ดับบลิว พี เอ็มทุ่มงบประมาณ 400 ล้านบาท ซื้อสิทธิ์ภาพยนตร์ต่างประเทศกว่า 100 เรื่อง เผยปีนี้ทำตลาดหนัง 10 กว่าเรื่อง โดยเฉพาะหนังเกาหลี 3 เรื่อง ภายใต้งบตลาด 30 ล้านบาท มั่นใจเทรนด์เกาหลีที่กำลังมาแรงมัดใจผู้บริโภคคนไทยได้ เล็งขยายช่องทางไปยังกลุ่มสื่อสารผ่านทางบรอดแบนด์ ตั้งเป้ายอดรายได้โต30%
นายจิรัฐ บวรวัฒนะ รองประธานกรรมการ บริษัท ดับบลิว พี เอ็ม ฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัทในเครือโรส วีดีโอ เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าเพิ่มการถือครองสิทธิ์และจัดจำหน่ายภาพยนตร์ที่มีความหลากหลายมากขึ้น โดยเตรียมงบประมาณไว้กว่า 400 ล้านบาทในการจัดซื้อลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ต่างประเทศกว่า 100 เรื่องและจะมีการทำตลาดให้กับภาพยนตร์ที่จะฉายในโรงภาพยนตร์ 10 กว่าเรื่อง แบ่งเป็น ภาพยนตร์เกาหลี 3 เรื่อง ได้แก่ Duelist นำแสดงโดยคัง ดอง วอน ,Daisy นำโดยจวน จี ฮุนและ Typhoon นำแสดงโดยแจง ดองกัน ส่วนที่เหลือเป็นภาพยนตร์จากฮอลลีวู้ด เช่น Bable นำแสดงโดยแบรด พิตต์ และภาพยนตร์ฮ่องกง เป็นต้น
“ปีนี้บริษัทฯทุ่มงบการตลาด 30 ล้านบาทในการทำตลาดให้กับภาพยนตร์เกาหลีทั้ง 3 เรื่อง เนื่องจากปัจจุบันเทรนด์เกาหลีกำลังมาแรงมาก เห็นได้จากภาพยนตร์,โฆษณา,เครื่องสำอาง,เกมออนไลน์ ฯลฯ ดังนั้นบริษัทฯจึงมั่นใจกับ 3 เรื่องนี้และคาดว่าจะมีรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท”
นอกจากนี้บริษัทฯยังได้มีการปรับโครงสร้างองค์กรให้เป็นบริษัทผู้ทำธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์แบบครบวงจร และมีการปรับแบรนด์ให้มีความเป็นแฟมิลี่แบรนด์หรือสินค้าบันเทิงเพื่อคนในครอบครัวมากขึ้น รวมถึงบริษัทฯยังมีแผนสร้างความชัดเจนให้กับลิขสิทธิ์หนังที่ซื้อมาและมีการส่งต่อให้บริษัทโรส วีดีโอ จำกัดผลิตเป็นวีซีดีและดีวีดีจำหน่าย อีกทั้งการขายสิทธิ์ให้กับทีวีและเคเบิ้ลทีวี เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดให้มีความหลากหลายมากขึ้น ซึ่งขณะนี้บริษัทฯกำลังเจรจากับกลุ่มสื่อสารหลายรายในการเผยแพร่ภาพยนตร์ผ่านทางบรอดแบนด์ ซึ่งตรงนี้เชื่อว่าจะเป็นเทรนด์ที่เติบโตในอนาคต
ล่าสุดบริษัทฯเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องแรกของปีนี้เรื่อง Keeping Mum (สาธุ...ป่วนเลิก) ซึ่งเป็นภาพยนตร์ตลกสอดแทรกการเสียดสี นำแสดงโดยโรแวน แอ็ตคินสันหรือมิสเตอร์บีน กำหนดฉายจริงในวันที่ 19 ม.ค.49 นี้
สำหรับยอดรายได้ของบริษัทฯปี 2548 มียอดรายได้รวม 800-900 ล้านบาท แบ่งเป็น การจำหน่ายภาพยนตร์ผ่านโรงภาพยนตร์และภาพยนตร์ในรูปแบบซีดีและดีวีดีมีประมาณ 320 ล้านบาท โดยในปีนี้บริษัทฯตั้งเป้ายอดรายได้จากตลาดภาพยนตร์นำเข้าโต 20-30%