xs
xsm
sm
md
lg

ธปท.เช็คภาวะเงินเฟ้อก่อนปรับดอกเบี้ยอาร์พี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้บริหารแบงก์ชาติ ระบุการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาร์พีครั้งต่อไป จะพิจารณาจากแรงกดดันต่ออัตราเงินเฟ้อเป็นหลัก เชื่ออัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงกลับมาเป็นบวกได้ในช่วงกลางปีนี้ มั่นใจค่าเงินที่แข็งขึ้นไม่เป็นปัญหากับการส่งออก เพราะยังอยู่ในอัตราเดียวกับคู่แข่ง

นางอัจนา ไวความดี
ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การประชุม กนง. ครั้งต่อไป จะนำประเด็นเรื่องแรงกดดันที่มีต่ออัตราเงินเฟ้อมาเป็นหลักในการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตลาดพันธบัตรซื้อคืนระยะ 14 วัน (อาร์พี) หรืออัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งในปัจจุบันแรงกดดันที่มีต่อภาวะเงินเฟ้อยังคงมีอยู่ แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะเริ่มลดลงแล้วก็ตาม เพราะยังมีสินค้าบางรายการรอปรับขึ้นราคาอยู่

อย่างไรก็ตาม การที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายทยอยปรับขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้ ช่วยให้การเร่งตัวของอัตราเงินเฟ้อเริ่มลดลงบ้างแล้ว ขณะเดียวกัน จะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงกลับมาเป็นบวกได้ในช่วงกลางปี 2549 ตามที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการ ธปท. เคยระบุไว้ เนื่องจากขณะนี้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารพาณิชย์หลายแห่งเริ่มทยอยปรับขึ้นบ้างแล้ว ดังนั้น เชื่อว่าในที่สุด อัตราดอกเบี้ยเงินฝากจะสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปได้

สำหรับทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐนั้น นางอัจนา เชื่อว่า คณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟด คงจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง ตามที่ตลาดเงินคาดการณ์ไว้ แต่การพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะขึ้นอยู่กับความเหมาะสมที่มีต่อสถานการณ์ และภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศสหรัฐในขณะนั้นด้วย โดยความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจสหรัฐดังกล่าว ได้ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะการที่สหรัฐยังคงเผชิญกับปัญหาการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักลงทุนลดความเชื่อมั่นที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ทำให้มีการเคลื่อนย้ายเงินลงทุนจากดอลลาร์สหรัฐมาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ และค่าเงินของภูมิภาคเอเชียรวมถึงประเทศไทยด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น

นางอัจนา กล่าวว่า ในส่วนค่าเงินบาทของไทยนั้น ธปท.คงพิจารณาอัตราแลกเปลี่ยนของประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียเป็นหลัก ซึ่งหากเงินบาทของไทยแข็งค่าใกล้เคียงกับเงินสกุลอื่นในภูมิภาคเดียวกันก็ไม่เป็นปัญหา เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจภาคการส่งออกของไทย เพราะยังสามารถแข่งขันได้ทั้งประเทศคู่แข่งและคู่ค้า แต่หากเงินบาทแข็งค่ามากกว่า ทาง ธปท. ก็ต้องเข้าไปดูแลเพื่อไม่ให้การส่งออกของไทยเสียเปรียบทางการแข่งขันทางการค้า

ส่วนกรณีที่มีเงินลงทุนไหลเข้ามายังตลาดหลักทรัพย์ของไทยในปริมาณค่อนข้างมากในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมานั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนักลงทุนต่างชาติยังมีความเชื่อมั่นต่อปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ว่ายังมีความมั่นคงและมีเสถียรภาพพอที่จะลงทุน ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี
กำลังโหลดความคิดเห็น