“ยูนิลีเวอร์” ฉวยโอกาสเข้ายุคแม่บ้านยอดประหยัด รีลอนช์”เซิร์บ”สูตรใหม่ ไลม์เฟรช สร้างผงซักฟอกขาที่สามโกยส่วนแบ่งคอปอร์เรตเพิ่ม พร้อมเร่งขยายพื้นที่ชั้นวาง ปิดทางพีแอนด์จีผู้เล่นมือใหม่ เตรียมปั้น”เพค”ลงไตรมาสสอง ไลอ้อนชู“โปร”สูตรใหม่พลังนีโอคลีนต่อกร
แหล่งข่าวจากบริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผงซักฟอกบรีส โอโม และเซิร์บ เปิดเผยกับ ”ผู้จัดการรายวัน” ว่า บริษัทได้รีลอนช์ผงซักฟอก”เซิร์บ” โดยได้ปรับสูตรใหม่”ไลม์เฟรช” เพิ่มกลิ่นหอมมะนาว พร้อมทั้งปรับบรรจุภัณฑ์ใหม่ลงสู่ตลาดในช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยในช่วงแนะนำขนาด 4,200 กรัม จำหน่ายในราคา 107 บาท จากปกติ 111 บาท ซึ่งนับเป็นการเคลื่อนไหวของเซิร์บผงซักฟอกไฟติ้งแบรนด์ของยูนีลีเวอร์ในรอบหลายปี จากที่ผ่านมาการทำตลาดของเซิร์บไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหวหรือทำตลาดอย่างจริงจัง โดยมีไว้เพื่อรองรับความต้องการผู้บริโภคระดับล่างเท่านั้น
อย่างไรก็ตามการรีลอนช์ผงซักฟอกเซิร์บเป็นเรื่องที่ไม่แปลก ที่ลีเวอร์ฯจะเริ่มสร้างผงซักฟอกขาที่สามลุยในช่วงกำลังการซื้อของคนส่วนใหญ่ที่ลดลง จากปัจจุบันลีเวอร์มีผงซักฟอก 2 ตัวที่มีความแข็งแกร่ง อย่าง”บรีส”และ”โอโม” โดยจากข้อมูลส่วนแบ่งตลาดเอซีนีลเส็นจบปี 2548 บรีสครองส่วนแบ่งถึง 45.6% เมื่อเทียบกับปีที่ 2547 มี 47.7% ลดลงไปเพียงเล็กน้อย ส่วนโอโมผงซักฟอกซักผ้าขาวซึ่งเป็นขาที่สองของลีเวอร์ฯ มีส่วนแบ่งถึง 18.2% เมื่อเทียบปี 2547 มี 17.5%
การที่ยักษ์ใหญ่อย่าง”ยูนิลีเวอร์”ลงมาเล่นผงซักฟอกไฟติ้งแบรนด์ ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะกำลังซื้อของคนที่ลดลง พฤติกรรมของแม่บ้านที่มีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น โดยในปีที่ผ่านมากลุ่มน้ำยาล้างจาน และผงซักฟอกมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 10% เป็น 20%ของตลาดรวม ตัวเลขการขยายตัวที่เพิ่มขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา ประกอบกับในตลาดยังไม่มีผู้เล่นทำตลาดอย่างจริงจัง ยูนิลีเวอร์จึงใช้โอกาสนี้ในการขยายตลาด เพื่อสร้างส่วนแบ่งตลาดโดยรวมให้เพิ่มมากขึ้น จากในปี 2548 ส่วนแบ่งโดยรวมในกลุ่มผงซักฟอกลีเวอร์ฯ มี 64.1% ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 2547 มี 65.3%
แม้ว่าตลาดผงซักฟอกไฟติ้งแบรนด์เป็นตลาดที่ไม่ใหญ่มีสัดส่วนประมาณ 6 % ของมูลค่าตลาด 11,120 ล้านบาท แต่การที่ยูนิลีเวอร์จุดพลุผงซักฟอกไฟติ้งแบรนด์”เซิร์บ”เชื่อว่าผู้เล่นรายอื่นๆที่มีอยู่ในตลาด ก็คงทำตลาดในเชิงรุกมากขึ้น ในขณะที่พีแอนด์จีคู่ชกที่ดูเหมือนจะสมน้ำสมเนื้อกับยูนิลีเวอร์มากที่สุด หลังจากได้ตกลงซื้อตราสินค้า 4 แบรนด์จาก บริษัท คอลเกต-ปาล์มโอลีฟ สองในสี่แบรนด์นั้นก็คือ ผงซักฟอกแฟ้บ และผงซักฟอกไฟติ้งแบรนด์”เพค” โดยพีแอนด์จีจะเริ่มทำตลาดกลุ่มผงซักฟอกในไตรมาสสองของปีนี้ ทั้งนี้ก่อนหน้าที่เพคอยู่ภายใต้เงื้อมมือคอลเกต-ปาล์มโอลีฟ เพคมีจุดขายคือกลิ่นมะนาวเหมือนกับเซิร์บสูตรใหม่ไลม์ เฟรช
ด้านสองค่ายญี่ปุ่น “คาโอฯ” ซึ่งปัจจุบันก็มีผงซักฟอกไฟติ้งแบรนด์”บิ๊ก” นอกเหนือจากแอทแทค ส่วนค่ายไลอ้อนเป็นอีกหนึ่งค่ายที่น่าจับตามองมากที่สุด เพราะโปรเป็นผงซักฟอกที่มีส่วนแบ่งมากที่สุดในบรรดากลุ่มผงซักฟอกไฟติ้งแบรนด์ ครองส่วนแบ่ง 3% รองลงมา เพค 1.5% เซิร์บ 1.1%บิ๊ก 0.1% โดยนายบุญฤทธิ์ มหามนตรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไลอ้อน ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า โปรเพิ่งปรับสูตรใหม่”พลังนีโอคลีน”สูตรเดียวกับเปา แต่ผงซักฟอกโปรจะเน้น เพิ่มพลังความหอมและสโลแกน”หอมเกินค่า สะอาดเกินคุ้ม ราคาถูก” ขนาด 4,500 กรัม ราคา 135 บาท เมื่อเทียบกับเปาหรือสินค้าระดับพรีเมียมในเครือของบริษัท ขนาด 4,500 กรัม ราคา 185 บาท
แหล่งข่าววงการอุปโภคบริโภค เปิดเผยกับ”ผู้จัดการรายวัน”ว่า แนวทางในการทำตลาดของสินค้าไฟติ้งแบรนด์ของกลุ่มซัปพลายเออร์ ในช่วงนี้อาจจะมีการขยายพื้นที่ชั้นวางสินค้าเพิ่มขึ้นจาก 10% เป็น 20% ส่วนสินค้าปกติจาก 90% เหลือ 80% รวมทั้งการจัดกิจกรรมเพื่อสร้างการรับรู้ ขยายมาสู่กลุ่มคนเมืองหรือในบริเวณกรุงเทพและปริมณฑลมากขึ้น จากปัจจุบันการทำตลาดไฟติ้งแบรนด์ส่วนใหญ่จะเน้นพื้นที่ตลาดต่างจังหวัดเป็นหลัก ซึ่งล่าสุดยูนิลีเวอร์เริ่มขยายชั้นวางเซิร์บ โดยร่วมจัดวางกับสินค้าที่จัดรายการส่งเสริมการขาย”4 เกลอ เจอแล้วเฮง” บรีส โอโม คอมฟอร์ด และซันไลต์ ทั้งนี้ให้เพื่อสินค้าดูเด่นและสะดุดตามากยิ่งขึ้น
แหล่งข่าวจากบริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผงซักฟอกบรีส โอโม และเซิร์บ เปิดเผยกับ ”ผู้จัดการรายวัน” ว่า บริษัทได้รีลอนช์ผงซักฟอก”เซิร์บ” โดยได้ปรับสูตรใหม่”ไลม์เฟรช” เพิ่มกลิ่นหอมมะนาว พร้อมทั้งปรับบรรจุภัณฑ์ใหม่ลงสู่ตลาดในช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยในช่วงแนะนำขนาด 4,200 กรัม จำหน่ายในราคา 107 บาท จากปกติ 111 บาท ซึ่งนับเป็นการเคลื่อนไหวของเซิร์บผงซักฟอกไฟติ้งแบรนด์ของยูนีลีเวอร์ในรอบหลายปี จากที่ผ่านมาการทำตลาดของเซิร์บไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหวหรือทำตลาดอย่างจริงจัง โดยมีไว้เพื่อรองรับความต้องการผู้บริโภคระดับล่างเท่านั้น
อย่างไรก็ตามการรีลอนช์ผงซักฟอกเซิร์บเป็นเรื่องที่ไม่แปลก ที่ลีเวอร์ฯจะเริ่มสร้างผงซักฟอกขาที่สามลุยในช่วงกำลังการซื้อของคนส่วนใหญ่ที่ลดลง จากปัจจุบันลีเวอร์มีผงซักฟอก 2 ตัวที่มีความแข็งแกร่ง อย่าง”บรีส”และ”โอโม” โดยจากข้อมูลส่วนแบ่งตลาดเอซีนีลเส็นจบปี 2548 บรีสครองส่วนแบ่งถึง 45.6% เมื่อเทียบกับปีที่ 2547 มี 47.7% ลดลงไปเพียงเล็กน้อย ส่วนโอโมผงซักฟอกซักผ้าขาวซึ่งเป็นขาที่สองของลีเวอร์ฯ มีส่วนแบ่งถึง 18.2% เมื่อเทียบปี 2547 มี 17.5%
การที่ยักษ์ใหญ่อย่าง”ยูนิลีเวอร์”ลงมาเล่นผงซักฟอกไฟติ้งแบรนด์ ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะกำลังซื้อของคนที่ลดลง พฤติกรรมของแม่บ้านที่มีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น โดยในปีที่ผ่านมากลุ่มน้ำยาล้างจาน และผงซักฟอกมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 10% เป็น 20%ของตลาดรวม ตัวเลขการขยายตัวที่เพิ่มขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา ประกอบกับในตลาดยังไม่มีผู้เล่นทำตลาดอย่างจริงจัง ยูนิลีเวอร์จึงใช้โอกาสนี้ในการขยายตลาด เพื่อสร้างส่วนแบ่งตลาดโดยรวมให้เพิ่มมากขึ้น จากในปี 2548 ส่วนแบ่งโดยรวมในกลุ่มผงซักฟอกลีเวอร์ฯ มี 64.1% ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 2547 มี 65.3%
แม้ว่าตลาดผงซักฟอกไฟติ้งแบรนด์เป็นตลาดที่ไม่ใหญ่มีสัดส่วนประมาณ 6 % ของมูลค่าตลาด 11,120 ล้านบาท แต่การที่ยูนิลีเวอร์จุดพลุผงซักฟอกไฟติ้งแบรนด์”เซิร์บ”เชื่อว่าผู้เล่นรายอื่นๆที่มีอยู่ในตลาด ก็คงทำตลาดในเชิงรุกมากขึ้น ในขณะที่พีแอนด์จีคู่ชกที่ดูเหมือนจะสมน้ำสมเนื้อกับยูนิลีเวอร์มากที่สุด หลังจากได้ตกลงซื้อตราสินค้า 4 แบรนด์จาก บริษัท คอลเกต-ปาล์มโอลีฟ สองในสี่แบรนด์นั้นก็คือ ผงซักฟอกแฟ้บ และผงซักฟอกไฟติ้งแบรนด์”เพค” โดยพีแอนด์จีจะเริ่มทำตลาดกลุ่มผงซักฟอกในไตรมาสสองของปีนี้ ทั้งนี้ก่อนหน้าที่เพคอยู่ภายใต้เงื้อมมือคอลเกต-ปาล์มโอลีฟ เพคมีจุดขายคือกลิ่นมะนาวเหมือนกับเซิร์บสูตรใหม่ไลม์ เฟรช
ด้านสองค่ายญี่ปุ่น “คาโอฯ” ซึ่งปัจจุบันก็มีผงซักฟอกไฟติ้งแบรนด์”บิ๊ก” นอกเหนือจากแอทแทค ส่วนค่ายไลอ้อนเป็นอีกหนึ่งค่ายที่น่าจับตามองมากที่สุด เพราะโปรเป็นผงซักฟอกที่มีส่วนแบ่งมากที่สุดในบรรดากลุ่มผงซักฟอกไฟติ้งแบรนด์ ครองส่วนแบ่ง 3% รองลงมา เพค 1.5% เซิร์บ 1.1%บิ๊ก 0.1% โดยนายบุญฤทธิ์ มหามนตรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไลอ้อน ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า โปรเพิ่งปรับสูตรใหม่”พลังนีโอคลีน”สูตรเดียวกับเปา แต่ผงซักฟอกโปรจะเน้น เพิ่มพลังความหอมและสโลแกน”หอมเกินค่า สะอาดเกินคุ้ม ราคาถูก” ขนาด 4,500 กรัม ราคา 135 บาท เมื่อเทียบกับเปาหรือสินค้าระดับพรีเมียมในเครือของบริษัท ขนาด 4,500 กรัม ราคา 185 บาท
แหล่งข่าววงการอุปโภคบริโภค เปิดเผยกับ”ผู้จัดการรายวัน”ว่า แนวทางในการทำตลาดของสินค้าไฟติ้งแบรนด์ของกลุ่มซัปพลายเออร์ ในช่วงนี้อาจจะมีการขยายพื้นที่ชั้นวางสินค้าเพิ่มขึ้นจาก 10% เป็น 20% ส่วนสินค้าปกติจาก 90% เหลือ 80% รวมทั้งการจัดกิจกรรมเพื่อสร้างการรับรู้ ขยายมาสู่กลุ่มคนเมืองหรือในบริเวณกรุงเทพและปริมณฑลมากขึ้น จากปัจจุบันการทำตลาดไฟติ้งแบรนด์ส่วนใหญ่จะเน้นพื้นที่ตลาดต่างจังหวัดเป็นหลัก ซึ่งล่าสุดยูนิลีเวอร์เริ่มขยายชั้นวางเซิร์บ โดยร่วมจัดวางกับสินค้าที่จัดรายการส่งเสริมการขาย”4 เกลอ เจอแล้วเฮง” บรีส โอโม คอมฟอร์ด และซันไลต์ ทั้งนี้ให้เพื่อสินค้าดูเด่นและสะดุดตามากยิ่งขึ้น