รมช.คมนาคมสั่งให้นโยบายกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี กำหนดมาตรการคุมเข้มและจัดระเบียบความปลอดภัยทางน้ำ ทั้งพื้นที่ชายฝั่งทะเล โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวและลำคลองที่ใช้สัญจรในกรุงเทพฯ เพื่อดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชน หลังมีข่าวเกิดอุบัติเหตุหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา ขู่หากใครฝ่าฝืน จะโดนลงโทษหนัก
นายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้เรียกผู้บริหารกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี (ขน.) มาให้นโยบายเร่งด่วนเกี่ยวกับความปลอดภัยทางน้ำ เนื่องจากขณะนี้อยู่ในช่วงฤดูท่องเที่ยวซึ่งมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลจำนวนมาก รวมทั้งที่ผ่านมาได้มีข่าวเกี่ยวกับอุบัติเหตุหลายครั้ง ล่าสุดได้เกิดอุบัติเหตุเกี่ยวกับผู้ขับขี่เจ็ตสกีกับนักท่องเที่ยวดำน้ำที่จังหวัดชลบุรี ดังนั้นกระทรวงคมนาคมจึงได้สั่งการให้ ขน.เข้มงวดในการจัดระเบียบและให้คำแนะนำกับนักท่องเที่ยวในเรื่องการกำหนดจุดจอดเรือ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่หลายจุด เช่น เกาะสมุย เกาะพงัน หมู่เกาะอ่างทอง และเกาะเต่า โดยปัจจุบันพื้นที่เหล่านี้ ขน.ได้มีกำหนดจุดจอดเรือไว้ 3 จุด แต่กฎหมายที่จะบังคับใช้ในการกำหนดจุดจอดเรือฉบับใหม่ที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 20 มิถุนายน 2549 ได้กำหนดโทษสำหรับผู้ไม่ปฏิบัติตามในการนำเรือเข้าไปจอดในจุดที่กำหนดให้ คือ จำคุกไม่เกิน 1 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาท โดยระหว่างนี้ขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจการของ ขน.เข้มงวดในการตักเตือนนักท่องเที่ยวไปก่อน
ทั้งนี้ ในการจัดระเบียบการขนส่งริมชายฝั่งทะเลปัจจุบัน นายภูมิธรรม ยอมรับว่าขณะนี้ ขน.ยังไม่มีอำนาจในการกำหนดเส้นทางเดินเรือให้ชัดเจน มีเพียงอำนาจในการกำหนดจุดจอดเท่านั้น โดยการกำหนดเส้นทางยังอยู่ในอำนาจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และขณะนี้ได้มีการปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 ใหม่และรอความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งกฎหมายฉบับดังกล่าวจะทำให้ ขน.มีอำนาจในการกำหนดเส้นทาง รวมถึงการกำหนดโซนนิ่งเรือท่องเที่ยว พื้นที่ใช้ในการดำน้ำ ซึ่งจะทำให้เกิดการควบคุมที่มีความปลอดภัยสูงสุดแก่นักท่องเที่ยว
นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมยังได้สั่งการให้ ขน.จัดระเบียบเรือโดยสารที่ใช้ในคูคลองในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะเรือโดยสารในคลองแสนแสบ โดยปัจจุบันมักมีปัญหาการละเลยไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ เช่น ปล่อยให้ผู้โดยสารขึ้นไปยืนบนกาบเรือก่อนเรือเทียบท่า ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ ซึ่งในวันที่ 18 มกราคมนี้ ได้มีการนัดประชุมผู้ประกอบการเดินเรือและผู้บริหาร ขน.เพื่อขอให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบ โดยในอนาคตหากผู้ประกอบการรายใดยังละเลยระเบียบที่จะก่อให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น ขน.ในฐานะหน่วยงานที่มีอำนาจก็จะดำเนินการลงโทษ โดยจะมีโทษสูงสุดยึดใบอนุญาตคนขับเรือ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้เรียกผู้บริหารกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี (ขน.) มาให้นโยบายเร่งด่วนเกี่ยวกับความปลอดภัยทางน้ำ เนื่องจากขณะนี้อยู่ในช่วงฤดูท่องเที่ยวซึ่งมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลจำนวนมาก รวมทั้งที่ผ่านมาได้มีข่าวเกี่ยวกับอุบัติเหตุหลายครั้ง ล่าสุดได้เกิดอุบัติเหตุเกี่ยวกับผู้ขับขี่เจ็ตสกีกับนักท่องเที่ยวดำน้ำที่จังหวัดชลบุรี ดังนั้นกระทรวงคมนาคมจึงได้สั่งการให้ ขน.เข้มงวดในการจัดระเบียบและให้คำแนะนำกับนักท่องเที่ยวในเรื่องการกำหนดจุดจอดเรือ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่หลายจุด เช่น เกาะสมุย เกาะพงัน หมู่เกาะอ่างทอง และเกาะเต่า โดยปัจจุบันพื้นที่เหล่านี้ ขน.ได้มีกำหนดจุดจอดเรือไว้ 3 จุด แต่กฎหมายที่จะบังคับใช้ในการกำหนดจุดจอดเรือฉบับใหม่ที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 20 มิถุนายน 2549 ได้กำหนดโทษสำหรับผู้ไม่ปฏิบัติตามในการนำเรือเข้าไปจอดในจุดที่กำหนดให้ คือ จำคุกไม่เกิน 1 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาท โดยระหว่างนี้ขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจการของ ขน.เข้มงวดในการตักเตือนนักท่องเที่ยวไปก่อน
ทั้งนี้ ในการจัดระเบียบการขนส่งริมชายฝั่งทะเลปัจจุบัน นายภูมิธรรม ยอมรับว่าขณะนี้ ขน.ยังไม่มีอำนาจในการกำหนดเส้นทางเดินเรือให้ชัดเจน มีเพียงอำนาจในการกำหนดจุดจอดเท่านั้น โดยการกำหนดเส้นทางยังอยู่ในอำนาจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และขณะนี้ได้มีการปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 ใหม่และรอความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งกฎหมายฉบับดังกล่าวจะทำให้ ขน.มีอำนาจในการกำหนดเส้นทาง รวมถึงการกำหนดโซนนิ่งเรือท่องเที่ยว พื้นที่ใช้ในการดำน้ำ ซึ่งจะทำให้เกิดการควบคุมที่มีความปลอดภัยสูงสุดแก่นักท่องเที่ยว
นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมยังได้สั่งการให้ ขน.จัดระเบียบเรือโดยสารที่ใช้ในคูคลองในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะเรือโดยสารในคลองแสนแสบ โดยปัจจุบันมักมีปัญหาการละเลยไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ เช่น ปล่อยให้ผู้โดยสารขึ้นไปยืนบนกาบเรือก่อนเรือเทียบท่า ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ ซึ่งในวันที่ 18 มกราคมนี้ ได้มีการนัดประชุมผู้ประกอบการเดินเรือและผู้บริหาร ขน.เพื่อขอให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบ โดยในอนาคตหากผู้ประกอบการรายใดยังละเลยระเบียบที่จะก่อให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น ขน.ในฐานะหน่วยงานที่มีอำนาจก็จะดำเนินการลงโทษ โดยจะมีโทษสูงสุดยึดใบอนุญาตคนขับเรือ