สสปน.จับมือสมาคมบรรจุภัณฑ์ไทย สมาคมการพิมพ์ไทย และ เมเซ ดูเซอร์ดอร์ฟ จัดงาน Pack Print International 2007 ในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 26 - 29 เมษายน 2550 ด้าน “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” สั่ง สสปน.จัดการประชุมและนิทรรศการนานาชาติในต่างจังหวัด เพื่อกระตุ้นให้คนไทยเกิดการเรียนรู้และพัฒนา และทำให้ประเทศไทยมีรายได้จากผู้มาร่วมงานต่างประเทศ
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่าง 4 องค์กร นำโดยสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) กับสมาคมบรรจุภัณฑ์ และสมาคมการพิมพ์ไทย รวมทั้ง เมสเซ ดูเซดอร์ฟ ซึ่งจะร่วมกันจัดงานนิทรรศการการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ระดับโลก หรือ Pack Print International 2007 ในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 26 - 29 เมษายน 2550 คาดว่า จะมีผู้ร่วมแสดงนิทรรศการ 300 ราย และผู้เข้าชมงานจากนานาประเทศกว่า 20,000 คน
นายสุวัจน์ กล่าวว่า การจัดงานนิทรรศการและการประชุมนานาชาติ ทำให้มีผู้ร่วมงานและผู้ชมงานจากนานาประเทศเดินทางมาในประเทศไทย และใช้จ่ายเงินด้านต่างๆ โดยปีที่ผ่านมามีประมาณ 2 ล้านคน สร้างรายได้แก่ประเทศถึง 400,000 ล้านบาท ซึ่งหากเทียบกับรายได้กับภาคอุตสาหกรรมแล้วน้อยกว่า 8 เท่า แต่เงินที่ได้เข้าถึงระดับรากหญ้าและให้ผลทางเศรษฐกิจมากกว่า จึงมีนโยบายให้ สสปน.พิจารณาจัดงานนิทรรศการและการประชุมนานาชาติในต่างจังหวัดให้มากขึ้น เพราะนอกจากจะสร้างรายได้แล้ว ยังทำให้เกิดการกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ประชาชนในพื้นที่ส่วนภูมิภาคทราบว่า ไม่สามารถอยู่นิ่งได้อีกต่อไปแล้ว เพราะขณะนี้มีเทคโนโลยีและเครื่องมือใหม่ๆ เกิดขึ้น จึงจำเป็นต้องพัฒนาตัวเองและปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งสิ่งนี้มีคุณค่ากับประเทศไทยมากกว่ารายได้ที่เกิดขึ้น
สำหรับพื้นที่ต่างจังหวัดที่ สสปน.อาจดำเนินการจัดงานประชุมและนิทรรศการนานาชาติ เช่น จังหวัดลำปาง มีความเชี่ยวชาญเรื่องเซรามิก ก็จัดงานเกี่ยวกับเซรามิกขึ้น จะทำให้ผู้ประกอบการในจังหวัดลำปางได้เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อนำไปปรับปรุงพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนได้ในที่สุด
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่าง 4 องค์กร นำโดยสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) กับสมาคมบรรจุภัณฑ์ และสมาคมการพิมพ์ไทย รวมทั้ง เมสเซ ดูเซดอร์ฟ ซึ่งจะร่วมกันจัดงานนิทรรศการการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ระดับโลก หรือ Pack Print International 2007 ในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 26 - 29 เมษายน 2550 คาดว่า จะมีผู้ร่วมแสดงนิทรรศการ 300 ราย และผู้เข้าชมงานจากนานาประเทศกว่า 20,000 คน
นายสุวัจน์ กล่าวว่า การจัดงานนิทรรศการและการประชุมนานาชาติ ทำให้มีผู้ร่วมงานและผู้ชมงานจากนานาประเทศเดินทางมาในประเทศไทย และใช้จ่ายเงินด้านต่างๆ โดยปีที่ผ่านมามีประมาณ 2 ล้านคน สร้างรายได้แก่ประเทศถึง 400,000 ล้านบาท ซึ่งหากเทียบกับรายได้กับภาคอุตสาหกรรมแล้วน้อยกว่า 8 เท่า แต่เงินที่ได้เข้าถึงระดับรากหญ้าและให้ผลทางเศรษฐกิจมากกว่า จึงมีนโยบายให้ สสปน.พิจารณาจัดงานนิทรรศการและการประชุมนานาชาติในต่างจังหวัดให้มากขึ้น เพราะนอกจากจะสร้างรายได้แล้ว ยังทำให้เกิดการกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ประชาชนในพื้นที่ส่วนภูมิภาคทราบว่า ไม่สามารถอยู่นิ่งได้อีกต่อไปแล้ว เพราะขณะนี้มีเทคโนโลยีและเครื่องมือใหม่ๆ เกิดขึ้น จึงจำเป็นต้องพัฒนาตัวเองและปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งสิ่งนี้มีคุณค่ากับประเทศไทยมากกว่ารายได้ที่เกิดขึ้น
สำหรับพื้นที่ต่างจังหวัดที่ สสปน.อาจดำเนินการจัดงานประชุมและนิทรรศการนานาชาติ เช่น จังหวัดลำปาง มีความเชี่ยวชาญเรื่องเซรามิก ก็จัดงานเกี่ยวกับเซรามิกขึ้น จะทำให้ผู้ประกอบการในจังหวัดลำปางได้เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อนำไปปรับปรุงพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนได้ในที่สุด