xs
xsm
sm
md
lg

เอาท์ดอร์ฯ บุกแฟชั่นแอดเวนเจอร์ ลุยตลาดไทย-เทศกวาด40ล.ปีแรก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอาท์ดอร์ อินโนเวชั่น ปั้นนวัตกรรมใหม่” โคลด์ฟิวชั่น” เสื้อผ้าไร้รอยเย็บของเข็มและด้าย เจาะตลาดเสื้อผ้าแนวเอาท์ดอร์ ทุ่มงบ 20 ล้านบาท ประเดิมเปิดตัวคอลเลกชั่น”E3” 6 ดีไซน์ ชูกลยุทธ์ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ลุยตลาดในและต่างประเทศ ปีแรกกวาดยอดขาย 40 ล้านบาท  

นายวาสิต สิโรดม
กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอาท์ดอร์ อินโนเวชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเสื้อผ้า –อุปกรณ์เพื่อการท่องเที่ยว และกีฬาแนวเอาท์ดอร์-แอดเวนเจอร์แบรนด์”อีควินอกซ์ เอ็กซ์ตรีม เปิดเผยว่า พฤติกรรมของคนไทยเริ่มเปลี่ยนแปลงไป โดยมีไลฟ์สไตล์แนวเอาท์ดอร์เพิ่มมากขึ้น สังเกตุได้จากการท่องเที่ยวในแนวผจญที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก เช่น การปีนหน้าผา กิจกรรมแคมป์ปิ้ง ฯลฯ ส่งผลให้ตลาดสินค้าเอาท์ดอร์มูลค่า 500 ล้านบาท ในแต่ละปีมีอัตราการเติบโตถึง 20% พร้อมกันนี้ยังได้เกิดเซกเมนต์ใหม่ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมานี้ คือ เสื้อผ้าแนวเอาท์ดอร์  

ล่าสุดบริษัทได้เปิดนวัตกรรมใหม่ในอุตสาหกรรมเสื้อผ้าแนวแอดเวนเจอร์ “E3” คอลเลกชั่นแรกของโลกที่สามารถผลิตเสื้อผ้าโดยปราศจากรอยเย็บของเข็มและด้าย ภายใต้นวัตกรรมเรียกว่า KoldFusion กระบวนตัดเย็บเสื้อผ้าโดยการเชื่อมผ้า 2 ชิ้นด้วยเลเซอร์ อัตราโซนิค คลื่นกระแสไฟฟ้า มีคุณสมบัติทำให้ผู้สวมใส่สะดวกสบาย ความทนทาน และรวดเร็วในการผลิต โดยเปิดตัวทั้ง 6 ดีไซน์ สำหรับช่วงหน้าร้อนและจะเปิดอีก 10 ดีไซน์สำหรับช่วงหน้าหนาว ราคาตั้งแต่ 2,000-15,000 บาท

สำหรับแผนการตลาดสินค้าใหม่ E3 เน้นภายใต้แนวคิด” ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์”ทำให้คนพูดถึงความใหม่ของเทคโนโลยี  และมีความแตกต่างจากโปรดักส์อื่นๆ เพื่อเป็นการสร้างชื่อแบรนด์ด้วยตัวสินค้าเอง ซึ่งในช่วงแรกจะเน้นสร้างการรับรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีควบคู่ไปกับการสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการตลาดแบบ Buzz Marketing หรือการพูดบอกต่อกันไป ในเบื้องต้นวางงบการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศไว้ 20 ล้านบาท

ด้านตลาดต่างประเทศ บริษัทได้เตรียมรุกตลาด อเมริกา แคนาดา ยุโรป และในเอเชีย เบื้องต้นได้เตรียมทำเทรดโชว์เพื่อหาดิสทริบิวเตอร์ ล่าสุดบริษัทมีดิสทริบิวเตอร์แล้ว 5-6 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา เกาหลี สวีเดน ไต้หวัน และสเปน  สำหรับตลาดสินค้าแฟชั่นเอาท์ดอร์ในต่างประเทศ มีขนาดใหญ่มากเฉพาะในตลาอเมริกาสินค้าเอาท์ดอร์จำหน่าย 240,000 ล้านบาท เป็นเสื้อผ้าประมาณ 32% หรือ 76,800 ล้านบาท

ขณะที่ตลาดภายในประเทศกลุ่มเสื้อผ้าและอุปกรณ์แคมป์ปิ้งมีมูลค่าเพียง 300 ล้านบาท โดยในปีนี้บริษัทได้เตรียมขยายช่องทางจำหน่ายเพิ่ม 7 แห่ง แบ่งเป็น ตามห้างสรรพสินค้า 2 สาขา ได้แก่ ที่ เซ็นทรัล เวิลด์ พลาซา เป็นต้น ที่เหลืออีก 5 สาขาเป็นโชว์รูมของบริษัท โดยปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด  32 แห่ง ทั้งนี้ตั้งเป้ายอดขายเสื้อผ้าปราศจากรอยเย็บของเข็มและด้าย”E3” ในปีแรก 40 ล้านบาท แบ่งเป็นภายในประเทศ 12 ล้านบาท โดยคาดว่าภายในปี 2551 ยอดขายต่างประเทศประมาณ 400 ล้านบาท

แนวโน้มการแข่งขันของเสื้อผ้าแนวเอาท์ดอร์ยังไม่ค่อยมีความรุนแรงมากนัก โดยปัจจุบันมีแบรนด์จากต่างประเทศที่เข้ามาทำตลาด 2 แบรนด์ เช่น North Face เป็นต้น แต่เป็นลักษณะสปอร์ตแวร์มากกว่า อีกทั้งยังไม่มีเทคโนโลยี Kold Fusion อย่างเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ตามขณะนี้บริษัทยังได้ศึกษาถึงนวัตกรรมใหม่เป็นเสื้อผ้าไร้ตะเข็บ เพื่อรุกตลาดในอีก 5 ปีข้างหน้านี้ รวมทั้งรองรับพฤติกรรมของผู้บริโภค ซึ่งมีแนวโน้มต้องการสินค้าที่เป็นนิชมาร์เก็ตเพิ่มขึ้น

ปัจจุบันบริษัทดำเนินธุรกิจเสื้อผ้าและอุปกรณ์แนวเอาท์ดอร์มากกว่า 6 ปี  ประกอบด้วย 3 แบรนด์หลัก คือ ผลิตภัณฑ์เพื่อการตั้งแคมป์”คารานา”  เสื้อผ้าแนวผจญภัย”อีควินอกซ์ เอ็กซ์ตรีม” และเสื้อผ้าแนวแฟชั่น”แอดเวนเจอร์–อี” โดยผลประกอบการปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 30% หรือมีรายได้รวม 180 ล้านบาท แบ่งเป็น กลุ่มเสื้อผ้า 60-70 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 20% ที่เหลือ 80% หรือราว 110-120 ล้านบาท เป็นกลุ่มอุปกรณ์แคมป์ปิ้ง ทั้งนี้ตั้งเป้า 3 ปี กลุ่มเสื้อผ้าเพิ่มเป็น 60% ของรายได้รวม ส่วนอีก 40% เป็นกลุ่มแคมป์ปิ้ง    
กำลังโหลดความคิดเห็น