โรบินสันประเมินค้าปลีกปีนี้แข่งดุ ยันไม่หวั่น แต่ไม่นิ่งเฉย ทุ่มงบตลาด 260 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% รับมือ พร้อมหว่านงบ 300 ล้านบาททรีโนเวตสาขาเก่า แย้มปลายปีนี้ผุดสาขาใหม่อีกแห่ง จับมือเจเนอรัลคาร์ดเซอร์วิสเซสเปิดตัวบัตรใหม่กระตุ้นยอดขายจากบัตรอีก 10%
นายปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธุรกิจค้าปลีกปีนี้แข่งขันรุนแรงมากขึ้นในภาพรวม โดยจากการเปิดตัวของสยามพารากอน ส่วนในย่านรัชดาภิเษกนี้จะมีโครงการใหม่คือ เอสพลานาด เปิดตัวปีนี้ แต่คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อโรบินสันเท่าใดนัก แต่เป็นการกระตุ้นตลาดให้เติบโตมากขึ้น และโรบินสันมีแผนจะเปิดสาขาเพิ่มอีก 1 แห่งในปลายปีนี้ด้วยเพื่อขยายตลาดของโรบินสันเองด้วย
“เศรษฐกิจในปีนี้แม้ว่าหลายฝ่ายจะมองว่ายังไม่ดีเท่าใดนัก แต่คาดว่าน่าจะดีกว่าปีที่ผ่านมาที่มีหลายปัญหาทั้งเงินเฟ้อ ดอกเบี้ยสูงขึ้น ราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นตลอด ซึ่งส่งผลอย่างรุนแรงต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค ทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่าย สิ่งนี้น่าจะเป็นผลดีต่อโรบินสันที่จำหน่ายสินค้าราคาไม่สูง เจาะกลุ่มผู้บริโภคระดับกลางเป็นหลักทั้งนี้แนวทางการทำตลาดจะเน้นการนำเข้าสินค้าใหม่ๆ แบรนด์ใหม่ๆเข้ามาทำตลาด”
อย่างไรก็ตาม ปีนี้โรบินสันตั้งงบประมาณลงทุนไว้สูงถึง 560 ล้านบาท เพื่อรองรับการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะงบการตลาดที่จะใช้ 260 ล้านบาท มากกว่าปีที่ผ่านมาประมาณ 25% จะเน้นการจัดอีเว้นท์ทุกไตรมาสและขยายในตลาดต่างจังหวัดด้วย แม้การแข่งขันจะไม่รุนแรงเท่ากับกรุงเทพฯแต่เนื่องจากว่า สัดส่วนยอดขายของโรบินสัน จากกรุงเทพฯและต่างจังหวัดเท่ากัน จาก 9 สาขา จึงต้องเน้นตลาดเหมือนกัน
ขณะที่งบประมาณอีก 300 ล้านบาท จะนำไปใช้ในการปรับปรุงสาขาเก่า โดยดำเนินการต่อเนื่องจากปีที่แล้วที่ปรับปรุงไปหลายสาขาแล้ว ซึ่งสาขาใหม่ที่จะปรับปีนี้คือ ศรีนครินทร์และเชียงใหม่ ส่วนสาขาที่ปรับบางส่วนเช่น รัชดาภิเษก รัตนาธิเบศร์ รังสิต ภูเก็ต
โดยปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าหมายการเติบโตด้านรายได้มากกว่า 7% จากปีที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าระดับของตลาดค้าปลีกที่คาดว่าจะโต 6% ซึ่งช่วง 9 เดือนแรกปีที่แล้วโรบินสันมีรายได้เติบโต 9% คาดว่าทั้งปีจะเติบโตประมาณ 6%
ล่าสุดได้ร่วมมือกับบริษัท เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส จำกัด เปิดตัวบัตรเครดิต “โรบินสัน วีซ่า คาร์ด” ภายใต้คอนเซ็ป “ บวกความสุขเกินคาด” เพื่อขยายฐานลูกค้าบัตรสมาชิก โรบินสัน เมมเบอร์คลับ เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่โดยได้รับส่วนลด 5% เมื่อซื้อสินค้าจากโรบินสัน และยังได้สะสมแต้มทุก 25 บาทของการจ่าย เพื่อแลกของรางวัล ,สิทธิพิเศษระบบการผ่อนน้อยผ่อนนาน หรือซื้อก่อนผ่อนทีหลัง และสาวนลด 30% ในเดือนเกิด เป็นต้น โดยแบ่งเป็นบัตรเป็น 2 ระดับ คือ บัตรคลาสสิคดำ (Class Card) สำหรับผู้มีรายได้ 15,000 บาท ขึ้นไป บัตรโกลด์ การ์ด (Gold Card) สำหรับผู้มีรายได้ 20,000 บาท ขึ้นไปและบัตรเสริมสำหรับผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ซึ่งเตรียมงบกว่า 50 ล้านบาททำการตลาดแบบครบวงจร จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ก.พ.นี้ คาดว่าในปีแรกจะมีสมาชิกไม่ต่ำกว่า 1 แสนราย และกระตุ้นยอดขายในส่วนการสมาชิกผู้ถือบัตรเอกสิทธิ์ได้มากกว่า 10% จากที่ผ่านมา บริษัทฯมีรายได้จากจากลูกค้าผู้ถือบัตร 45% และเป็นลูกค้าเงินสด 55% คิดเป็น 1.3 ล้านราย เติบโตจากปี 2547 กว่า 7% แบ่งเป็น ช่วงอายุ 25-34 ปี 40% อายุ35-44 ปี 35% อายุ 18-24 ปี 20% โดยมีลูกค้าที่มียอดซื้อเคลื่อนไหวกว่า 6 แสนคน
