xs
xsm
sm
md
lg

ทีบีดับบลิวเอรื้อองค์กรรับศึกหนักโฆษณา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทีบีดับบลิวเอ\ ประเทศไทยปรับทัพองค์กรครั้งใหญ่  พร้อมแต่งตั้งคนรุ่นใหม่ “ชาคริต” เป็นเอ็มดีลุยงานโฆษณา  เชื่อก้าวต่อไปของธุรกิจโฆษณาจะเน้นแตกบิสิเนสที่มีความถนัดเฉพาะด้านออกมาแข่งขัน  เผยการบริหารงานของทีบีดับบลิวเอจะเน้นพัฒนาคนซึ่งถือเป็นหัวใจของอุตฯให้มีคุณภาพ   ตั้งเป้ายอดรายได้ปีนี้โต10% จากการพัฒนาคนและได้ลูกค้าใหม่เกือบ 10 ราย   ส่วนตลาดรวมโฆษณาปีจอคาดว่าจะทรงตัวเหมือนปีที่แล้ว จากสารพัดปัจจัยลบที่มีต่อเนื่อง  

นายชัยประนิน วิสุทธิผล
 ประธานกรรมการบริหาร บริษัททีบีดับบลิวเอ\ ประเทศไทย  จำกัด เปิดเผยว่า  บริษัทฯได้ปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ทั้งในส่วนการจัดการระบบการบริหารองค์กรใหม่และทรัพยากรบุคคลใหม่  ล่าสุดแต่งตั้งกรรมการผู้จัดการคนใหม่คือ นายชาคริต เตชะนภารักษ์   ซึ่งจะมาดูแลในส่วนการบริหารจัดการ,กลยุทธ์ต่างๆและคน   รวมถึงได้ใช้งบลงทุนกว่า 40 ล้านบาทสร้างสำนักงานใหม่ ตั้งอยู่ที่ อาคารโกลเด้นพาวิลเลี่ยน ราชดำริ   เพื่อรองรับการขยายตัวของปริมาณงานและบุคลากรที่เพิ่มขึ้น   เพราะบุคลากรถือว่าเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรของเอเยนซี่โฆษณา

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจก้าวต่อไปของบริษัทฯนั้น องค์กรจะต้อง Smaller, Smart และ Specialist กล่าวคือ องค์กรจะมีการแบ่งสายงานออกเป็นบิสิเนสอิสระหรือกลุ่มที่ถนัดเฉพาะด้านแยกออกมา  เพื่อให้การทำงานมีอิสระ มีคล่องตัวสูงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น  รวมถึงแต่ละหน่วยจะต้องมีPassionate,Flexible และDynamic  หรือการมีเป้าที่ชัดเจน,มีความยืดหยุ่น และการปรับตัวตลอดเวลา    ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯมีบิสิเนส ยูนิตที่แยกออกมา เช่น ครีเอทีฟ จูซ \ จีวัน หรือเทอกีล่า\ประเทศไทย  ที่ดูแลงานทางด้านการบริหารความสัมพันธ์ลูกค้าหรืองานบีโลว์ เดอะ ไลน์

เน้นพัฒนาคนรับมือการแข่งขันในตลาด

ด้านนายชาคริต เตชะนภารักษ์  กรรมการผู้จัดการ บริษัททีบีดับบลิวเอ\ ประเทศไทย  จำกัด เปิดเผยว่า  การดำเนินธุรกิจในปีนี้ของบริษัทฯจะเน้นการพัฒนาบุคลากรหรือคนเป็นหลัก  เพื่อสร้างศักยภาพและความแข็งแกร่งในการรองรับกับการแข่งขันในตลาด  ภายใต้แนวคิด “ดิสรัปชั่น” ซึ่งเป็นเครื่องมือและนิวไอเดียใหม่ทางด้านการติดต่อสื่อสารในการแก้ปัญหาและกำหนดกลยุทธ์ธุรกิจของลูกค้า  รวมถึงการใช้ “คอนเนคชั่น แพลน” ที่ครอบคลุมทั้งอโบฟ เดอะ ไลน์และบีโลว์ เดอะ ไลน์    

ปัจจุบันบริษัทฯมีลูกค้ากว่า 40 รายในหลายกลุ่มสินค้า  เช่น กรีนสปอต,โดโซะ,เซเว่น อีเลฟเว่น, นีเวีย, ทีโอเอ,ออเร้นจ์ และอาดิดาส เป็นต้น     ส่วนลูกค้าใหม่ที่ได้มีเกือบ 10 รายหรือ 13 แบรนด์   เช่น นิสสัน ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่มียอดบิลลิ่ง 200 ล้านบาท, รพ.พญาไท 2 ,โออิชิ  (ผลิตภัณฑ์อะมิโน โอเคและลำไย)  ,ปตท.,เมก้า,ซากุระ,สหไทย สตีล ไพพ์,สสส. และแอร์เทรน   ขณะที่กลุ่มสินค้าที่บริษัทฯยังไม่มี  เช่น กลุ่มประกันภัยหรือประกันชีวิต

“แนวโน้มการดำเนินธุรกิจโฆษณา มองว่าเอเจนซีแต่ละรายจะมีความเป็นสเปเชี่ยลลิสมากขึ้น หรือการทำโฆษณาจะมีทั้งอโบฟ เดอะ ไลน์ และบีโลว์ เดอะ ไลน์   รวมถึงแนวทางที่แตกไปที่การสร้างแบรนด์มากขึ้น  จากเดิมที่จะเน้นแต่การทำโฆษณาอย่างเดียว   ซึ่งแตกต่างจากปัจจุบันที่โลกมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วทั้งเทคโนโลยีและไอเดียใหม่ๆ  ดังนั้นเราจึงต้องพัฒนาคนให้มีความรู้และความสามารถเพื่อรองรับกับการแข่งขันในตลาด”      

ปัจจัยลบส่งผลให้ภาพรวมโฆษณาปีนี้ทรงตัว

สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาปีนี้มองว่าตลาดจะโตประมาณ 6% หรือทรงตัวเท่ากับปีที่แล้ว   เนื่องจากตลาดยังมีปัจจับลบด้านต่างๆ เช่น ราคาน้ำมันและภัยแล้ง เป็นต้น  ขณะที่เม็ดเงินโฆษณาในอุตสาหกรรมมีมูลค่ารวมกว่า 85,000 ล้านบาท      ส่วนการแข่งขันของอุตสาหกรรมโฆษณาคาดว่าจะมีความรุนแรงมากขึ้น  ดังนั้นเอเจนซีจะต้องมีจุดยืนที่ชัดเจนและที่สำคัญคนต้องมีคุณภาพ

ในส่วนของลูกค้าที่มาใช้บริการเอเจนซีปีที่ผ่านมาพบว่าลูกค้าส่วนใหญ่มีการลดงบโฆษณาลง เช่น กลุ่มเทเลคอมลดงบลงกว่า 10% ,สินค้ากลุ่มแอลกอฮอล์ และอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น  ขณะที่กลุ่มลูกค้าคอนซูเมอร์ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการใช้เม็ดเงินโฆษณามากที่สุดก็ลดงบประมาณลงเล็กน้อยเช่นกัน  เช่น บริษัทพี แอนด์ จี

สำหรับยอดรายได้ของบริษัทฯปี 2548 มีประมาณ 2,500 ล้านบาทและมีอัตราการเติบโต 11-12% จากปีก่อน   โดยรายได้แบ่งเป็นของTequila (เทอกีล่า) คิดเป็นสัดส่วน 18%  หรือประมาณ 200 ล้านบาท  ปีนี้บริษัทฯคาดว่ายอดรายได้รวมจะโต 10% จากการพัฒนาคนและการได้ลูกค้ารายใหม่เกือบ 10 ราย
กำลังโหลดความคิดเห็น