฟซี แตกไลน์ส่ง “พัฟกุ้ง” เมนูโปรตีนซึ่งถือว่าเป็นนวัฒตกรรมใหม่ เป็นพัฟทำจากเนื้อกุ้งห่อหุ้มด้วยพัฟราดซอสเทาซันไอส์แลนด์สไตล์แคลิฟอเนียผสมทูน่าบด ซึ่งเมนู“พัฟกุ้ง”เคเอฟซีตั้งเป้าให้เป็นเมนูถาวร เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้ โดยเคเอฟซีคาดหวังว่า พัฟกุ้ง จะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเพราะจากการสำรวจตลาด ผู้บริโภคชอบทานกุ้งถึง 71% เชื่อว่าการส่งพัฟกุ้งจะสามรถกระตุ้นตลาดได้ดี อีกทั้งคาดว่าจะยังสามารถเพิ่มยอดขายให้กับเคเอฟซี 10% อย่างแน่นอน
ปัจจุบัน เคเอฟซี เป็นร้านไก่ทอดที่มีเครือข่ายมากที่สุดในโลก ด้วยจำนวนมากกว่า 10,000 ร้าน ในกว่า 80 ประเทศทั่วโลก เฉพาะในประเทศไทยมีร้าน เคเอฟซี ทั้งสิ้น 305 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯปริมณฑลและกว่า 56 จังหวัดทั่วประเทศ โดยตลาดรวมฟาสต์ฟู้ดนั้นเคเอฟซีครองส่วนแบ่งทางตลาดรวม 44% แมคโดนัลด์ 26% พิซซ่าฮัท10% พิซซ่าคอมปะนี 6% และอื่นๆ จากมูลค่ากว่า 13,000 ล้านบาท
นางแววคนีย์ อัสโสรัตน์กุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด เคเอฟซี กล่าวว่า จากผลประกอบการที่ผ่านมาได้รับผลตอบรับที่ดีมาโดยตลอด โดยในปี 48 ที่ผ่านมานั้นได้เปิดสาขาใหม่เพิ่มขึ้นอีกทั้งหมด 26 สาขา โดยสาขาที่มียอดขายดีกว่าที่คาดการณ์คือ สาขาที่อ.แม่สาย โดยแผนการดำเนินงานในปี 2549 เคเอฟซีจะขยายฐานตลาดและสาขาให้มากขึ้นโดยวางแผนเบื้องต้นไว้ประมาณ 35-40 สาขา ตั้งเป้างบลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท มากกว่าปีที่แล้วเนื่องจากว่า เคเอฟซีมีการย้ายแทคโซนและรีเทล ทั้งนี้แผนการขยายสาขาเพิ่มนั้นหวังยอดโตขึ้นจากเดิมอีก 10% จะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดจากเดิมมี 44% เป็น 49% ทั้งนี้ กลุ่มเป้าหมาย เคเอฟซีมีอยู่ 3 กลุ่มหลักๆ 1.ครอบครัวมี 50% 2.กลุ่มคนทำงาน 25% 3.กลุ่มวัยรุ่น 15% และอื่นๆอีก10%
สำหรับกลยุทธ์ส่งเสริมการขายนั้นจะเน้นการสื่อสารกับผู้บริโภค ใช้ช่องทางผ่านสื่อผสมผสานทั้งหนังโฆษณา ใบปลิว ซึ่งจะเปลี่ยนข้อความในใบปลิวทุกๆ 6 เดือนรวมถึงสื่อในร้านและมีกิจกรรมประชาสัมพันธ์อยู่ทั้งปี
ล่าสุดเคเอฟซี แตกไลน์ส่ง “พัฟกุ้ง” เมนูโปรตีนซึ่งถือว่าเป็นนวัฒตกรรมใหม่ เป็นพัฟทำจากเนื้อกุ้งห่อหุ้มด้วยพัฟราดซอสเทาซันไอส์แลนด์สไตล์แคลิฟอเนียผสมทูน่าบด ซึ่งเมนู“พัฟกุ้ง”เคเอฟซีตั้งเป้าให้เป็นเมนูถาวร เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้ โดยเคเอฟซีคาดหวังว่า พัฟกุ้ง จะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเพราะจากการสำรวจตลาด ผู้บริโภคชอบทานกุ้งถึง 71% เชื่อว่าการส่งพัฟกุ้งจะสามรถกระตุ้นตลาดได้ดี อีกทั้งคาดว่าจะยังสามารถเพิ่มยอดขายให้กับเคเอฟซี 10% อย่างแน่นอน
ปัจจุบัน เคเอฟซี เป็นร้านไก่ทอดที่มีเครือข่ายมากที่สุดในโลก ด้วยจำนวนมากกว่า 10,000 ร้าน ในกว่า 80 ประเทศทั่วโลก เฉพาะในประเทศไทยมีร้าน เคเอฟซี ทั้งสิ้น 305 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯปริมณฑลและกว่า 56 จังหวัดทั่วประเทศ โดยตลาดรวมฟาสต์ฟู้ดนั้นเคเอฟซีครองส่วนแบ่งทางตลาดรวม 44% แมคโดนัลด์ 26% พิซซ่าฮัท10% พิซซ่าคอมปะนี 6% และอื่นๆ จากมูลค่ากว่า 13,000 ล้านบาท