“ทศภาค” ฉวยโอกาสเป็นผู้รับสิทธิ์ถ่ายทอดฟุตบอล 2006 ผุดแผนปั้นอิมเมจทศภาคติดลมบน หวังอานิสงส์ทางอ้อมตอกย้ำกลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง-ภาพลักษณ์ตราสินค้าเบียร์ช้าง ประเดิมขายโฆษณาเดือนกุมภาพันธ์ รายได้ปีนี้ขยับเฉียด 600-700 ล้านบาท
นายธนิต ธรรมสุคติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทศภาค จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจด้านลิขสิทธิ์กีฬา หนึ่งบริษัทในเครือ ไทยเบฟเบอร์เรจส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ ”ผู้จัดการรายวัน” ว่า การแข่งขันฟุตบอลโลก2006 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในระหว่างวันที่ 9 มิถุนายน- 9 กรกฎาคม โดยมีประเทศเยอรมันเป็นเจ้าภาพ ซึ่งทศภาคได้ซื้อลิขสิทธิ์และได้รับการถ่ายทอดแต่เพียงผู้เดียว โดยจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้กับทางฟีฟ่า แบ่งเป็นงวดตามที่ตกลงกันไว้ราว 180 ล้านบาทต่อปี จนกระทั่งถึงปี 2549 ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ บริษัทฯจะเริ่มเปิดขายโฆษณา ซึ่งจะเปิดรับกลุ่มสินค้าทุกหมวด
แหล่งข่าวจากบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด เปิดเผยกับ ”ผู้จัดการรายวัน” ว่า เชื่อว่าทศภาคคงจะต้องมีแผนการประชาสัมพันธ์เชิงรุกในช่วงที่มีการแข่งขันฟุตบอล 1 เดือนอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในเชิงภาพลักษณ์ของทศภาค เนื่องจากปัจจุบันผู้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ส่วนใหญ่เข้าใจดีว่าบริษัท”ทศภาค” หรือผู้ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับด้านซื้อขายลิขสิทธิ์กีฬา ก็คือผู้ดำเนินธุรกิจเบียร์ช้าง เพราะกลยุทธ์การทำตลาดที่ผ่านมาบริษัทได้เน้นประชาสัมพันธ์ทศภาคกับเบียร์ช้างมาโดยตลอด ขณะที่ตัวเบียร์ช้างก็เน้นกลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง หรือสนับสนุนกีฬาฟุตบอล
“ทศภาค เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเอเจนซี โฆษณาประชาสัมพันธ์ อีเวนต์และกีฬา ภายใต้บริษัทในเครือไทยเบฟเวอร์เรจ 47 บริษัท จะถูกป้อนมาให้บริษัท ทศภาค เราจึงคิดว่าสามารถใช้ชื่อนี้ประชาสัมพันธ์ในช่วงฟุตบอลโลก 2006 ได้ และไม่ผิดมาตรการของภาครัฐที่วางแนวทาง ห้ามแสดงผลิตภัณฑ์ ชื่อผลิตภัณฑ์ ชื่อผู้ผลิตในสื่อทุกชนิด อย่างไรก็ตามเราคิดว่าเบียร์ช้างอาจจะได้รับอานิสงส์ในเรื่องของภาพลักษณ์บ้างแต่ไม่มากนัก”
ปัจจุบันบริษัท ทศภาคมีเงินทุนจดทะเบียน 25 ล้านบาท และในช่วงต้นปี 2548 ได้ปรับโครงสร้างใหม่ เนื่องจากในช่วงปี 2546-2547 ประสบกับภาวะขาดทุนมาโดยตลอด โดยการปรับโครงสร้างใหม่เน้นรับงานภายนอกมากขึ้นในสัดส่วน 20% และงานภายในองค์กร 80% จะแบ่งเป็น งานกีฬา 70 % อีเวนต์ 20% ที่เหลือ 10% งานด้านโฆษณาและประชาสัมพันธ์
สำหรับผลประกอบการในปี 2547 ทศภาคมีบิลลิ่ง 200 ล้านบาท แต่หากในระหว่างปีนั้นมีการแข่งขันฟุตบอลโลก รายได้จะพุ่งถึง 600-700 ล้านบาท โดยการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกปี 2006 ที่กำลังจะเกิดขึ้น จะไม่มีโฆษณาคั่น จะมีเฉพาะระหว่างการพักการแข่งขัน ซึ่งช่อง 3,5,7,9,11 และไอทีวี เป็นสถานีหลักในการถ่ายทอดสดการแข่งขัน
นายธนิต ธรรมสุคติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทศภาค จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจด้านลิขสิทธิ์กีฬา หนึ่งบริษัทในเครือ ไทยเบฟเบอร์เรจส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ ”ผู้จัดการรายวัน” ว่า การแข่งขันฟุตบอลโลก2006 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในระหว่างวันที่ 9 มิถุนายน- 9 กรกฎาคม โดยมีประเทศเยอรมันเป็นเจ้าภาพ ซึ่งทศภาคได้ซื้อลิขสิทธิ์และได้รับการถ่ายทอดแต่เพียงผู้เดียว โดยจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้กับทางฟีฟ่า แบ่งเป็นงวดตามที่ตกลงกันไว้ราว 180 ล้านบาทต่อปี จนกระทั่งถึงปี 2549 ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ บริษัทฯจะเริ่มเปิดขายโฆษณา ซึ่งจะเปิดรับกลุ่มสินค้าทุกหมวด
แหล่งข่าวจากบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด เปิดเผยกับ ”ผู้จัดการรายวัน” ว่า เชื่อว่าทศภาคคงจะต้องมีแผนการประชาสัมพันธ์เชิงรุกในช่วงที่มีการแข่งขันฟุตบอล 1 เดือนอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในเชิงภาพลักษณ์ของทศภาค เนื่องจากปัจจุบันผู้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ส่วนใหญ่เข้าใจดีว่าบริษัท”ทศภาค” หรือผู้ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับด้านซื้อขายลิขสิทธิ์กีฬา ก็คือผู้ดำเนินธุรกิจเบียร์ช้าง เพราะกลยุทธ์การทำตลาดที่ผ่านมาบริษัทได้เน้นประชาสัมพันธ์ทศภาคกับเบียร์ช้างมาโดยตลอด ขณะที่ตัวเบียร์ช้างก็เน้นกลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง หรือสนับสนุนกีฬาฟุตบอล
“ทศภาค เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเอเจนซี โฆษณาประชาสัมพันธ์ อีเวนต์และกีฬา ภายใต้บริษัทในเครือไทยเบฟเวอร์เรจ 47 บริษัท จะถูกป้อนมาให้บริษัท ทศภาค เราจึงคิดว่าสามารถใช้ชื่อนี้ประชาสัมพันธ์ในช่วงฟุตบอลโลก 2006 ได้ และไม่ผิดมาตรการของภาครัฐที่วางแนวทาง ห้ามแสดงผลิตภัณฑ์ ชื่อผลิตภัณฑ์ ชื่อผู้ผลิตในสื่อทุกชนิด อย่างไรก็ตามเราคิดว่าเบียร์ช้างอาจจะได้รับอานิสงส์ในเรื่องของภาพลักษณ์บ้างแต่ไม่มากนัก”
ปัจจุบันบริษัท ทศภาคมีเงินทุนจดทะเบียน 25 ล้านบาท และในช่วงต้นปี 2548 ได้ปรับโครงสร้างใหม่ เนื่องจากในช่วงปี 2546-2547 ประสบกับภาวะขาดทุนมาโดยตลอด โดยการปรับโครงสร้างใหม่เน้นรับงานภายนอกมากขึ้นในสัดส่วน 20% และงานภายในองค์กร 80% จะแบ่งเป็น งานกีฬา 70 % อีเวนต์ 20% ที่เหลือ 10% งานด้านโฆษณาและประชาสัมพันธ์
สำหรับผลประกอบการในปี 2547 ทศภาคมีบิลลิ่ง 200 ล้านบาท แต่หากในระหว่างปีนั้นมีการแข่งขันฟุตบอลโลก รายได้จะพุ่งถึง 600-700 ล้านบาท โดยการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกปี 2006 ที่กำลังจะเกิดขึ้น จะไม่มีโฆษณาคั่น จะมีเฉพาะระหว่างการพักการแข่งขัน ซึ่งช่อง 3,5,7,9,11 และไอทีวี เป็นสถานีหลักในการถ่ายทอดสดการแข่งขัน