ททท.หน้าบาน เอกชนแห่ร่วมเป็นสปอนเซอร์จัดงาน บางกอกฟิล์มฯ2006 คุยผลงานที่ผ่านมา ส่งประเทศไทยขึ้นแท่นติดอันดับตลาดซื้อขายหนังระดับโลก ส่งผลปีนี้ ควักกระเป๋าจ่ายแค่ 38 ล้าน จากที่ผ่านมาต้องใช้เงินตัวเองถึง 100 ล้านบาท ระบุปีนี้จัดใหญ่สมเป็นปีฉลองการครองราชสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครบ 60 ปี เลือกใช้พื้นที่สยามพารากอนตลอดการจัดงาน คาดปีนี้มูลค่าซื้อขายฟิล์มปีนี้โต 20%
นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ ผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์ต่างประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างจัดเตรียมการจัดงาน เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพ ปี 2549 หรือ บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล ฟิล์ม เฟสติวัล 2006 ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-27 กุมภาพันธ์ 49 ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน ครั้งนี้นับเป็นปีที่ 4 ของการจัดงาน
ทั้งนี้การเตรียมงานได้คืบหน้าไปกว่า 60% แล้ว โดยปีนี้ภาคเอกชนได้ให้การสนับสนุนการจัดงานดังกล่าวแก่ ททท. คิดเป็นมูลค่ากว่า 70 ล้านบาท เช่น พื้นที่จัดงาน ที่สยามพารากอน ซึ่งททท.ได้ฟรี ไม่เสียค่าเช่า ซึ่ง ททท. จะใช้พื้นที่นี้เพื่อจัดพิธิเปิดงาน และจัดฉายภาพยนตร์ฟรีตลอดการจัดงาน ตรงนี้หากคิดเป็นค่าใช้จ่ายก็จะประมาณ 10 ล้านบาท
ส่วนการบินไทย ให้การสนับสนุนตั๋วเครื่องบิน คิดเป็นมูลค่า 15 ล้านบาท บริษัท รถยนต์ บีเอ็มดับเบิ้ลยู ให้รถสำหรับรับ-ส่ง แขก วีไอพี และ ดารานักแสดงที่จะเข้ามาร่วมงาน คิดเป็นมูลค่า 30 ล้านบาท โรงแรมคอนราด สนับสนุนห้องพัก เป็นต้น ในส่วนของ ททท. คาดว่าปีนี้จะใช้งบประมาณ เพื่อจัดงานบางกอกฟิล์ม ประมาณ 38 ล้านบาท ซึ่งน้อยกว่าทุกปีที่จัดมา ซึ่งจะใช้งบประมาณอยู่ที่ราว 100 ล้านบาท
“ปีนี้ที่เอกชนต่างก็มาเข้าร่วมของเป็นผู้สนับสนุนการจัดงานบางกอกฟิล์ม ก็เพราะว่า เป็นงานที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยในระดับโลกได้ ซึ่งตอนนี้ต้องยอมรับงาน งาน บางกอกฟิล์มที่ประเทศไทยจัดขึ้น ได้ถูกบันทึกลงในปฎิทินของผู้อยู่ในธุรกิจอุตสาหกรรมซื้อขายและผลิตภาพยนตร์ในระดับโลกไปแล้ว”
อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้สถานที่ที่สยามพารากอน เพราะต้องการรวมพื้นที่จัดงาน ให้อยู่เพียงแห่งเดียว ซึ่ง สยามพารากอน มีทั้ง โรงภาพยนตร์ ห้องประชุม คอมเพล็กซ์ อยู่รวมกัน จะยิ่งทำให้มาตรฐานการจัดงานดูเป็นสากลมากยิ่งขึ้น เพราะ ที่ผ่านมา เราต้องใช้หลายสถานที่ กระจายจัดงาน เช่น โรงภาพยนตร์ สกาล่า แกรนด์อีจีวี สยามดิสคัฟเวอร์รี่ และโรงแรม แชงกรีล่า โดยรูปแบบการจัดงานปีนี้ก็จะจัดให้ยิ่งใหญ่ สมเป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครองราชครบ 60 ปี ในโครงการ ไทยแลนด์ แกรนด์อินวิเทชั่น
สำหรับพิธีในวันเปิดงาน ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 49 คณะกรรมการผู้จัดงาน ได้คัดเลือก ภาพยนตร์เรื่อง Invisible Waves ซึ่งเป็นภาพยนตร์จากฝีมือการกำกับของคนไทย “ เป็นเอก รัตนเรือง” มาฉายเป็นภาพยนตร์เปิดงาน
โดยปีนี้ ททท.ได้เชิญ ผู้ซื้อและผู้ขายจากต่างประเทศ เข้ามาร่วมงานนี้ประมาณ 500 ราย และจะมีการตั้งบูธเพื่อเจรจาซื้อ-ขายภาพยนตร์ไทยและต่างชาติไม่น้อยกว่า 120 บูธ คาดว่าการซื้อขายในปีนี้จะเติบโตจากปีก่อนซึ่งมีมูลค่าซื้อขายอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท อีกราว 15.20% ส่วนภาพยนตร์ที่ตอบรับว่าจะนำมาร่วมออกบูธขาย มาจากหลายประเทศ อาทิเช่น มาเลเซีย เวียดนาม ฟิลิลปปินส์ อินโดนีเซีย สวิสเซอร์แลนด์ ออสเตรเลีย สเปน และเยอรมัน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ททท.มั่นใจว่า งานบากกอกฟิล์มปีนี้ จะได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติ เป็นจำนวนมาก โดยปีนี้จะมีผู้สื่อข่าวจากต่างประเทศเข้ามาร่วมทำข่าวกว่า 200 คน ตรงนี้จะช่วยในการประชาสัมพันธ์ประเทศไทย ให้เป็นที่รู้จักแก่นักท่องเที่ยวทั่วโลกมากขึ้น ประกอบกับสถานที่จัดงานที่ใช้สยามพารากอน จะส่งสัญญาณให้เห็นความพร้อมของประเทศไทยที่จะเป็นศูนย์กลางการชอปปิ้งของเอเชียได้ เป็นการส่งผลดีในระยะยาวให้กับการท่องเที่ยวของประเทศไทย
นายธเนศวร์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของภาพยนตร์ไทย ที่จะเข้าร่วมฉายในงานบางกอกฟิล์มปีนี้ กำลังอยู่ระหว่างหารือกับสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ ซึ่งคาดว่าจะสามารถคัดเลือกภาพยนตร์ไทยมาฉายได้ประมาณ 15 เรื่อง ในส่วนของดาราฮอลลีวู๊ด ที่จะเข้ามาร่วมในวันเปิดงาน ททท.ได้ส่งจดหมายเชิญไปประมาณ 50 คน ซึ่งเตรียมทยอยตอบรับมาบ้างแล้ว สำหรับปีนี้สิ่งที่เพิ่มเติมมาเป็นพิเศษ คือ จะเปิดให้ผู้สนใจ อบรมฟรี เรื่องกระบวนการผลิตภาพยนตร์ โดยจะมีผู้กำกับชื่อดังมาถ่ายทอดประสบการณ์ให้ฟัง
นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ ผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์ต่างประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างจัดเตรียมการจัดงาน เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพ ปี 2549 หรือ บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล ฟิล์ม เฟสติวัล 2006 ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-27 กุมภาพันธ์ 49 ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน ครั้งนี้นับเป็นปีที่ 4 ของการจัดงาน
ทั้งนี้การเตรียมงานได้คืบหน้าไปกว่า 60% แล้ว โดยปีนี้ภาคเอกชนได้ให้การสนับสนุนการจัดงานดังกล่าวแก่ ททท. คิดเป็นมูลค่ากว่า 70 ล้านบาท เช่น พื้นที่จัดงาน ที่สยามพารากอน ซึ่งททท.ได้ฟรี ไม่เสียค่าเช่า ซึ่ง ททท. จะใช้พื้นที่นี้เพื่อจัดพิธิเปิดงาน และจัดฉายภาพยนตร์ฟรีตลอดการจัดงาน ตรงนี้หากคิดเป็นค่าใช้จ่ายก็จะประมาณ 10 ล้านบาท
ส่วนการบินไทย ให้การสนับสนุนตั๋วเครื่องบิน คิดเป็นมูลค่า 15 ล้านบาท บริษัท รถยนต์ บีเอ็มดับเบิ้ลยู ให้รถสำหรับรับ-ส่ง แขก วีไอพี และ ดารานักแสดงที่จะเข้ามาร่วมงาน คิดเป็นมูลค่า 30 ล้านบาท โรงแรมคอนราด สนับสนุนห้องพัก เป็นต้น ในส่วนของ ททท. คาดว่าปีนี้จะใช้งบประมาณ เพื่อจัดงานบางกอกฟิล์ม ประมาณ 38 ล้านบาท ซึ่งน้อยกว่าทุกปีที่จัดมา ซึ่งจะใช้งบประมาณอยู่ที่ราว 100 ล้านบาท
“ปีนี้ที่เอกชนต่างก็มาเข้าร่วมของเป็นผู้สนับสนุนการจัดงานบางกอกฟิล์ม ก็เพราะว่า เป็นงานที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยในระดับโลกได้ ซึ่งตอนนี้ต้องยอมรับงาน งาน บางกอกฟิล์มที่ประเทศไทยจัดขึ้น ได้ถูกบันทึกลงในปฎิทินของผู้อยู่ในธุรกิจอุตสาหกรรมซื้อขายและผลิตภาพยนตร์ในระดับโลกไปแล้ว”
อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้สถานที่ที่สยามพารากอน เพราะต้องการรวมพื้นที่จัดงาน ให้อยู่เพียงแห่งเดียว ซึ่ง สยามพารากอน มีทั้ง โรงภาพยนตร์ ห้องประชุม คอมเพล็กซ์ อยู่รวมกัน จะยิ่งทำให้มาตรฐานการจัดงานดูเป็นสากลมากยิ่งขึ้น เพราะ ที่ผ่านมา เราต้องใช้หลายสถานที่ กระจายจัดงาน เช่น โรงภาพยนตร์ สกาล่า แกรนด์อีจีวี สยามดิสคัฟเวอร์รี่ และโรงแรม แชงกรีล่า โดยรูปแบบการจัดงานปีนี้ก็จะจัดให้ยิ่งใหญ่ สมเป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครองราชครบ 60 ปี ในโครงการ ไทยแลนด์ แกรนด์อินวิเทชั่น
สำหรับพิธีในวันเปิดงาน ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 49 คณะกรรมการผู้จัดงาน ได้คัดเลือก ภาพยนตร์เรื่อง Invisible Waves ซึ่งเป็นภาพยนตร์จากฝีมือการกำกับของคนไทย “ เป็นเอก รัตนเรือง” มาฉายเป็นภาพยนตร์เปิดงาน
โดยปีนี้ ททท.ได้เชิญ ผู้ซื้อและผู้ขายจากต่างประเทศ เข้ามาร่วมงานนี้ประมาณ 500 ราย และจะมีการตั้งบูธเพื่อเจรจาซื้อ-ขายภาพยนตร์ไทยและต่างชาติไม่น้อยกว่า 120 บูธ คาดว่าการซื้อขายในปีนี้จะเติบโตจากปีก่อนซึ่งมีมูลค่าซื้อขายอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท อีกราว 15.20% ส่วนภาพยนตร์ที่ตอบรับว่าจะนำมาร่วมออกบูธขาย มาจากหลายประเทศ อาทิเช่น มาเลเซีย เวียดนาม ฟิลิลปปินส์ อินโดนีเซีย สวิสเซอร์แลนด์ ออสเตรเลีย สเปน และเยอรมัน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ททท.มั่นใจว่า งานบากกอกฟิล์มปีนี้ จะได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติ เป็นจำนวนมาก โดยปีนี้จะมีผู้สื่อข่าวจากต่างประเทศเข้ามาร่วมทำข่าวกว่า 200 คน ตรงนี้จะช่วยในการประชาสัมพันธ์ประเทศไทย ให้เป็นที่รู้จักแก่นักท่องเที่ยวทั่วโลกมากขึ้น ประกอบกับสถานที่จัดงานที่ใช้สยามพารากอน จะส่งสัญญาณให้เห็นความพร้อมของประเทศไทยที่จะเป็นศูนย์กลางการชอปปิ้งของเอเชียได้ เป็นการส่งผลดีในระยะยาวให้กับการท่องเที่ยวของประเทศไทย
นายธเนศวร์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของภาพยนตร์ไทย ที่จะเข้าร่วมฉายในงานบางกอกฟิล์มปีนี้ กำลังอยู่ระหว่างหารือกับสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ ซึ่งคาดว่าจะสามารถคัดเลือกภาพยนตร์ไทยมาฉายได้ประมาณ 15 เรื่อง ในส่วนของดาราฮอลลีวู๊ด ที่จะเข้ามาร่วมในวันเปิดงาน ททท.ได้ส่งจดหมายเชิญไปประมาณ 50 คน ซึ่งเตรียมทยอยตอบรับมาบ้างแล้ว สำหรับปีนี้สิ่งที่เพิ่มเติมมาเป็นพิเศษ คือ จะเปิดให้ผู้สนใจ อบรมฟรี เรื่องกระบวนการผลิตภาพยนตร์ โดยจะมีผู้กำกับชื่อดังมาถ่ายทอดประสบการณ์ให้ฟัง